เจมส์ แทรฟฟอร์ดกลายเป็นฮีโร่เซฟจุดโทษสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+8 พา “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เฉือน “กระทิงดุ” สเปน 1-0 คว้าแชมป์ยูโร U2-1
โดยเกมนี้เหมือนคู่ชิงในฝันเพราะเป็นการเจอกันของเต็งหนึ่งและเต็งสองของทัวร์นาเมนท์ สเปนที่ฟอร์มร้อนแรงยึดไลน์อัพเดิมที่ถล่ม ยูเครน มา 5-1 ในเกมรอบที่แล้ว ส่วนอังกฤษมีการปรับทีม 1 ตำแหน่งได้ แม็กซ์ แอรอนส์ พ้นโทษแบนกลับมา พวกเขายังไม่เสียประตูในรายการนี้
เริ่มเกมครึ่งแรก สเปน ทำได้ดีกว่าเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ พวกเขาบีบกดดันตั้งแต่แดนบน ตัดบอลสร้างจังหวะได้หลายครั้ง ที่ได้ลุ้นเน้น ๆ คือลูกยิงไกลของ อเล็กซ์ บาเอน่า และเติมขึ้นมาโขกของแนวรับอย่าง ไอตอร์ ปาเรเดส แต่ก็หวิดไปหวิดมา
รูปเกมยังเป็น สเปน ที่ทำได้ดีกว่า แต่ทว่าในช่วงท้ายเกมก่อนจบครึ่งแรก อังกฤษ ได้ลุ้นแบบจะแจ้งจากจังหวะฟรีคิก เลวี่ โคลวิลล์ ได้โขกบอลเด้งลงพื้นก่อนจะไปชนสามเหลี่ยมแบบน่าเสียดาย
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 45+4 กลายเป็น อังกฤษ ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะฟรีคิก โคล พาลเมอร์ บรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ เคอร์ติส โจนส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ซึ่งจังหวะดีใจของเขามีเหตุการณ์ชุลมุนผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะสาวกัน และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นครึ่งหลัง สเปน โหมเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก นาทีที่ 51 พวกเขาส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายจากจังหวะเตะมุม เซร์คิโอ้ โกเมซ เปิดให้กับ อเบล รุยซ์ โขกเข้าไปไม่เหลือ แต่ไลน์แมนยกธง VAR ก็ตรวจสอบกลายเป็นจังหวะล้ำหน้าทำให้ อังกฤษ ยังนำอยู่ 1-0
ผ่าน 10 นาที แรกกลายเป็น อังกฤษ ที่เริ่มต้นเกมได้ และมีจังหวะลุ้นสวย ๆ จากการตัดบอลของ เคอร์ติส โจนส์ ลากไกลเกินครึ่งสนามไปยิงด้วยซ้าย แต่ยังติดเซฟของ อาร์เนา เตนาส นายทวารของสเปน
รูปเกมทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันต่างก็มีโอกาสเข้าทำ สเปน ครองบอลบุกเข้าใส่ส่วนอังกฤษก็เน้นเกมสวนกลับ
แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+9 สเปน มาได้จุดโทษ เลวี่ โคลวิลล์ ถึงบอลช้ากว่าไปยันใส่ข้อเท้าของ อเบล รุยซ์ ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนจะชี้ให้เป็นจุดโทษ แต่ทว่า อเบล รุยซ์ ที่ลุกเข้ามาสังหารเองยิงไปติดเซฟของ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ได้ซ้ำอีก 2 ครั้งก็ไม่เข้า
ทำให้จบเกม อังกฤษ เอาชนะเฉือนเอาชนะสเปนไปได้ 1-0 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2023 ไปครองได้สำเร็จ เป็นแชมป์รายนี้สมัยที่ 3 ของพวกเขา และเป็นการคว้าแชมป์ได้แบบไม่เสียประตูเลยในทัวร์นาเมนท์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ (4-4-2): เจมส์ แทรฟฟอร์ด, เจมส์ การ์เนอร์, เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส, เลวี่ โคลวิลล์, แม็กซ์ แอรอนส์, โคล พาลเมอร์, อังเคล โกเมซ, เคอร์ติส โจนส์, เอมิล สมิธ โรว์, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ และแอนโธนี่ กอร์ดอน
สเปน (4-2-3-1): อาร์เนา เตนาส, บิคตอร์ โกเมซ, ไอตอร์ ปาเรเดส, ยอน ปาเชโก้, ฆวน มิรานด้า, อันโตนิโอ บลังโก้, อเล็กซ์ บาเอน่า, โรดรี้ ซานเชซ, ออยฮาน ซานเช็ต, เซร์คิโอ้ โกเมซ และอเบล รุยซ์