คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด!7 นักเตะที่โดนแฟนบอลทีมตัวเองเกลียด

 

จากกรณีดราม่าของ กรานิต ชาก้า และ แกเร็ธ เบล ที่โดนแฟนบอลทีมตัวเองเกลียด ทำให้เราได้รู้ว่าแม้จะเป็นนักเตะที่ทำผลงานอยู่กับทีม ก็สามารถโดนเกลียดได้ ไม่ใช่แค่นักเตะทีมตรงข้ามที่จะโดนเกลียด ซึ่งมันก็มีหลายปัจจัย และเหตุผลต่างกันไป กับการที่นักเตะคนนึงจะโดนแฟนๆที่สนับสนุนต้นสังกัดของตัวเองเกลียด 

 

วันนี้ทาง UFAARENA จะพาไปชมเหล่านักเตะที่โดนแฟนบอลทีมตัวเองเกลียด ว่าจะมีสาเหตุมาจากอะไรกันบ้าง

 

โจลีออน เลสคอตต์ -แอสตันวิลล่า

 

 

ย้อนไปในศีกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015/16 แอสตันวิลล่าอยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่สุดๆและส่งให้พวกเขาต้องตกชั้นไปด้วยผลงานการชนะแค่ 3นัด ตลอดทั้งซีซั่นเท่านั้น แต่ในเกมที่ทำให้ปราการหลังชาวอังกฤษโดนแฟนบอลของทีมรุมเกลียดคือหลังจบเกมถูกลิเวอร์พูล บุกมาถล่มถึงถิ่น 6-0 ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 81ปีของสโมสร อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เผลอโพสภาพรถหรูลงในทวิตเตอร์ หลังจบเกมไม่ถึง 2ชั่วโมง ทำเอาแฟนบอลสิงห์ผงาดด่าแบบไม่เผาผี

 

อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องแดงออกไปกลายเป็นกระแสดราม่า แข้งเลือดผู้ดีก็ได้ออกมาสยบเรื่องดังกล่าวอย่างทันควันว่ามันเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดของมือถือ ที่ดันไปลั่นโพสเองตอนอยู่ในกระเป๋า โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ผมไม่ได้อัพรูปดังกล่าวหลังเกม แต่ผมอยากจะขอโทษสำหรับฟอร์มการเล่นในวันนี้ ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ทวิตที่ออกมาดังกล่าวเป็นเรื่องบังเอิญ มันเกิดขึ้นตอนผมขับรถและมือถืออยู่ในกระเป๋า”

 

เนย์มาร์ -เปแอชเช

 

 

ดาวเตะเจ้าปัญหาชาวบราซิล ที่เพิ่งโดนแฟนบอลเปแอชเชเกลียดแบบเข้าไส้แม้จะอยู่กับทีมก็ตามแต่ก็โดนโห่ใส่ทุกครั้ง รวมถึงขึ้นป้ายด่าเวลาลงสนาม สาเหตุมันเกิดมาจากช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เนย์มาร์ ตกเป็นข่าวการย้ายทีมอย่างหนัก แถมตัวนักเตะเองก็ออกอาการอยากย้ายจนถึงขั้นงัดข้อกับสโมสร พยายามสร้างเรื่องต่างๆ ที่ร้ายแรงที่สุดเห็นจะเป็นบทสัมภาษณ์ถึงเกมที่ตนประทับใจที่สุดคือเกมสมัยทีตนอยู่กับบาร์เซโลน่า และได้ถล่มเปแอชเชไปถึง 6-1 พลิกเข้ารอบในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกไปในฤดูกาล 2016/17 ทำเอาแฟนบอลยอดทีมเมืองน้ำหอมถึงกับแสดงอาการไม่พอใจกันทั่ว

 

แม้ว่าในท้ายที่สุด เนย์มาร์ จะไม่ได้ย้ายกลับไปที่ทัพต่างดาว แต่ก็สร้างความบาดหมางให้แฟนบอลขุ่นเคืองใจไม่น้อย และต้องใช้เวลารวมถึงผลงานเพื่อตามง้อเหล่าแฟนๆกันต่อไป

