ยอดเยี่ยม-ยอดแย่ “ลา ลีกา สเปน 2019-20”
จบลงไปอีกลีกสำหรับ ลา ลีกา สเปน ที่ฤดูกาลนี้โค้งสุดท้ายไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไร เพราะ เรอัล มาดริด การันตีแชมป์สมัยที่ 34 ของสโมสร และเป็นสมัยแรกในนรอบ 3 ปีตั้งแต่นัดรองสุดท้าย
ตั้งแต่รีสตาร์ตกลับมาต้องยอมรับว่า บาร์เซโลน่า พลาดเยอะเหลือเกิน ทำให้การเบียดลุ้นแชมป์ไม่สนุกอย่างที่ควรจะเป็น พื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แอตเลติโก มาดริด และ เซบีญ่า ก็จับจองได้แต่เนิ่นๆ
กลายเป็นว่าศึกหนีตายระหว่าง เซลต้า บีโก้่ กับ เลกาเนส คือไฮไลท์ของเกมนัดสุดท้าย ซึ่งบทสรุป เลกาเนส ทีตามตีเสมอ ราชันชุดขาว 2-2 เป็นทีมสุดท้ายต่อจาก เอสปันญอล และ มายอร์ก้า ที่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ในเซกุนด้า
อย่างไรก็ตามควันหลงยังมี กลิ่นยังไม่เลือนหาย ทีมงาน “ยูฟ่าอารีน่า” ได้รวบรวมที่สุดของ ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 2019-20 ออกมาเป็น “ยอดเยี่ยม-ยอดแย่” ในแบบฉบับของพวกเราเอง
งานนี้บอกล่วงหน้าก่อนเลย อาจจะไม่ถูกใจใครบางคน ก็ถือว่าเป็นมุมจากฝั่งเรา ลองไปทัศนาดูกันครับ
ทีมยอดเยี่ยม – เรอัล มาดริด
แน่นอนว่าทีมที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลภาษีส่วนใหญ่ควรให้กับทีมที่ได้แชมป์ ซึ่งฟอร์มของ เรอัล มาดริด อาจจะมีกระท่อนกระแท่นไปบ้าง แต่อันดับต่ำสุดของพวกเขาก็ไม่เคยเกินที่ 5 และตั้งแต่นัดที่ 11 ก็อยู่ในท็อปทูมาโดยตลอด รวมๆ แล้วพวกเขาทำได้ดี มีเกมรับที่ยอดเยี่ยม เสียไปแค่ 20 ประตูเท่านั้น บอกเลยว่า ราชันชุดขาว สมควรแชมป์และสมควรเป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งซีซั่นจริงๆ
ทีมยอดแย่ – เอสปันญ่อล
เอาจริงๆ ก็มีหลายทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง บาร์เซโลน่า ซีซั่นนี้ภาพรวมก็แย่กว่าปีก่อน บาเลนเซีย ก็อาการหนักมีปลดถึง 2 คน แต่เอาที่แย่สุดๆ จริงๆ คงหนีไม่พ้น เอสปันญ่อล ที่ซีซั่นก่อนทำได้ได้ตั๋วไปเล่นยูโรป้าลีก ด้วย แต่ซีซั่นเล่นอย่างแย่จบบ๊วยของลีกจนต้องไปเล่นในเซกุนด้า ฤดูกาลหน้า คือเพียงปีเดียวมันหน้ามือกับหลังเท้าได้ขนาดนี้เลยหรอ ?
