ในตอนนี้คงไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนกดดันไปมากกว่า แกรห์ม พ็อตเตอร์ อีกแล้ว หลังพา เชลซี ทีมดังจากลอนดอน หล่นมารั้งอันดับ 10 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
นับตั้งแต่ย้ายมารับงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อดีตกุนซือ ไบรท์ตัน พา ‘สิงห์บลูส์’ คว้าชัยชนะแค่ 9 จาก 26 เกมในทุกรายการ หรือแค่ 34.6% เท่านั้น และล่าสุดฟอร์มก็กำลังดิ่งสุดๆ หลังชนะแค่นัดเดียวในช่วง 11 เกมหลังสุด
หากจะบอกว่าไฟกำลังลนก้นของ นายใหญ่ชาวอังกฤษ อยู่ก็คงไม่ผิดนัก แม้ ท็อด โบห์ลี่ย์ และชาวคณะบอร์ดบริหารจะยังให้ความไว้วางใจอยู่ แต่ผลงานในช่วงที่ผ่านมาก็เริ่มทำให้พวกเขาต้องข้อสงสัยเช่นกัน และยังไม่นับรวมแฟนสิงห์ส่วนใหญ่ ที่พร้อมใจกันไล่นายใหญ่วัย 47 ปีออกจากตำแหน่ง
ด้วยนี้ UFA ARENA จึงขอแนะนำ 7 สิ่งที่ พ็อตเตอร์ ควรปรับปรุงให้ได้ในถ้ำสิงห์ ก่อนทุกอย่างที่จะสายเกินแก้ไข
หา 11 ตัวจริงให้เจอ
การทุ่มเงินเสริมทัพของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่นั่นก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน เนื่องจากตัวเลือกที่เยอะเกินไปจนทำให้ พ็อตเตอร์ ไม่สามารถหานักเตะของเขาได้ ซึ่งหากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีก เชลซีใช้นักเตะไปแล้ว 23 คนในฤดูกาลนี้
ตอนนี้ แผนการเล่นหลักที่ใช้คือ 4-2-3-1 แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องหา 11 ตัวจริงให้เจอให้ได้ เพื่อให้นักเตะสามารถโชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอมากกว่าที่เป็นอยู่
ยิงให้ได้มากกว่านี้
เชลซี ยิงได้เพียง 6 ประตูจาก 16 นัดในทุกรายการ และนั่นกลายเป็นจุดใหญ่สุดๆที่ กุนซือชาวอังกฤษ ต้องเร่งแก้ไขโดยด้วย กับปัญหาในเกมรุก
ฤดูกาลนี้ ‘สิงห์บลูส์’ ยิงไปแค่ 23 นัดในพรีเมียร์ลีก น้อยสุดเป็นอันดับ 7 โดยที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นดาวซัลโวในลีก ด้วยจำนวน 5 ประตู นั่นหมายความว่าทีมไม่สามารถพึ่่งพานักเตะแค่คนเดียวในการยิงประตู เนื่องจากทีมจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในจุดนี้จากกองกลาง และเหล่าผู้เล่นตัวรุกด้วย
คุมสื่อให้อยู่หมัด
โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือของ เชลซี คือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้สุดๆ แม้ว่ามีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนสคริปต์การพูด หรือบทบาทได้เสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าสื่อ และนั่นทำให้เหล่ากูรู รวมไปถึงแฟนบอล ตั้งคำถามว่า อดีตกุนซือ ไบรท์ตัน ดูเป็นคนดีเกินไปกับการคุมทีมจากลอนดอนหรือไม่
ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสุภาพ นุ่มนวล ไม่ค่อยตีโพยตีพายผ่านสื่อ เมื่อบวกกับพฤติกรรมสุดชิลในสนาม ยามที่ทีมเสียประโยชน์ หรือนักเตะของตัวเองมีปากเสียงกับคู่แข่ง ยิ่งทำให้ กุนซือวัย 47 ปี ดูแย่เข้าไปอีก และนี่เป็นจุดที่เข้าต้องพัฒนาตัวเองด้วยเช่นกัน หากหวังซื้อใจแฟนๆให้กลับมาสนับสนุนอีกครั้ง
