ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง หลังห่างหายไปร่วม 1 เดือนเศษๆ
ปัจจุบัน UCL ซีซั่นนี้ได้เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย และต้องบอกว่าในปีนี้ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้ปีไหนๆ และเป็นการแข่งขันที่แฟนบอลทั่วโลกต่างเฝ้ารอว่าจะเกิดอะไรในช่วง 4 สัปดาห์ต่อจากนี้
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปวิเคราะห์ 8 ประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดจากทั้งหมด 8 คู่ในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาลนี้
เรืองานเบา? | สปอร์ติ้ง ลิสบอน พบ แมนฯ ซิตี้
ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพ เชื่อว่าหลายคนต้องยกให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือกว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน อยู่หลายเท่าตัว ซึ่งไม่ใช่ว่าทีมจากโปรตุเกสเป็นทีมที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะ ‘เรือใบสีฟ้า’ ภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั่นแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก เห็นได้จากผลงานในลีก รวมไปถึงรอบแบ่งกลุ่มใน UCL ด้วย
ด้วยสไตล์การเล่นของ ซิตี้ อาจทำให้พวกเขาครองบอลเหนือคู่แข่งเกิน 50% แน่นอน อย่างไรก็ตาม ลิสบอน ชุดปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากพวกเขาคือทีมที่เพิ่งคว้าแชมป์ลีกไพรมีร่า ลีก้า ได้ครั้งแรกในรอบ 19 ปี และไม่แน่ว่าพวกเขาอาจกลายเป็นม้ามืดประจำปีนี้ของ แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เป็นได้ แต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ซิตี้ ฟอร์มหลุดต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ
เมสซี่ ของแสลงราชันฯ | เปแอสเช พบ เรอัล มาดริด
ลิโอเนล เมสซี่ ลงเล่นพบ เรอัล มาดริด ทั้งหมด 45 ครั้งในทุกรายการตลอดอาชีพค้าแข้ง โดยเขาเอาชนะได้ 19 ครั้ง ยิงไป 26 ประตู กับ 14 แอสซิสต์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่เล่นให้ บาร์เซโลน่า แม้เขาจะพ่ายในเกม เอล กลาซิโก้ 3 ครั้งหลังสุดก่อนย้ายซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ทำให้ เหล่า ‘มาดริดนิสต้า’ หวั่นใจไม่น้อย เมื่อเจอกับ ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า
และต่อให้ เมสซี่ ยังฟอร์มไม่ปังเท่าตอนเล่นใน สเปน ใน เปแอสเช ก็ยังมียอดแข้งอยู่มากมาย อีกทั้งบางคนก็เป็นนักเตะเก่าด้วย เช่น อัชราฟ ฮาคิมี่ หรือ เซร์คิโอ้ รามอส น่าเสียดายที่รายหลังเจ็บน่อง คงพลาดลงเล่นในเกมเลกแรก
นอกเหนือจากประเด็นของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กับการดวลว่าที่ต้นสังกัดใหม่ในอนาคตอันใกล้ด้วย และไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาแบบไหน ก็คงสร้างความบันเทิงให้แฟนบอลได้อย่างแน่อน
พี่เสือก็งานเบา? | ซัลซ์บวร์ก พบ บาเยิร์น มิวนิค
บาเยิร์น มิวนิค เป็น 1 ใน 3 ทีมที่กวาดชัยครบ 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ โดยกดไปถึง 22 นัด และเสียเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น ไม่แปลกที่พวกเขาจะถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์อยู่ แม้มี ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ เป็นกุนซือหนุ่มคุมทัพอยู่ก็ตาม
ซัลซ์บวร์ก แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เต็มไปดาวรุ่งฝีเท้าดี และเป็นสโมสรมีค่าเฉลี่ยอายุน้อยที่สุดใน UCL ซีซั่นนี้ (23) โดยมี คาริม อเดเยมี่ เป็นตัวชูโรง แต่ศักยภาพของทีมโดยรวมก็ยังห่างชั้นกว่า ‘เสือใต้’ อยู่หลายขุม
อีกทั้งประวัติการพบกัน 2 นัดก่อนก็โดน บาเยิร์น กดยับ 9 ประตู เชื่อว่าทีมพลังหนุ่มจาก ออสเตรีย คงมาไกลได้เพียงเท่านี้
เชโก้, ซาลาห์ วัดคม | อินเตอร์ มิลาน พบ ลิเวอร์พูล
อินเตอร์ มิลาน ที่เสียทั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ และ โรเมลู ลูกากู กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ภายใต้การคุมทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ ที่เน้นเล่นเกมรุกมากขึ้นกว่ายุค คอนเต้ ชัดเจน แถมกองหน้าตัวเก๋าที่ย้ายมาใหม่อย่าง เอดิน เชโก้ ยังปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างดี
