แคเมอรูน ถือเป็นหนึ่งในทีมที่เคยสร้างสีสันในฟุตบอลโลกมาหลายครั้ง และหนนี้พวกเขากลับมาสู่เวทีเวิลด์คัพอีกครั้งหลังจากที่เมื่อ 4 ปีก่อนพวกเขาพลาดตั๋วรอบสุดท้ายไปแบบน่าเสียดาย
นี่ถือเป็นการผ่านเข้ามาคว้าตั๋วได้เข้ามาลุยบอลโลก รอบสุดท้าย ของทัพ’ ‘หมอผี’ เป็นสมัยที่ 8 แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นชาติจากแอฟริกา ที่ผ่านมาเข้ามาเล่นบอลโลกมากที่สุดอีกด้วย
แต่ทว่างานหนักรอพวกเขาอยู่ เมื่อต้องอยู่กลุ่มเดียวกับ บราซิล, เซอร์เบีย กับ สวิตเซอร์แลนด์ และพอจะมีโอกาสหรือไม่ที่พวกเขาจะทะยานสู่รอบต่อไป UFA ARENA จะพาไปเช็คความพร้อมของ แคเมอรูน ผ่านบทความนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
หลังจากพลาดไปโชว์ฝีเท้าที่รัสเซียเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แคเมอรูน สามารถคว้าตั๋วคืนสู่เวทีฟุตบอลโลกได้อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นสมัยที่ 8 ที่พวกเขาได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย
โดย ทัพ ‘หมอผี’ มีผลงานดีที่สุด คือการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยผ่านไปไกลมากกว่ารอบแรกอีกเลย รวมไปถึงหนแรกที่ได้เล่นบอลโลกในปี 1982 ด้วย
เส้นทางสู่กาตาร์
ในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา แฟนบอลแคเมอรูน ต้องลุ้นกันจนตัวบิดตัวเบี้ยวก็ว่าได้ แม้ในรอบคัดเลือก รอบสอง โซนแอฟริกา ทัพ ‘หมอผี’ ปาดหน้าทีมแกร่งอย่างไอวอรี่ โคสต์ คว้าแชมป์กลุ่มดี ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 3 ซึ่งแข่งแบบเหย้า-เยือน แต่ก็มาพบกับงานหนักอย่าง แอลจีเรีย และพลาดท่าพ่ายคาบ้าน 0-1 ในนัดแรก
ทว่าก่อนที่นัดสองจะมีฮึดบุกไปชนะ แอลจีเรีย คืนได้ 1-0 ทำให้สกอร์รวมเสมอ 1-1 และต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ซึ่ง อาห์เหม็ด ทูบา ยิงประตูสำคัญให้ แอลจีเรีย ในนาที 118 แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ คาร์ล โตโก เอคามบี้ ซัดประตูสำคัญกว่าให้กับ แคเมอรูน ในนาที 120+4 และนั่นทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์รวม 2-2 แต่ก็เป็น พลพรรค หมอผี ที่คว้าตั๋วไปที่ กาตาร์ ด้วยกฎประตูทีมเยือนแบบดราม่าโคตรๆ
ผู้จัดการทีม : ริโกแบร์ ซง
แม้แคเมอรูน จบอันดับ 3 ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ แต่ทว่าเกิดความขัดแย้งระหว่างโค้ชกับผู้เล่นซีเนียร์ ทำให้ โทนี่ คอนไซเซา โดนเด้งตกเก้าอี้กุนซือ และสหพันธ์ฟุตบอลแคเมอรูนก็มอบหมายให้ ริโกแบร์ ซง อดีตปราการหลังลิเวอร์พูล ซึ่งคุมทีมชุดยู-23 ขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือทีมชุดใหญ่แทน และสามารถพาทีมฝ่าด่าน แอลจีเรีย คว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเวิลด์คัพได้สำเร็จ
สำหรับ อดีตแข้งวัย 46 ปี ถือเป็นตำนานเจ้าของสถิติลงเล่นให้กับแคเมอรูนมากที่สุด 137 นัด และผ่านเวทีบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วถึง 4 สมัย ในปี 1994, 1998, 2002 และ 2010 ซึ่งในบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ซง จะได้ลุยเวิลด์คัพในฐานะผู้จัดการทีมเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ดาวเด่น : แว็งซองต์ อาบูบาการ์
ผู้เล่นของ แคเมอรูน ชุดนี้แทบทุกคนล้วนออกไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศ โดยมีผู้เล่นตัวหลักอย่าง แว็งซองต์ อาบูบาการ์ หัวหอกกัปตันทีมวัย 30 ปี จากสโมสรอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงตัวความหวังของทีม นับตั้งแต่หมดยุคของ ซามูเอล เอโต้ ตำนานดาวยิงทีมชาติที่ปัจจุบันนั่งแท่นเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลแคเมอรูนไปแล้ว
นอกจากนี้ แคเมอรูนยังมีกองหน้าประสบการณ์สูงอย่าง เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ดาวยิงจอมเก๋าของบาเยิร์น มิวนิค พร้อมด้วยสตาร์ดัง อาทิ อองเดร-ฟรองก์ แซมโบ อองกิสซ่า มิดฟิลด์จากนาโปลี, อ็องเดร โอนานา นายทวารจอมหนึบของอินเตอร์ มิลาน และ บริย็อง เอ็มเบวโม่ กองหน้าจากเบรนท์ฟอร์ด
ตารางแข่งขัน
แคเมอรูน จะประเดิมบอลโลกด้วยการพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ต่อด้วยการดวลกับ เซอร์เบีย ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ปิดท้ายด้วยการเจองานช้างอย่าง บราซิล ในวันที่ 2 ธันวาคม
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
แคเมอรูน ต้องมาอยู่ในกลุ่มที่ไม่ง่ายเลย เพราะแต่ละทีมล้วนเป็นทีมระดับชั้นนำทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์ และเซอร์เบีย พร้อมจะรอขย้ำพวกเขาอยู่แล้ว
เพราะจุดหนึ่งที่น่าเป็นห่วง คือประสบการณ์ในการคุมทีมของ ริโกแบร์ ซง แม้ว่าจะเป็นนักเตะระดับตำนานที่น้องๆ ให้ความไว้วางใจ แต่เรื่องของแท็คติกในการจะพาทีมประสบความสำเร็จได้ ยังมีเครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเริ่มอยู่
นอกจากนี้ผลงานใน 2 หนหลังสุดที่เข้ามาเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย พวกเขามีผลงานที่ไม่น่าจะจำเลย เพราะแพ้รวดทั้ง 3 นัด และมีผลงานแย่ที่สุดเป็นลำดับท้ายอีกด้วย นั่นทำให้เป้าหมายในการกลับมาครั้งนี้ อย่างน้อยก็ขอให้มีผลงานดีกว่าครั้งที่ผ่านๆมาด้วยการคว้าแต้มติดมือบ้างก็น่าจะเพียงพอแล้ว