สร้างความเชื่อใจให้แฟนบอลอีกครั้ง
การเอาชนะคู่แข่งได้ คือวิธีที่ดีที่สุดของ พ็อตเตอร์ ในการเชื่อมสัมพันธ์กับแฟนบอล เชลซี ที่ทำท่าว่าจะพังลงในทุกๆวันนี้ แม้เขารู้อยู่แล้วว่าการเข้ามาแทนที่ โธมัส ทูเคิ่ล จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็คงไม่คิดว่าจะยากจนถึงขั้นนี้
แฟนบอลหลายคนมองว่า อดีตนายใหญ่ ไบรท์ตัน คงโดนปลดจากตำแหน่งใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปแล้ว 3 รอบ หากทีมยังมี โรมัน อับราโมวิช เป็นเจ้าของสโมสรอยู่ ดังนั้นจุดนี้ก็อยู่ที่ตัวเขาแล้วว่าจะสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับแฟนบอลได้หรือไม่
เอาชนะ เสือเหลือง ใน UCL
ผลงานในลีกตอนนี้ของ เชลซี ดูสิ้นหวังสุดๆ เมื่อรั้งอันดับ 10 ในตาราง ตามหลังทีมอันดับ 4 ที่ลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 14 แต้ม หลังผ่านไป 22 นัด
ขณะที่พรีเมียร์ลีกดูหมดหนทางดิ้นรนต่อแล้ว แต่พวกเขายังมีโอกาสในบอลยุโรป หลังแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเลกแรก 0-1 แม้ว่ามีโอกาสยิงถึง 21 ครั้งในค่ำคืนที่เยอรมัน
หาก เชลซี สามารถพลิกสถานการณ์ในเกม UCL เลกสองของรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ก็เชื่อว่า นายใหญ่เลือดผู้ดี น่าจะได้โอกาสทำหน้าที่คุมทีมต่อไป และด้วยสกอร์ 0-1 ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส
เร่งพัฒนาดาวรุ่งสิงห์
ความสามารถของ พ็อตเตอร์ ที่หลายคนเห็นได้ชัดเจนสมัยคุม ไบรท์ตัน ก็คือการพัฒนาผู้เล่น โดยเฉพาะเหล่าดาวรุ่งให้ขึ้นเป็นตัวหลักกับทีม และนี่คือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องแสดงออกมาให้เห็นอีกครั้ง ยามคุม เชลซี
ถ้าหากไม่สามารถเค้นศักยภาพของ มิไคโล มูดริค ปีกตัวจิ๊ดจาก ชัคตาร์ โดเนสต์ค หรือ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางแชมป์โลกค่าตัวสถิติเกาะอังกฤษ เขาน่าจะหมดโอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างแน่นอนใน สแตมฟอร์ด บริดจ์
หยุดสถิติไม่ชนะใคร
นี่คือปัญหาด่วนสุดที่ กุนซือชาวอังกฤษ ต้องแก้ไขให้ได้ นั่นก็คือการหยุดสถิติไม่ชนะใครที่ทีมกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ เชลซี ไม่ชนะใครในเกมลีก 5 นัดติด และหากนับรวมทุกรายการก็ 6 นัดติดเข้าไปแล้ว
ผู้จัดการทีมเชลซีในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้สร้างมาตรฐานที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ และการไม่ชนะใครแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งการที่ สิงห์บลูส์ จะดวลกับทีมครึ่งตารางล่างในช่วง 4 เกมลีกต่อจากนี้ น่าจะเป็นโอกาสอันดีให้ กุนซือและลูกทีม กลับมาคว้าชัยชนะเพื่อพลิกสถานการณ์ให้ได้ดั่งหวัง