พรีวิว บุนเดสลีกา เยอรมัน: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ – ไมนซ์

วัน: เสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2023 เวลา: 20.30น.

สนาม: ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค

ถ่ายทอดสด: PPTV 36

ราคาต่อรอง: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อ 2.25

ความพร้อมของทั้งสองทีม

 

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เจ้าถิ่น “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จ่าฝูงของตารางมี 70 คะแนนจากการชนะ 22 เสมอ 4 แพ้ 7 กุมชะตาในการลุ้นแชมป์ไว้ในมือของพวกเขาเอง ทีมของ เอดิน แทร์ซิซ รอเช็ความฟิต จู๊ด เบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์คนสำคัญเพียงรายเดียวเท่านั้น นอกนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะแกนหลักอยู่กันครบวาง เซบาสเตียน ฮัลแลร์ เป็นหน้าเป้า

 

ไมนซ์ 05

ทีมเยือน ไมนซ์ 05 ภายใต้การคุมทีมของ โบ สเวนส์สัน รั้งอันดับ 9 ของตารางมี 45 คะแนนจากการชนะ 12 เสมอ 9 แพ้ 12 ช่วยฟอร์มย่ำแย่แพ้มา 4 เกมติด พร้อมโดนทะลวงตาข่ายไปถึง 14 ประตู เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งานตัวทีเด็ดอย่าง ลูโดวิช อาฌอร์ก ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง โจนาธาน เบอร์คาร์ดต์ และซิลแวง วิดแมร์ ที่บาดเจ็บด้วย ส่วน โรบิน เซนต์เนอร์ นายทวารมือหนึ่งต้องทดสอบความฟิตที่เหลืออยู่ครบ

 

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม

26/01/23 ไมนซ์ 1-2 ดอร์ทมุนด์

17/03/22 ไมนซ์ 0-1 ดอร์ทมุนด์

16/10/21 ดอร์ทมุนด์ 3-1 ไมนซ์

16/05/21 ไมนซ์ 1-3 ดอร์ทมุนด์

16/01/21 ดอร์ทมุนด์ 1-1 ไมนซ์

 

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (4-1-4-1) : เกรกอร์ โคเบล, ยูเลี่ยน ไรเยอร์สัน, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิคลาส ซือเล่, ราฟาเอล เกร์เรโร่, เอ็มเร่ ชาน, ดอนเยลล์ มาเล่น, ยูเลี่ยน บรันด์ท, จู๊ด เบลลิ่งแฮม, คาริม อเดเยมี่ และเซบาสเตียน ฮัลแลร์

 

ไมนซ์ 05 (3-4-2-1) : ฟินน์ ดาห์เมน, อันเดรียส ฮานเช่-โอลเซ่น, เอดิมิลสัน เฟอร์นานเดส, สเตฟาน เบลล์, แดนนี่ ดา คอสต้า, เลอันโดร บาร์เรยโร่, โดมินิค คอห์ร, แอรอน มาร์ติน, มาร์คุส อิงก์วาร์ทเซ่น, ลี แจ-ซุง และคาริม โอนิซิโว่

 

ทรรศนะพรีวิว: เรียกได้ว่านี่คือเกมที่สำคัญที่สุดของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าชนะพวกเขาจะคว้าแชมป์ทันทีไม่ต้องไปสนใจผลของ บาเยิร์น มิวนิค ยุติการรอคอยแชมป์บุนเดสลีกาที่ยาวนานถึง 10 ปี ได้เล่นในบ้านของตัวเองจ่อหน้าแฟนบอลกว่า 8 หมื่นเศษ และเจอกับคู่แข่งที่ไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว ทุกอย่างดูเข้าทางพวกเขาไปหมด เรตเปิดมาให้ ดอร์ทมุนด์ ต่อ 2.25 ไม่ว่าจะราคาไหน ก็สวนรองไม่ลงจริง ๆ เพราะฟอร์มของไมนซ์ 05 กำลังห่วยสุด ๆ เชื่อว่าเจ้าถิ่นจะไม่ยอมทิ้งโอกาสสำคัญอีกแล้ว ถ้าไม่มีอุบัติเหตุลูกหนังน่าจะถล่มยับและคว้าแชมป์ไปครอง

 

ฟันธง: ต่อ “เสือเหลือง”