ในช่วง 5 ปีหลังสุด ลิเวอร์พูล ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกถึง 3 ครั้ง เพียงแต่ว่าพวกเขาก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์จริงๆแค่ปีเดียวเท่านั้น
หลังได้เข้าชิงในรายการนี้เป็นหนที่ 4 ในอาชีพกุนซือของ คล็อปป์ เขาก็พบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อ ‘หงส์แดง’ ของเขา พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด คู่ชิงจากปี 2018 ที่ย้ำแค้นอีกครั้งด้วยสกอร์ 0-1 จากประตูโทนของ วินิซิอุส จูเนียร์ ทำให้เขาต้องรอต่อไปกับการคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ในฐานะกุนซือ
นับตั้งแต่ ยูโรเปี้ยน คัพ ถูกรีแบรนด์ชื่อรายการใหม่ตั้งแต่ปี 1992 มีเพียงผู้จัดการไม่กี่คนที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้มากกว่า 1 ครั้ง และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 กุนซือที่คว้าแชมป์ UCL ได้ 2 สมัยหรือมากกว่านั้นผ่านบทความ
คาร์โล อันเชล็อตติ | 4 สมัย
จากชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล ในสนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ที่ฝรั่งเศส ฤดูกาลนี้ ทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ลีก กับการพาทีมคว้า 4 แชมป์ในรายการนี้
อันเช่ เคยคว้าแชมป์ยุโรปสมัยเป็นนักเตะอาชีพกับ เอซี มิลาน 2 ครั้ง ก่อนคว้าแชมป์ UCL ในฐานะกุนซือครั้งแรกกับ รอสโซเนรี่ ในปี 2003 ด้วยการล้ม ยูเวนตุส, ตามด้วย ลิเวอร์พูล ปี 2007, แอตเลติโก้ มาดริด ปี 2014 และ หงส์แดงของ คล็อปป์ ในปี 2022
นอกจากนี้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยังยกระดับความเป็นตำนานไปอีกขั้นด้วยการเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรปได้ด้วย
ซีเนดีน ซีดาน | 3 สมัย
คงไม่มีใครคาดคิดว่า ตำนานกองกลางอย่าง ซีเนดีน ซีดาน จะไปได้ไกลในเส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมขนาดนี้ หลังจากรับช่วงต่อจาก ราฟาเอล เบนิตเซ ในการคุม เรอัล มาดริด ปี 2015 และพาทีมคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ตั้งแต่ปีแรกในการเป็นกุนซือ
เท่านั้นยังไม่พอ ซิซู ยังกลายเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าแชมป์ UCL ได้ 2 สมัยซ้อน ก่อนยกระดับสถิตินี้ขึ้นไปอีกด้วยการพา ‘โลส บลังโกส’ เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ยุโรปได้ 3 ปีติดในยุคของ แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ปี 2016-2018
อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส อำลาตำแหน่ง นายใหญ่ ในเบอร์นาเบว หลังเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ในปี 2018 แต่หลังจากนั้นไม่ถึงปีก็กลับมาคุมทีมใน มาดริด อีกครั้ง หลังทีมฟอร์มตกสุดๆ จากการลาทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และช่วยให้ทีมกลับมาคว้าแชมป์ลาลีก้าอีกครั้งในปี 2020
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ | 2 สมัย
อีกหนึ่งผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ที่เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ สำหรับ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ด้วยการคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกได้ถึง 2 สมัย จากการพา ราชันชุดขาว เข้าชิง 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2000-2002
โดยในปี 2000 กุนซือชาวสแปนิช พา มาดริด เอาชนะ บาเลนเซีย ไปแบบสบายๆด้วยสกอร์ 3-0 แต่ปีต่อมา พ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ว่าที่แชมป์ในตอนนั้น แต่ปี 2002 ก็กลับมาชูถ้วย UCL อีกครั้ง ด้วยการเฉือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 โดยได้ประตูชัยจากลูกวอลเลย์สุดสวยของ ซีดาน ที่ยังติดตาตรึงใจแฟนบอลจนถึงทุกวันนี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า | 2 สมัย
การที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลคงไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยนัก หลังการสร้าง บาร์เซโลน่า ชุดที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ 2 ครั้งในเวลาแค่ 3 ปี
โดย กุนซือชาวสแปนิช ประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้นงานคุมทีมแบบเต็มตัวตั้งแต่ปีแรก กับฤดูกาล 2008-09 ด้วยการคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ และล้ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าในนัดชิง UCL ปีนั้น
อีก 2 ปี ต่อมา เป๊ป ก็พา ‘อาซูลกราน่า’ คว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง ด้วยการเล่นงาน ‘ปีศาจแดง’ อีกครั้งที่ เวมบลี่ย์ ซึ่งทั้ง 2 ครั้งที่คว้าแชมป์ยุโรปก็มี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นดาวเด่นประจำทีม
ทว่าหลังจากนั้น เป๊ป กลับไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้อีกเลย นับตั้งแต่ลา บาร์ซ่า ในปี 2012 แม้ว่าคุมทีมระดับเงินถุงเงินถังอย่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในปัจจุบันก็ตาม
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน | 2 สมัย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน น่าจะเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ กับการพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศนานกว่า 2 ทศวรรษ รวมไปถึงการคว้าแชมป์ยุโรปถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาที่ห่างกัน 9 ปี
หนแรกเกิดขึ้นในปี 1999 กับ ‘ปีศาจแดง’ ชุด ทริปเบิ้ลแชมป์ หลัง เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ลงมายิงประตูแซง บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศ UCL ช่วงทดเวลาครึ่งหลัง ณ สนาม คัมป์นู
จากนั้น เฟอร์กี้ ก็พา ยูไนเต็ด คว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ก่อนปิดท้ายฤดูกาล 2007-08 ด้วยการเอาชนะ เชลซี ในช่วงดวลจุดโทษชี้ขาดที่มอสโก
จริงๆ กุนซือชาวสก็อต มีโอกาสคว้าแชมป์ยุโรปได้มากกว่า 2 สมัยด้วย หากไม่พ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า ในนัดชิงชนะเลิศอีก 2 ครั้งถัดมา
จุ๊ปป์ ไฮย์เกส | 2 สมัย
ผู้จัดการทีมระดับตำนานชาวเยอรมันอย่าง จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ก็เคยคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย กับ 2 สโมสร จากช่วงเวลาที่ห่างกันถึง 15 ปี
แชมป์ยุโรปครั้งแรกของ ไฮย์เกส เกิดขึ้นกับ เรอัล มาดริด หลังเอาชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในปี 1998 จากประตูชัยของ เปแดร็ก มิยาโตวิช แต่หนที่ 2 ของเขาทำได้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมกับการคว้าทริปเบิ้ลแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013
ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้นคือ แม้ ‘เสือใต้’ จบรองแชมป์ 3 รายการติดในปี 2012 แต่ ไฮย์เกส ก็เปลี่ยนความผิดหวังมากระตุ้นให้เป็นพลังจนทำให้ทีมแก้ตัวกลับมาผงาดคว้า 3 แชมป์ในปีต่อมา และลาตำแหน่งกุนซือของ บาเยิร์น ได้อย่างสมเกียรติ
โชเซ่ มูรินโญ่ | 2 สมัย
ตลอดเวลาในเส้นทางผู้จัดการทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดดราม่า ซึ่งเริ่มต้นจากการสร้างชื่อในปอร์โต้ ที่พาทีมจากโปรตุเกส เป็นม้ามืดคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกได้แบบเหลือเชื่อในปี 2004 ก่อนย้ายไปคุม เชลซี
แม้พา ‘สิงห์บลูส์’ คว้าแชมป์ยุโรปไม่ได้ แต่ เดอะ สเปเชี่ยล วัน ก็ได้สัมผัสถ้วย UCL เป็นหนที่ 2 กับ อินเตอร์ มิลาน หลังพาทีมคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2009-10 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-0 จากการเหมา 2 ประตูของ ดีเอโก้ มิลิโต้
อีกทั้งในรอบน็อคเอ้าท์ กุนซือแดนฝอยทอง ยังพา ‘งูใหญ่’ ล้มทีมเบอร์ต้นๆในยุโรปได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการพบ เชลซี ทีมเก่า รวมไปถึง บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป ที่เป็นแชมป์เก่า ซึ่งในเกมนั้นเขาโชว์ความเหนียวแน่นในเกมรับ ด้วยการยันสกอร์จนเอาชนะไปได้ แม้มีผู้เล่นแค่ 10 คนก็ตาม
แม้ช่วง 10 ปีหลัง มูรินโญ่ จะโดนค่อนคอดว่าเป็นกุนซือตกยุค แต่อย่างน้อยการคุม โรม่า ก็ช่วยกู้ชื่อให้เขาได้พอสมควร กับการคว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก และกลายเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าแชมป์ยุโรปของ ยูฟ่า ครบทั้ง 3 รายการ
อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ | 2 สมัย
อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ ก็เป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ที่ถูกจารึกในฐานะตำนานของ แชมเปี้ยนส์ลีก กับการคว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัย จาก 2 สโมสรต่างกัน กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 1997 และ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2001
ชัยชนะของ ‘เสือเหลือง’ ในปี 1997 ถือว่าเป็นการหักปากกาเซียนไม่น้อย เมื่อถล่มตัวเต็งอย่าง ยูเวนตุส ที่มีดาวดังล้นทีม ถึง 3-1 ที่ มิวนิค จากนั้นอีก 4 ปีต่อมา เขาก็พา ‘เสือใต้’ ผงาดแชมป์ยุโรป ด้วยการเอาชนะ บาเลนเซีย ในช่วงดวลจุดโทษชี้ขาด ที่ ซาน ซีโร่
ถึง ฮิตซ์เฟลด์ ได้วางมือจากการคุมทีมไปแล้วตั้งแต่ปี 2014 แต่เขาก็เป็นกุนซือคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ UCL 2 หนจากการคุม 2 สโมสรในประเทศเดียวกัน