 

พอล ป๊อกบา -แมนฯยู

 

 

นักเตะที่ถือว่ามีทั้งแฟนบอลรักและเกลียดพอๆกัน วันไหนเล่นดีก็ถูกชม วันไหนเล่นแย่ก็โดนด่า ซึ่งมันก็ดูจะเป็นปกติของนักฟุตบอลทั่วๆไป แต่สำหรับป๊อกบาดูจะโดนด่าเยอะเป็นพิเศษเวลาที่เล่นแย่ เนื่องด้วยข่าวการย้ายทีมที่ดูเจ้าตัวจะแสดงความต้องการย้ายออกจนส่งผลถึงฟอร์ม แถมเมื่อช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา แข้งดีกรีแชมป์โลกเองก็ออกมาพูดผ่านสื่อว่าอยากจะออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ แถมยังให้เอเย่นต์ส่วนตัวออกมาใส่ไฟเพิ่มอีกว่าให้ทีมปล่อยตัวนักเตะรายนี้ไป ซึ่งทีมที่เป็นข่าวก็ไม่ใช่ทีมอื่นไกลนั่นคือ เรอัล มาดริด ที่จ้องจะง้าบตัวเขาไปร่วมทัพ ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงต่างโห่ใส่แข้งวัย 26ปีแทบทุกนัดที่ลงสนาม

 

ชาร์ลส์ อีตันเย่ -ลิเวอร์พูล

 

นับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่น้อยสำหรับเรื่องของนายด่านชาวฝรั่งเศสรายนี้ เมื่อครั้งที่ค้าแข้งอยู่ลิเวอร์พูลในปี 2009 เมื่อเจ้าตัวแสดงท่าทางไม่เหมาะสมระหว่างการรำลึกต่อเหตุโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ ซึ่งได้มีการจัดงานและร้องเพลงเพื่อระลึกถึงเหยื่อทั้ง 96รายในเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่อีตันเย่ กลับโยกตัวพร้อมกับยิ้มไปตามจังหวะเพลง ทำให้แฟนบอลต่างไม่พอใจต่อท่าทางดังกล่าว จนสุดท้ายอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์ของเขาก็ดับวูบไปในทันทีพร้อมกับการเป็นนักเตะที่แฟนบอลหงส์แดงต่างเกลียดกันเข้าไส้

 

 

เมาโร อิคาร์ดี้ -อินเตอร์ มิลาน

 

 

กองหน้าชื่อเสียโด่งดังที่ไม่ใช่แค่แฟนบอลทีมอื่นเท่านั้นที่เกลียด แต่แฟนบอลทีมตัวเองก็เกลียดเช่นกัน โดยเรื่องราวความระหองระแหงมันเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 เมื่อเจ้าตัวไปเขียนในหนังสือของตัวเองว่า อยากจะจ้างมาเฟียไปฆ่าแฟนบอลหัวรุนแรงของงูใหญ่ เล่นเอาแฟนบอลยัวะเลือดขึ้นหน้า พร้อมขอให้ปลดแข้งรายนี้ออกจากการเป็นกัปตันทีม แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้อิคาร์ดี้โดนปลดจากการเป็นกัปตันทีมก็ตาม แต่ก็สร้างรอยร้าวระหว่างเขากับกลุ่มแฟนบอลเนรัซซูรี่ไปแล้ว

 

ต่อมาในช่วงปลายฤดูกาล 2018/19 เรื่องราวการย้ายทีมของแข้งวัย 26ปี ก็เกิดเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวแสดงอาการอยากย้ายทีม รวมถึงขัดแย้งกับกุนซืออย่าง ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ และไม่ยอมลงเล่นในเกมยูโรป้า เนื่องจากถูกอินเตอร์ ปลดจากการเป็นกัปตันทีมอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนเกิดเป็นความวุ่นวายภายในสโมสร ส่วนด้านแฟนบอลหัวรุนแรงที่เคยมีประเด็นด้วย ก็ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะไม่สนับสนุนหอกเลือดฟ้าขาวอีกต่อไป สุดท้าย อิคาร์ดี้ ก็โดนปล่อยไปให้กับ เปแอชเช ยืมตัวเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจนได้

