ถึงอายุแต่ 37 ปีแล้ว แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสิ่งนี่เป็นเพียงแค่ตัวเลข หลังเหมา 3 ประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3- เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
นี่ถือเป็นแฮตทริกครั้งที่ 59 ของ ดาวยิงชาวโปรตุกีส ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งในปัจจุบัน หากนับนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ก็ไม่มีทำได้เทียบเท่าหรือมากกว่า CR7 อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปย้อนรำลึกการทำแฮตทริกของ โรนัลโด้ ว่าเป็นอย่างไรในช่วงที่เขาค้าแข้งกับอยู่สโมสร หรือยามเล่นให้กับทีมชาติ
2 ครั้งกับ ‘ปีศาจแดง’
โรนัลโด้ สร้างชื่ออย่างมากกับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงแรกระหว่างปี 2003-2009 หรือประมาณ 6 ปี และจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นยอดแข้งระดับโลกในเวลาต่อมา
ทว่าช่วงเวลานั้น CR7 กลับทำแฮตทริกได้เพียงหนเดียวเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2007-08 ในเกมถล่ม นิวคาสเซิล 6-0 ซึ่งนั่นถือเป็นแฮตทริกของเขาในอาชีพค้าแข้งอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การกลับมาค้าแข้งใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คำรบที่ 2 ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ไม่ได้รวดเร็วเช่นหลายปีก่อน แต่อดีตปีกจอมสับก็ยังแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในการจบสกอร์ก่อนทำแฮตทริกหนที่ 2 ให้กับ ‘ปีศาจแดง’ ในเกมลักนัดล่าสุดที่เฉือน ‘ไก่เดือยทอง’ 3-2
ร่างทองกับ ‘โลส บลังโกส’
ไม่ผิดนักหากจะบอกว่า เรอัล มาดริด ที่ใช้เวลาค้าแข้งนานที่สุด และประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาชีพด้วย กับ 9 ปีในซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย
นอกจากนี้ยังรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ราชันชุดขาว ด้วยจำนวน 450 ประตูจาก 438 นัดในทุกรายการ มีค่าเฉลี่ยยิงประตูทุก 1.03 ลูกต่อเกม จึงไม่แปลกที่สโมสรแห่งนี้จะเป็นทีมที่เขาทำแฮตทริกในอาชีพมากที่สุด
44 ครั้งคือจำนวนแฮตทริกทั้งหมดที่ CR7 ทำได้ยามสวมเสื้อ โลส บลังโกส ตลอด 9 ฤดูกาลในสเปน และทำสถิติเกี่ยวแฮตทริกในสโมสรมากมาย ทั้งทำแฮตทริกเร็วที่สุด (8 นาที) เทียบเท่า เปปิญโย่ ในยุค 1960, ทำแฮตทริกมากที่สุดในสโมสร, แฮตทริกมากเป็นอันดับ 2 ในลาลีก้า (34) เป็นรองแค่ ลิโอเนล เมสซี่ (35) หรือ ทำแฮตทริกมากที่สุดในฤดูกาลเดียว (8 ครั้ง – ฤดูกาล 2014-15)
ยังไว้ลายกับ ‘ม้าลาย’
ดาวเตะวัย 37 ปี ย้ายมาเล่นให้กับ ยูเวนตุส ในปี 2018 ด้วยความคาดหวังว่าจะพาสโมสรประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขารอคอยกว่า 20 กว่าปี น่าเสียดายที่สิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลย ตลอด 3 ปีของ CR7 ในตูริน
แต่ในแง่ของฟอร์มการเล่นและความสำเร็จ ดาวเตะเลือดฝอยทอง ก็ยังถือว่าสอบผ่านกับ 101 ประตู ระหว่างปี 2018-2021 พร้อมกับแชมป์ เซเรียอา 2 สมัย และ โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย
ในส่วนของแฮตทริก ก็ทำได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้นตลอด 3 ซีซั่นกับ เบี่ยงโคเนรี่ โดยแบ่งเป็นการทำแฮตทริกใส่ กายารี่ ในเกมลีก ถึง 2 หน และอีกครั้งคือการทำแสบใส่ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ตำนานทัพ ‘ฝอยทอง’
ในทีมชาติโปรตุเกส โรนัลโด้ ติดธงรับใช้ชาติบ้านเกิดตั้งแต่ 2003 โดยปัจจุบันเขาลงเล่นไปมากกว่า 184 นัด พร้อมทำไป 115 ประตู ทำสถิติเป็นนักเตะชายที่ยิงประตูสูงสุดในเกมทีมชาติ
นอกจากนี้การทำแฮตทริกได้ในเกมถล่ม ลักเซมเบิร์ก เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 ทำให้ CR7 ทำแฮตทริกไปแล้ว 10 ครั้งในทีมชาติ และกลายเป็นนักเตะที่ทำแฮตทริกแตะเลข 2 หลักได้คนแรกในเกมทีมชาติอีกด้วย
เหยื่อที่โด้โปรดปราน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า 59 คือตัวเลขที่ เจ็ตโด้ ทำแฮตทริกได้ในอาชีพค้าแข้ง และแน่นอนว่าย่อมมีสโมสรที่โดนเขากด 3 ประตูรัวๆมากกว่าแค่ครั้งเดียว
แต่ไม่มีทีมไหนที่ ดาวยิงวัย 37 ปีโปรดปรานมากไปกว่า เซบีย่า อีกแล้ว เมื่อทำแฮตทริกไปมากถึง 5 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในเกมลาลีก้า ส่วนแอตเลติโก้ มาดริด คือเหยื่ออันดับที่ 2 ของเขาที่โดนทำแฮตทริกไป 4 ครั้ง
โดย 3 ครั้งแรกเกิดขึ้นสมัยที่เขายังเล่นให้ เรอัล มาดริด ขณะที่หนสุดท้ายเกิดขึ้นในตอนที่เขาย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส และพบกันใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ใครบ้างที่ทำได้ใกล้เคียง?
หากนับแค่นักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่ โรนัลโด้ คือนนักเตะที่ทำแฮตทริกมากที่สุดเหนือใคร โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ คู่แค้นแสนรัก ตามมาติดๆด้วยแฮตทริกจำนวน 55 ครั้ง
แต่หากนับสถิติสูงสุดตลอดกาล CR7 ยังห่างไกลและคงยากที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าสถิติเบอร์หนึ่งในตำแหน่งนี้ได้ เพราะ เปเล่ ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นนักเตะที่ทำแฮตทริกมากที่สุดจาก กินเนสส์บุ๊ค ที่ทำไปทั้งหมด 92 ครั้งจาก 20 ปีที่โลดแล่นบนฟลอร์หญ้า
อีกทั้งยังมี เออร์วิน เฮล์มเชน กองหน้าชาวเยอรมันผู้ล่วงลับไปในยุค 80 ซึ่งตามที่อ้างอิงจากวิกิพีเดียแล้ว เขาคือผู้ทำแฮตทริกในอาชีพค้าแข้งมากที่สุดตลอดกาล ด้วยจำนวน 141 ครั้ง
เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่แล้ว การทำแฮตทริกเกิดขึ้นในเกมลีกเมืองเบียร์ระดับล่าง หรือดิวิชั่นระดับท้องถิ่น ซึ่งหมายความว่าจำนวนเหล่านี้จะไม่ถูกนับเป็นสถิติเหมือนกับของ พี่โด้ และ ลุงเล่ อีกทั้ง เฮล์มเชน ไม่เคยลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการให้กับทีมชาติ เยอรมัน ด้วยซ้ำ