ในโซนคอนคาเคฟ เม็กซิโก ถือเป็นทีมขาประจำที่มักคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาตลอด โดยผ่านเข้ามาได้ถึง 17 จาก 22 ครั้ง
ถ้าหากไม่นับปี 1990 ที่โดนแบนไป ทัพ ‘จังโก้’ เข้ารอบต่อเนื่องถึง 9 ครั้งติดต่อกันเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตลอด 7 ครั้งก่อนหน้านี้ พวกเขากระเด็นตกรอบ 16 ทีมทุกครั้ง
ไม่แปลกที่ในเวิลด์คัพที่ กาตาร์ เม็กซิโก จึงตั้งเป้าขอให้ไปได้ไกลว่าที่เคย ด้วยทะลุเข้ารอบลึกกว่านี้ให้ได้ ทว่าพวกเขามีศักยภาพพร้อมมากขนาดนั้นหรือไม่ UFA ARENA จะพาไปเจาะลึกผ่านบทความนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
เม็กซิโก ถือเป็นหนึ่งในทีมขาประจำฟุตบอลโลก หลังจากพวกเขาทะลุเข้ามาเล่นรอบสุดท้าย 7 สมัยติดต่อกัน และถ้านับรวมทั้งหมด ขุนพล ‘จังโก้’ ได้โชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายมาแล้วถึง 16 ครั้ง โดยผลงานดีที่สุดคือการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในปี 1970 และ 1986
แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ก่อนหน้านี้ เม็กซิโก เข้ารอบสุดท้ายบอลโลกมา 7 ครั้งหลังสุด แต่พวกเขาจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมทุกครั้ง ทำให้หลายคนมองว่า เม็กซิโก เป็นทีมที่ดี แต่อาจยังดีไม่พอที่จะไปได้ไกลกว่านี้
เส้นทางสู่กาตาร์
ส่วนในศึกฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นการเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 17 เม็กซิโก ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์ของรอบคัดเลือก รอบสาม โซนคอนคาเคฟ โดยมี 28 แต้มจาก 14 นัด เท่ากับแชมป์คือ แคนาดา แต่ผลต่างประตูได้-เสียของเม็กซิโกเป็นรอง
แต่อย่างน้อย ผลงานในระดับทวีปเองก็ยังทำได้ดีอยู่ทั้งการเข้าชิงคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2 สมัยติด พร้อมกับคว้าแชมป์ในปี 2019 มาครองได้
ผู้จัดการทีม : เคราร์โด้ มาร์ติโน่
ทีมชุดนี้ของเม็กซิโก ยังนำมาโดย เคราร์โด้ มาร์ติโน่ อดีตกุนซือของบาร์เซโลน่า ชาวอาร์เจนไตน์ ที่เข้ามารับหน้าที่ตั้งแต่ปี 2019 และเป็นผู้พาทีมคว้าแชมป์โกลด์ คัพ ได้
โดยกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ เคยมีประสบการณ์คุมสโมสรและทีมชาติมาอย่างโชกโชน ทั้ง ปารากวัย ที่พาลุยบอลโลกในปี 2010 รวมถึงจบรองแชมป์ โคปา อเมริกา ปี 2011 รวมไปถึงคุมทัพ ฟ้าขาว ชาติบ้านเกิด แต่ไปไม่ถึงฝันหลังจบรองแชมป์บอลทวีป 2 ครั้งในปี 2015 และ 2016
ดาวเด่น : เอ็ดสัน อัลวาเรซ
ขณะที่ขุมกำลังของทัพจังโก้ เป็นการผสมผสานกันระหว่างผู้เล่นจอมเก๋า กับแข้งพลังหนุ่ม โดยแข้งประสบการณ์สูงของทีมหลายคนลงรับใช้ชาติมาเกิน 100 นัด ไม่ว่าจะเป็น อันเดรส กวาร์ดาโด้ (เรอัล เบติส) กิเยร์โม โอชัว (อเมริกา) เอคตอร์ โมเรโน่ (มอนเทอร์เรย์) เอคตอร์ เอร์เรร่า (ฮุสตัน ไดนาโม) รวมถึง ราอูล ฮิเมเนซ กองหน้าจากวูล์ฟแฮมป์ตัน
ขณะที่แข้งหนุ่มมีพึ่งพาได้ มีทั้ง ฮอร์เก้ ซานเชซ (อาแจ็กซ์) เออร์วิ่ง โลซาโน่ ( นาโปลี) แต่ที่ต้องจับตามากที่สุดคือ เอ็ดสัน อัลวาเรซ มิดฟิลด์วัย 24 ปีจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
อัลวาเรซ เป็นมิดฟิลด์เชิงรับที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในลีกยุโรป และกลายเป็นเป้าหมายที่สโมสรยักษ์ใหญ่จ้องกระชากตัวไปร่วมทีม หากโชว์ฟอร์มได้ไฉไลในฟุตบอลโลก อาจได้เห็นเขาย้ายทีมในค่าตัวแตะหลัก 50 ล้านยูโรเป็นอย่างน้อยก็เป็นได้
ตารางแข่งขัน
เม็กซิโก จะเปิดสนามพบกับ โปแลนด์ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นเกมสำคัญที่ชี้วัดโอกาสเข้ารอบ ก่อนดวลกับ อาร์เจนติน่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน และปิดท้ายด้วยการพบ ซาอุดีอาระเบีย ในอีก 4 วันต่อมา
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
แน่นอนว่าเป้าหมายของ เม็กซิโก คือการก้าวข้ามรอบ 16 ทีมสุดท้ายนี้ให้ได้เสียที หลังมีอันต้องอกหักทุกครั้งไป อย่างไรก็ตามกว่าจะไปถึงตรงนั้น ก็ต้องผ่านเพื่อนร่วมกลุ่มให้ได้เสียก่อน ซึ่งคราวนี้เป็นงานที่หนักเพราะต้องเจอกับทั้ง อาร์เจนตินา หรือ โปแลนด์ ที่มีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้อยู่ รวมถึงซาอุดีอาระเบีย ตัวแทนจากเอเชียอีกด้วย
คาดว่าทัพ ‘ฟ้าขาว’ น่าจะเป็นทีมแรกที่จองตั๋วเข้ารอบ ส่วนตั๋วอีกใบคงเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง เม็กซิโก กับ โปแลนด์ ซึ่งเกรดบอลไม่ต่างกันมากนัก และหากผ่านไปรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็อาจจอดในรอบนั้น เนื่องจากมีโอกาสสูงที่เจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส แชมป์เก่า
อย่างไรก็ตามทัพ จังโก้ ที่ชอบมาแบบมวยรอง อาจทำให้แฟนบอลได้เห็นสร้างเซอร์ไพรส์ที่ กาตาร์ ก็เป็นได้