 

ดิมิทรี ปาเยต -เวสต์แฮม

ช่วงเวลา 18เดือนที่อยู่กับขุนค้อน ปาเยตเป็นทั้งนักเตะแสนรัก และแสนเกลียดในเวลาเดียวกัน ผลงานของเขาตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีมทำไปถึง 18ประตู จากการลงสนาม 66นัดรวมทุกรายการและเป็นส่วนสำคัญในแนวรุกของทีม แต่ในช่วงท้ายของเขากับเวสต์แฮม ดูจะจบไม่สวยนักเนื่องจากในเวลานั้นเจ้าตัวอยากจะย้ายกลับไปอยู่กับต้นสังกัดเก่าอย่าง มาร์กเซย จนถึงขั้นที่ว่าออกมาประกาศชัดเจนถึงความต้องการอยากย้าย และไม่ยอมลงเล่นให้กับทีมด้วย จนแฟนบอลเหม็นขี้หน้าไปในทันที แม้ว่าจะเคยเป็นกำลังสำคัญให้ทีมก็ตาม

 

เดวิด เบ็คแฮม -ทีมชาติอังกฤษ

ในช่วงเวลาหนึ่ง นักเตะเทพบุตรที่แฟนๆรักกันทั่วโลก เคยเป็นผู้ร้ายในสายตาของคนทั่วอังกฤษมาก่อน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 1998 บนเวทีฟุตบอลโลก ซึ่งในปีนั้น ทัพสิงโตคำรามแข็งแกร่งแทบทุกแผ่นทะลุเข้ารอบ16ทีมสุดท้าย เกมที่เจอกับอาร์เจนติน่า ขณะที่เกมกำลังเสมอกันอยู่ 2-2 ก่อนจบครึ่งแรก แถมฝั่งอังกฤษยังดูฟอร์มดีกว่าด้วยซ้ำ ก็เกิดจังหวะที่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เข้าไปเล่นแรงใส่ เบ๊คแฮม จนผู้ตัดสินกำลังจะควักใบเหลืองใส่แข้งเลือดฟ้าขาว แต่ด้านสตาร์ชาวอังกฤษกลับคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก่อนหวดใส่ ซิเมโอเน่ จนลงไปกองกับพื้น จากที่จะหยิบใบเหลือง ผู้ตัดสินเลือกหันมาหยิบใบแดงไล่ดาวเตะปีศาจแดงออกจากสนามไปทันที จนสุดท้ายอังกฤษที่เหลือเพียง10คนตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง ก็ทำได้เพียงยันเสมอและไปแพ้ในการดวลจุดโทษตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

 

หลังจากนั้นแม้ว่า เบ๊คแฮมจะออกมาขอโทษเป็นการใหญ่ แต่สื่อทุกสำนัก รวมถึงคนในประเทศอังกฤษ ต่างตราหน้าเขาเป็นผู้ร้าย ถึงขั้นที่สื่อลงพาดหัวหน้าหนึ่งว่า “10ผู้เล่นฮีโร่ กับ 1เด็กโง่” พร้อมกับกระแสแฟนบอลที่รุนแรงขนาดที่ว่ามีการนำเสื้อ นำหุ่นมาเผากันกลางถนุน แม้แต่จดหมายขู่ฆ่า ที่ข้างในมีลูกกระสุนปืนก็ถูกส่งมาทางไปรษณีย์ ก่อนที่ในท้ายที่สุดเจ้าตัวจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งในปี 2001 ที่เขารับบทบาทกัปตันทีมชาติอังกฤษ และทำให้คนในประเทศกลับมารักเขาได้ด้วยฟอร์มการเล่น

 

https://www.youtube.com/watch?v=zWsEuczNj48&feature=emb_title