แม้ว่าพวกเขาจะตกรอบคัดเลือกของฟุตบอลยูโร 2020 แต่ เซอร์เบีย ไม่ตกขบวนสำหรับฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งนับเป็นการเข้าสู่รอบสุดท้ายติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวีย
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นประเทศเซอร์เบีย พวกเขายังไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในแต่ครั้งนี้ พวกเขามีแข้งสายเลือดใหม่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมหลายคน และพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองในเวทีเวิลด์คัพที่ กาตาร์
แต่ว่าจะมีโอกาสมากแค่ไหนที่พวกเขาจะผ่านไปเล่นในรอบน็อคเอ้าท์ UFA ARENA จะไปตรวจสอบความพร้อมของเซอร์เบียผ่านบทความนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
เซอร์เบีย เป็น 1 ใน 13 ชาติที่ร่วมดวลแข้งในศึกฟุตบอลโลก ตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อปี 1930 สมัยที่พวกเขายังใช้ชื่อว่า ยูโกสลาเวีย และหลังจากนั้นก็สามารถผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอีกหลายครั้ง พร้อมกับชื่อประเทศที่เปลี่ยนมาเป็น เซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร จนกระทั่งปัจจุบันเป็น เซอร์เบีย ที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน
หากนับรวมตั้งแต่สมัยเป็น ยูโกสลาเวีย พวกเขาผ่านมาเล่นบอลโลก ได้ถึง 12 ครั้ง โดยมีผลงานดีที่สุดคือ การคว้าอันดับ 4 ในปี 1930 และ 1962 แต้ถ้าหากนับแค่ตอนแยกตัวมาเป็น เซอร์เบีย ก็จอดอยู่แต่รอบแบ่งกลุ่มทุกครั้ง
เส้นทางสู่กาตาร์
นี่ถือเป็นการเข้ามาลุยบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 3 ของเซอร์เบีย ส่วนเส้นทางคว้าตั๋วมาโชว์ฝีเท้าที่กาตาร์ เซอร์เบียจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A ในรอบคัดเลือก โซนยุโรป จากผลงานลงสนาม 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 2 และไม่แพ้ใครเลย
อีกทั้ง พวกเขาสามารถบุกไปเอาชนะโปรตุเกสได้ 2-1 ถึงถิ่นในนัดสุดท้าย จากประตูชัยช่วงทดเวลาของ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ซึ่งเป็นเกมสำคัญที่ทำให้พวกเขาตีตั๋วเข้ามาแบบอัตโนมัติในฐานะแชมป์กลุ่ม
ผู้จัดการทีม : ดราแกน สตอยโควิช
หลังจากตกรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2020 สมาคมลูกหนังเซอร์เบียจัดการเด้ง ลูบิซ่า ทัมบาโควิช พ้นเก้าอี้กุนซือ และแต่งตั้ง ดราแกน สตอยโควิช อดีตจอมทัพระดับตำนาน ซึ่งผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติยูโกสลาเวียมาแล้วถึง 2 สมัย ในปี 1990 และ 1998 เข้ามาคุมทัพแทน เมื่อเดือนมีนาคม 2021
ก่อนหน้านี้ กุนซือวัย 57 ปี ยังไม่เคยผ่านงานใหญ่มาก่อน โดยมีประสบการณ์คุม นาโกยา แกรมปัส ในศึกเจลีก และ กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ ในลีกจีน จนกระทั่งได้รับโอกาสเข้ามาคุมทัพบ้านเกิด และสามารถพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ
ดาวเด่น : ดูซาน วลาโฮวิช
ขณะที่ขุมกำลังของเซอร์เบียมีการผลัดเปลี่ยนแข้งพลังหนุ่มขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมหลายคน หลังจากบรรดาตัวเก๋าอำลาทีมชาติกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ลูก้า มิลิโวเยวิช และ เนมันยา มาติช
หลังการมาของ สตอยโควิช ก็ใช้เวลาไม่นานในการผสานผู้เล่นตัวเก๋าร่วมอาทิ ดูซาน ทาดิช (อาแจ็กซ์), เนมานยา กูเดลจ์ (เซบีย่า), ฟิลิป คอสติส (ยูเวนตุส) ผนึกกำลังกับแข้งวัยห้าว ไมว่าจะเป็น เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช (ลาซิโอ), ลูก้า โยวิช (ฟิออเรนติน่า), มาร์โก กรูยิช (ปอร์โต้), อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (ฟูแล่ม) และที่ต้องจับตาคือ ดูซาน วลาโฮวิช หัวหอกวัย 22 ปีจากยูเวนตุส
วลาโฮวิช แจ้งเกิดกับ ฟิออเรนติน่า โดยเฉพาะซีซั่น 2020-21 ซึ่งซัดไป 21 ประตูจาก 37 นัด พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเซเรีย อา ในฤดูกาลดังกล่าว ก่อนที่จะถูก ยูเวนตุส คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 80 ล้านยูโร เมื่อเดือนมกราคม 2022 ทำให้หอกชาวเซิร์บกลายเป็นนักเตะเซอร์เบียค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนผลงานในทีมชาติ เจ้าตัวลงสนามไปแล้ว 14 นัด และยิงได้ถึง 7 ประตู
ตารางแข่งขัน
เซอร์เบีย จะประเดิมฟุตบอลโลกนัดแรกพบกับงานใหญ่ดวลกับ บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย ในวันที่ 24 พฤศจิกายน จากนั้นก็ดวลกับ แคเมอรูน ในอีก 4 วันต่อมา ก่อนปิดท้ายด้วยการดวลกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่า ทำให้พวกเขาตกรอบแรกในเวิลด์คัพที่ รัสเซีย
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
เซอร์เบีย อยู่ในกลุ่ม G ร่วมกับ บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์ และ แคเมอรูน ซึ่ง ‘เซเลเซา’ น่าจะจองแชมป์กลุ่มไปแล้วตั้งแต่ก่อนแข่ง ส่วนตั๋วเข้ารอบอีกหนึ่งใบต้องลุ้นกันสนุกแน่นอน เพราะอีก 3 ทีมที่เหลือ มาตรฐานไม่ต่างกันจนเกินไปนัก
ซึ่งหากพวกเขาสามารถคว้าอันดับ 2 ทำได้จะเป็นการทะลุเข้ารอบ 2 เป็นครั้งแรกของเซอร์เบียในรอบ 24 ปี หลังจากพวกเขาเคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ครั้งล่าสุดในบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชื่อประเทศว่า ยูโกสลาเวีย
ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว สตอยโควิช และลูกทีม จะสามารถโชว์ฟอร์มเก่งจนผ่านเข้าแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกได้หรือไม่?