ทีมพัฒนาการดีสุด – บียาร์เรอัล
จริงๆ ในรางวัลนี้ กรานาด้า ก็เข้าข่ายอยู่เหมือนกัน เพราะพวกเขาคือทีมน้องใหม่แต่สามารถจบได้ถึงอันดับ 7 ถือว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์เลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามรู้สึกประทับใจ บีญาร์เรอัล มากกว่า ซีซั่นก่อนพวกเขาจบอันดับ 14 ปีนี้ช่วงแรกๆ ก็เป๋หล่นไปอยู่อันดับ 16 ด้วย แต่พอ ฆาเบียร์ กาเญฆ่า ปรับจูนทีมลงตัว ทีมก็เล่นได้ดีและเกือบมีลุ้นพื้นที่ยูซีแอล น่าเสียดายที่ทีมจะต้องเริ่มต้นใหม่กับกุนซือใหม่ในฤดูกาลหน้า ซึ่งแว่วๆ มาว่าจะเป็น อูไน เอเมรี่ อดีตกุนซือของ อาร์เซนอล ที่เข้ามาเสียบแทน
แข้งแห่งปี – ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (เรอัล มาดริด)
อันนี้ขอฉีกจากมุมมองคนทั่วไป เพราะตามโพลของ มาร์ก้า คนที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดคือ คาริม เบนเซม่า ตามมาด้วย ลิโอเนล เมสซี่ และ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งทั้ง 3 คนคือเล่นดีจริงๆ แต่ฟอร์มของ กูร์กตัวส์ ก็ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญเลยที่ทำให้ มาดริด เป็นแชมป์ เพราะฟอร์มซีซั่นก่อนเจ้าตัวยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่เลย สถิติช่วงต้นจำได้ว่าเคยโดนแซวว่ายิงเป็นเข้า แต่จบซีซั่นการได้รางวัล ซาโมร่า โทรฟีย์ เสียไปแค่ 20 ประตู แถมเก็บคลีนชีตได้ถึง 18 นัด มันคืออะไรที่สุดยอดมากสำหรับ เรอัล มาดริด ชุดนี้ที่จุดเด่นไม่ใช่้เกมรุกเหมือนเมื่อหลายซีซั่นที่่ผ่านมา
แข้งผู้น่าผิดหวัง – แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)
ต้องบอกว่า แกเร็ธ เบล นาทีนี้ไม่เหลือลายอดีตนักเตะที่เคยค่าตัวแพงที่สุดในโลกอีกแล้ว ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน มันมีแต่เรื่องราวในแง่ลบ การไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม บวกกับกระแสภายนอกที่เจ้าตัวดูจะไม่แยแสกับอะไรเลย เจ็บก็บ่อย แถมยังไปตีกอล์ฟชิวๆ หนีทีมกลับก่อนจบแมตช์ ไหนจะโดนช่างภาพจับได้ว่าทำเหมือนหลับในช่วงท้ายซีซั่นอีก รวมๆ แล้ว เบล ลงเล่นแค่ 12 เกมในลา ลีกา และยิงได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น
แข้งเซอร์ไพรส์ – มาร์ติน โอเดนการ์ด (เรอัล โซเซียดัด)
จริงๆ ราอูล การ์เซีย ของแอธเลติก บิลเบา ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะในวัย 35 ปีสามารถระเบิดฟอร์มยิงได้ถึง 15 ประตู ทว่าเอาที่เป็นกระแสจริงๆ ก็คือหนีไม่พ้นนักเตะสัญญาเช่าอย่าง มาร์ติน โอเดนการ์ด ที่กลับมาเล่นในลา ลีกา แบบฟูลซีซั่นเป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดี ยิงได้ 4 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ สามารถพา โซเซียดัด เข้าชิงโคปา เดล เรย์ ได้ด้วย ถึงขั้นมีแฟนบอล ราชันชุดขาว เรียกร้องให้ ซีเนอดีน ซีดาน ดึงกลับไปปั้นต่อเลยด้วย ถ้าไม่ดีจริงเรื่องพวกนี้ไม่เกิดกันง่ายๆ หรอก
กุนซือแห่งฤดูกาล – ซีเนอดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด)
จริงๆ ซีดาน โดนปรามาสไว้เยอะมากถ้าดูจากฟอร์มการกลับมาคุมทีมรอบ 2 ในช่วงเลกที่สองของฤดูกาลที่แล้ว ที่ผลงานค่อนข้่างแย่ ปรีซีซั่นก็ไม่ดี แต่พอลงสู่สนามรบจริงๆ ซีดาน ก็เอาตัวรอดได้ดี ปรับจูนทีมจากเกมรับรั่วๆ จนกลายเป็นทีมที่เกมรับดีที่สุดในลีก ที่สำคัญพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์สมัยแรกในรอบ 3 ปีด้วย ซึ่งคนสุดท้ายที่ทำให้ ลอส บลังกอส แชมป์ลีกสูงสุดก็คือเขานั้นเอง งานนี้ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันอีกแล้ว
ดีลยอดเยี่ยม – ลูคัส โอคัมโปส (เซบีญ่า)