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็โชว์ฟอร์มแจ่มไม่แพ้กัน แถมตอนนี้ได้ตัวหลักกลับมาครบแล้ว โดยเฉพาะแนวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ทวีปแอฟริกากับทีมชาติเซเนกัล
คาดว่าเกมนี้คงเป็นการวัดกันที่เกมรุกของทั้ง 2 ทีมเป็นหลักว่าใครจะเด็ดขาดกว่ากันในการจบสกอร์ โดยเฉพาะทั้ง ซาลาห์ กับ เชโก้ ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมล่าตาข่ายด้วยกันสมัยเล่นกับ โรม่า
ก้าวแรกของการป้องกันแชมป์ | เชลซี พบ ลีลล์
ลีลล์ เป็นหนึ่งในสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลุกปั้นดาวรุ่งมาประดับวงการมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้พวกเขาต้องมาเจอกับ แชมป์เก่าอย่าง เชลซี ที่เคยคว้า เอเด็น อาซาร์ ไปร่วมเมื่อ 10 ปีก่อน
หลังคว้าแชมป์สโมสรโลกมาหมาดๆ ทำให้ ‘สิงห์บลูส์’ ของ โธมัส ทูเคิ่ล มั่นใจสุดๆ เช่นกัน แต่นี่ก็เป็นบททดสอบแรกของทีมจากลอนดอนว่าพวกเขาจะสามารถผ่านเข้าไปรอบลึกๆจนถึงรอบชิงชนะเลิศเพื่อป้องกันแชมป์ UCL ได้หรือไม่
และด้วยดีกรีแชมป์ลีกเอิงในฤดูกาลก่อนของ ลีลล์ พวกเขาคงทุ่มเกินร้อยไม่ยอมตกรอบแบบง่ายๆแน่นอน โดยมี โจนาธาน เดวิด เป็นดาวยิงตัวความหวังที่ช่วยให้พวกเขาคว้าอันดับหนึ่งในรอบแบ่งกลุ่มได้
วลาโฮวิชประเดิม UCL | บียาร์เรอัล พบ ยูเวนตุส
อูไน เอเมรี่ สร้างความตกใจให้แฟนบอลพอสมควร เมื่อพา บียาร์เรอัล ผ่านเข้ามาเล่นรอบน็อคเอ้าท์ในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาเขาชอบพาทีมที่ตัวเองคุมตกรอบถ้วยใหญ่ เพื่อไปคว้าแชมป์ในถ้วยรองอย่าง ยูโรป้า ลีก แทน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนั้นอาจได้รับการพูดถึงน้อยลง หลัง ยูเวนตุส คู่แข่งของพวกเขาในรอบนี้ เสริมแกร่งด้วยการคว้า ดูซาน วลาโฮวิช หอกดาวรุ่งฟอร์มแรงจาก ฟิออเรนติน่า มาร่วมทีม พร้อมประเดิมประตูแรกให้กับ ม้าลาย เรียบร้อยในเซเรียอา
นั่นทำให้หลายคนจับตามอง ดาวยิงชาวเซิร์บ กับการประเดิมในเวที UCL ครั้งแรกว่าจะทำผลงานได้สมกับที่แฟนๆ ‘เบี่ยงโคเนรี่’ คาดหวังหรือไม่
อัลแลร์ลุ้นดาวซัลโว | เบนฟิก้า พบ อาแจ็กซ์
อาแจ็กซ์ ทำผลงานได้สุดแกร่งในฤดูกาลนี้ ทั้งในเอเรดิวิซี่ หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก อีกทั้ง เซบาสเตียน อัลแลร์ ก็กลายเป็นกองหน้าที่พวกเขาขาดไม่ได้ หลังกดไปแล้ว 10 ประตูจาก 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม รั้งดาวซัลโวของรายการเหนือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพียงลูกเดียว
และการเจอกับ เบนฟิก้า ที่แม้โชว์ฟอร์มเด่นอัด บาร์เซโลน่า มาเละเทะในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ศักยภาพโดยรวมก็ไม่ได้เหนือกว่าสโมสรจากอัมสเตอร์ดัม สักเท่าไหร่นัก และรอบนี้อาจเป็นเกมที่ ดาวยิงทีมชาติไอวอรี่โคสต์ยิงประตูเพิ่มเพื่อลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ด้วย
CR7 ตัวแสบตราหมี | แอตฯ มาดริด พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
ช่วง 6 ปีนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ไปจนถึง 2018-19 ทุกทีมที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ค้าแข้งอยู่ สามารถเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ถึง 5 ครั้ง ทั้งในรอบนัดชิง ปี 2014 กับ 2016, รอบ 8 ทีมสุดท้ายปี 2015 และ รอบตัดเชือกปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่กับ เรอัล มาดริด
แม้ CR7 ย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส ในฤดูกาล 2018-19 แถมแพ้ไปก่อนในเลกแรกด้วยสกอร์ 2-0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็โดน ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส กดแฮตทริก พลิกชนะเขี่ย ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ให้ตกรอบไปอีกครั้ง
ดังนั้นถึงแม้ว่าฟอร์มของ ‘ปีศาจแดง’ ในมือของ ราล์ฟ นังนิค จะย่ำแย่น่าเป็นห่วง หรือตัว โรนัลโด้ ที่ฟอร์มฝืดยิงใครไม่ได้มา 6 เกมติด ก็เชื่อว่าเขายังคงเป็นตัวแสบที่ แอตฯ มาดริด ต้องระวังเอาไว้ และไม่ควรประมาทแม้แต่นิดเดียว