สเปน เป็นทีมที่มีดีกรีอดีตแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย แต่อยู่ในช่วงยุคของการเปลี่ยนแปลงทีมเข้าสู่ยุคใหม่เต็มตัว ภายใต้การนำทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตนักเตะทีมชาติและอดีตผู้จัดการทีมของ บาร์เซโลน่า
ทีมชุดนี้ถูกสร้างทีมขึ้นมาโดยใช้ผู้เล่นหนุ่มวัยห้าวเป็นหลัก ผนึกกำลังกับแข้งเก๋ามากประสบการณ์ โดยมีเป้าหมายคือการทำให้พวกเขากลับมาผงาดอีกครั้งเหมือนกับที่รุ่นพี่เคยทำไว้ในอดีตช่วง 10 กว่าปีก่อน
แต่ทว่าทัพ ‘กระทิงดุ’ ชุดนี้ จะสร้างตำนานในบอลโลกที่ กาตาร์ ได้หรือไม่ UFA ARENA จะขอพาไปเจาะลึกผ่านบทความนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
จากที่เคยได้รับฉายา ‘หมูสนามสิงห์สนามซ้อม’ ทีมชาติสเปน ก้าวขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ด้วยการครองบัลลังก์ แชมป์โลก มาแล้ว 1 สมัย เมื่อศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งถูกยกให้เป็นยุคทองของพวกเขาอีกด้วย
แต่หลังจากนั้น ผลงานของทัพ ‘กระทิงดุ’ ก็ดร็อปลงไปชัดเจนในเวทีเวิลด์คัพ โดยกระเด็นตกรอบแรก ปี 2014 ที่บราซิล และจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมหลังเจอปัญหานอกสนามรุมเร้าจนพ่าย รัสเซีย เจ้าภาพ ในปี 2018
เส้นทางสู่กาตาร์
ส่วนในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ถือเป็นการผ่านเข้ามาโชว์ฝีเท้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 16 ของสเปน โดยพวกเขาควั๋าตั๋วมาลุยกาตาร์ ในฐานะแชมป์กลุ่ม B รอบคัดเลือก โซนยุโรป ด้วยผลงานลงสนาม 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 1 และแพ้ 1
ส่วนฟอร์มในรอบคัดเลือกก็ดุกับสมฉายา หลังซัดไป 15 ประตู ขณะที่เกมรับก็ดีที่สุดในกลุ่ม หลังเสีย 5 ลูกเท่านั้น
ผู้จัดการทีม : หลุยส์ เอ็นริเก้
หลุยส์ เอ็นริเก้ เข้ามาคุมทัพ สเปน ในเดือนกรกฎาคมปี 2018 แต่หลังจากนั้นราว 11 เดือน เอ็นริเก้ขอลาออก เพื่อไปดูแลลูกสาวที่ป่วยโรคมะเร็งกระดูก ก่อนที่เขาจะได้กลับมาคุมทีม ‘กระทิงดุ’ อีกครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน 2019 และทำหน้าที่มาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สำหรับแนวทางการทำทีมของเอ็นริเก้ เขาสร้างทีมโดยใช้ผู้เล่นสายเลือดใหม่เป็นหลัก เพื่อที่จะได้ใช้งานในระยะยาว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งผู้เล่นมากประสบการณ์ที่คอยช่วยประคองรุ่นน้องในบางโอกาสเช่นกัน
โดยผลงานที่ผ่านมาของ กุนซือวัย 52 ปี คงไม่ต้องพูดเยอะ เนื่องจากประสบความสำเร็จสุดๆกับ บาร์เซโลน่า ที่พาทีมกวาดทุกแชมป์ที่ลงเล่น
ดาวเด่น : เปดรี้
นักเตะคนสำคัญของทีมชาติสเปนชุดนี้ คงหนีไม่พ้น เปดรี้ เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนให้กับทีมได้อย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ทีมชาติสเปนจะขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด
โดยดาวเตะจาก บาร์เซโลน่า สร้างชื่อด้วยการคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากศึกยูโร 2020 และกวาดรางวัลดาวรุ่งแห่งปีมาแล้วจากหลายสำนัก เช่นเดียวกับ กาบี เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมปีล่าสุด
นอกจากนี้ทัพ ‘กระทิงดุ’ ยังมีแข้งหนุ่มวัย 20 ต้นๆ ไปถึง 20 กลางๆ อย่าง เอริค การ์เซีย, เปา ตอร์เรส, เฟร์รัน ตอร์เรส, โรดรี้, มาร์โก อเซนซิโอ้ ซึ่งพร้อมผนึกกำลังกับรุ่นพี่จอมเก๋าอย่าง ฆอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตส์, โกเก้ รวมถึง ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์จากลิเวอร์พูล ที่น่าจะมีชื่อไปลุยกาตาร์ กรณีที่ฟิตสมบูรณ์
ตารางแข่งขัน
สเปน จะประเดิมฟุตบอลโลกในปีนี้ด้วยการพบ คอสตาริก้า ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ก่อนดวลเกมสำคัญที่อาจชี้ชะตาแชมป์กลุ่มกับ เยอรมัน ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตบท้ายด้วยการพบกับ ญี่ปุ่น ในวันที่ 1 ธันวาคม
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
สเปน อยู่ในกลุ่ม E ร่วมกับ เยอรมนี, ญี่ปุ่น และ คอสตาริกา ซึ่งเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาสำหรับการผ่านเข้ารอบ แต่อาจจะต้องแย่งตำแหน่งแชมป์กลุ่มกับ “อินทรีเหล็ก”
บทสรุปในเกมนั้น จะส่งผลต่อการพบกับคู่แข่งจากกลุ่ม F แน่นอน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็น เบลเยียม หรือไม่ก็ โครเอเชีย
นี่เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งที่ 2 ของเอ็นริเก้ในการคุมทีมชาติสเปน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นคนทำทีมที่ไม่หวือหวา แต่มีความมั่นคงในตัวเอง และมีแนวทางที่ชัดเจน อย่างที่แสดงให้เห็นในยูโร 2020
และบางทีแนวทางแบบนี้อาจส่งให้ กระทิงดุ ยุคใหม่ตามรอยรุ่นพี่ที่เป็นยุคทองก็เป็นได้