อันนี้เห็นด้วยกับผลโหวตของแฟนบอล สเปน มากๆ เพราะเอาจริงๆ แล้วไม่มีใครเด่นไปกว่า โอคัมโปส จริงๆ ปีกอาร์เจนไตน์ ย้ายมาจาก มาร์กเซย ด้้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร ซึ่งในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดถือว่าถูกมากๆ ในยุคเงินเฟ้อ แต่เห็นผลงาน 14 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ต้องบอกว่าคุ้มค่ามากๆ เซบีญ่า บินสูงเครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้เขาเลย
ดีลยอดแย่ – เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด)
เอาจริงๆ ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ มีหลายดีลมากที่น่าผิดหวัง กรีซมันน์ กับบาร์เซโลน่า ก็ใช่ เจา เฟลิกซ์ กับ แอตเลติโก มาดริด ก็ดูไม่ดี ไหนจะ ลูก้า โยวิช ของมาดริด ด้วย แต่ถ้าเทียบกับความคาดหวังแล้ว เอแด็น อาซาร์ ถือว่าน่าเกลียดที่สุด เขาถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 5 นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ทว่าการมา ราชันชุดขาว มีแต่ปัญหา ไหนจะเรื่องอ้วน ไหนจะเล่นไม่ออก ไหนจะเจ็บยาว รวมๆ แล้วเล่นแค่ 14 เกม ยิงได้ 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ฟอร์มขนาดนี้เจ้าตัวยังยอมรับเลยว่านี้คือซีซั่นที่แย่ที่สุดในอาชีพของเขา เอาแค่ซีซั่นนี้ไม่คุ้มเลยกับค่าตัว 100 ล้านยูโร
ประตูยอดเยี่ยม – อาริตช์ อาดูริช (จักรยานอากาศ ใส่ บาร์เซโลน่า นัดเปิดสนาม)
พูดกันแบบไม่อวยประตูแรกของ ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลนี้เข้าตากรรมการมาตั้งแต่นัดแรกจนถึงตอนนี้ จังหวะที่ อังเดร กาปา โยนจากขวามาให้ อาริตช์ อาดูริซ จักรยานอากาศเข้าประตูไป คือมัน 10 เต็ม 10 ในทุกๆ ปัจจัยทั้งความยาก, ความสวยงาม และที่สำคัญเป็นประตูชัยโค่นแชมป์เก่า บาร์เซโลน่า อีกด้วย ลูกอื่นๆ ก็สวยๆ เยอะแหละ แต่ไม่มีลูกไหนแจ่มไปกว่าลูกนี้อีกแล้ว
ประตูยอดแย่ – ดาวิด โซเรีย (ชกบอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองเกมเจอ มาดริด)
จากสถิติที่เช็กมาฤดูกาลนี้มีการยิงประตูตัวเองหรือลูก Own Goals มากถึง 20 ประตู อย่างไรก็ตามเท่าที่เช็กไฮไลท์หลายๆ จังหวะมันคือเรื่องสุดวิสัยพอเข้าใจกันได้ แต่จังหวะที่ ดาวิด โซเรีย ออกไปชกบอลพลาดปลิ้นเข้าประตูตัวเองมันคือเรื่องที่ไม่ได้เกิดกันบ่อยๆ จังหวะโยนของ เรอัล มาดริด ก็ไม่ได้อันตรายเลยด้วย งานนี้บอกเลยว่านายด่าน เกตาเฟ่ เหวอไปเต็มๆ เสียแบบไม่น่าเสียจริงๆ
โมเมนต์ยอดเยี่ยม – ลา ลีกา คัมแบ็กแข่งต่อหลังเจอพิษโควิด-19
ฤดูกาลนี้ไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมา การเกิดเชื้อร้ายระบาดอย่าง โคโรน่าไวรัส ทำเอาวงการฟุตบอลปั่นป่วนไปหมด ท่ามกลางกระแสที่หลายๆ ลีกเรื่องที่จะไม่แข่งต่อทั้ง ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และ เบลเยี่ยม แต่ สเปน ที่ติดท็อปไฟว์คนติดเชื้อมากที่สุดในตอนนั้นกลับใจแข็งแข่งต่อ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง พวกเขามีการจัดการที่ดี สามารถแข่งต่อได้จบ มันคือคำตอบที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกฝ่ายๆ จริงๆ
โมเมนต์ยอดแย่ – เมสซี่ เมินฟังผู้ช่วย เซเตียน
ฤดูกาลนี้พูดได้เต็มปากเลยว่า บาร์เซโลน่า ไม่คู่ควรกับแชมป์ลา ลีกา สเปน จริงๆ พวกเขาดูไม่พร้อม ดูมีปัญหาภายในทีม การซื้อตัวที่ไม่เข้าเป้า (กรีซมันน์+เฟรงกี้ เดอ ยอง ผลงานไม่ตามเป้า) ไหนจะการปลดโค้ช เอร์เนสโต้ บัลเบรเด้ กลางฤดูกาลอีก แต่ที่ออกสื่อและเห็นถึงความไม่ลงรอยที่สุดคงหนีไม่พ้นภาพที่ เมสซี่ เมินไม่ฟังผู้ช่วยของ กีเก้ เซเตียน อธิบายแท็กติก มันชัดเจนมากๆ ว่าพวกเขามีปัญหาภายในและตัวกุนซือไม่ได้เป็นที่น่าเชื่อถือพอสำหรับนักเตะซีเนียร์ในทีม