อาร์เจนติน่า เป็นหนึ่งในทีมตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกอยู่แล้ว แต่ศึกที่กาตาร์ครั้งนี้ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากนี่จะเป็นบอลโลกครั้งสุดท้ายของ ลิโอเนล เมสซี่ ด้วย
อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ยังคงมุ่งหวังคว้าแชมป์สมัยที่ 3 หลังทำได้ครั้งสุดท้ายในปี 1986 ในยุคที่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานผู้ล่วงลับ และการคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2021 มาครองได้ด้วยการเอาชนะ บราซิล ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้พวกเขามาฟุตบอลโลก ฉบับกาตาร์ ด้วยความคาดหวังถึงการเป็นแชมป์โลกในรอบ 36 ปีให้ได้
อย่างไรก็ตาม ภารกิจเพื่อปิดฉากเส้นทางในทีมชาติของ คิง เลโอ และพรรคพวกคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่ๆ เพราะหลายชาติก็หมายปองแชมป์โลกเช่นกัน และ UFA ARENA จะพาไปพรีวิวทัพ ‘ฟ้าขาว’ ก่อนลุยศึกใหญ่ที่ กาตาร์ ในเดือนนี้
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
อาร์เจนตินา ครองบัลลังก์แชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย ในปี 1978 และ 1986 ซึ่งหลังจากนั้น แข้งอาร์เจนไตน์มีโอกาสได้ฉลองแชมป์โลกสมัยที่ 3 โดยสามารถฝ่าด่านทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในปี 1990 และ 2014 แต่อกหักแพ้ไปทั้ง 2 ครั้ง โดยพ่ายให้ เยอรมัน ทั้ง 2 ครั้งนั้น (ปี 1990 ในชื่อเยอรมันตะวันตก)
ส่วนในบอลโลกครั้งล่าสุด ปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทัพ ‘ฟ้าขาว’ จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น หลังจากพ่ายต่อ ฝรั่งเศส ว่าที่แชมป์โลกในครั้งนั้นด้วยสกอร์ 3-4
เส้นทางสู่กาตาร์
อาร์เจนติน่า ทำสถิติไร้พ่ายในรอบคัดเลือก แต่ด้วยความที่หลุดเสมอไปเยอะ (6 นัด) เลยทำให้เป็นเพียงอันดับ 2 เป็นรองบราซิล ที่คว้าแชมป์โซนอเมริกาใต้ไปครอง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เป็น 1 ใน 2 ทีมร่วมกับ ‘แซมบ้า’ ที่ไม่เคยแพ้ใครในรอบแบ่งกลุ่มด้วย
อีกทั้งผลงานช่วงหลังของลูกทีมลิโอเนล สกาโลนี่ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ชนะ 4 นัดติดโดยไม่เสียประตู และตั้งแต่เริ่มปี 2022 มาพวกเขาก็ยังไม่แพ้ใครเลยด้วย
ผู้จัดการทีม : ลิโอเนล สกาโลนี่
หลังล้มเหลวในฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย ลิโอเนล สกาโลนี่ ที่เป็นผู้ช่วยของ ฆอร์เก้ ซามเปาลี ก็ถูกแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่กุนซือของทีมชาติ อาร์เจนติน่า แทน
แม้ว่าชั่วโมงบินของ กุนซือวัย 44 ปี อาจจะยังไม่มากนัก แต่สถิติในการคุมทัพ ‘ฟ้าขาว’ ของเขาถือว่ายอดเยี่ยม ชนะ 33 นัด จาก 49 นัด แพ้เพียงแค่ 4 เกมเท่านั้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 67.35 เลย
ส่วนหนึ่งมาจากการที่สกาโลนี่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกทีมอย่างมาก ส่งผลให้ทีมคว้า 2 โทรฟี่ติดต่อกัน (โคปา อเมริกา 2021 และ ฟินาลิสซิม่า) ทำให้ทีมชุดนี้มองถึงโทรฟี่ที่ 3 แล้ว
ดาวเด่น : ลิโอเนล เมสซี่
ส่วนขุมกำลังของอาร์เจนติน่า สคาโลนี่มีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานทุกตำแหน่งทั้งหน้าปากประตูยันแดนหน้า ไม่ว่าจะเป็น เอมี่ มาร์ติเนซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน โรเมโร่, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดริโก้ เดอ ปอล, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล คอร์เรอา และ ดาวรุ่งอย่าง ฆูเลียน อัลวาเรซ
และที่ขาดไม่ได้คือ ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกกัปตันทีมวัย 35 ปี ผู้แบกความหวังของแฟนบอลอาร์เจนไตน์ทั้งประเทศ กับความหวังในการคว้าแชมป์โลกส่งท้าย ซึ่งเขาเกือบทำได้สำเร็จแล้ว แต่สุดท้ายอกหักพ่าย เยอรมัน ในรอบชิงชนะเลิศบอลโลก 2014
สำหรับบอลโลก 2022 เมสซี่ ยืนยันแล้วว่านี่คือเวิลด์คัพครั้งสุดท้ายของเขา ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า รุ่นน้องและเพื่อนร่วมทีมทุกคน พร้อมสู้ตายถวายชีวิตเพื่อความสำเร็จของตัวเอง และเพื่อเป็นส่งท้ายให้ คิง เลโอ แบบสวยๆก่อนลาทีมชาติในอนาคตอันใกล้นี้
ตารางแข่งขัน
อาร์เจนติน่า จะเริ่มต้นบอลโลกครั้งนี้ดวลกับ ซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ต่อด้วยการพบกับ เม็กซิโก ในวันที่ 26 พฤศจิกายน และปิดท้ายด้วยการบู๊กับ โปแลนด์ ในวันสิ้นเดือนนี้
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
อาร์เจนตินา อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับ เม็กซิโก, โปแลนด์ และ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งพวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าที่จะคว้าแชมป์กลุ่ม และเมื่อผ่านเข้ารอบสอง จะเจอกับคู่แข่งจากกลุ่ม D ได้แก่ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ตูนีเซีย หรือเดนมาร์ก
หากไม่โชคร้ายไปเจอกับของแข็งโจกท์เก่าอย่างฝรั่งเศส เหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เชื่อว่า พลพรรค ‘ฟ้าขาว’ ก็มีโอกาสทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ไม่ยาก และอาจมองไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลยทีเดียว ขึ้นอยู่คู่แข่งในรอบต่อๆไป
แม้ไม่อาจการันตีเรื่องนี้ได้ 100% แต่หากแชมป์โลกตกอยู่ในมือของทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เมื่อมองจากมาตรฐาน, ชื่อชั้นผู้เล่น และฟอร์มสุดแกร่งที่ไม่แพ้ใครในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา