และแล้วมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ท่สุดของมวลมนุษยชาติอย่าง ฟุตบอลโลก ก็เตรียมเปิดฉากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมี กาตาร์ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2022 นี้
แน่นอนว่าเวิลด์คัพหนนี้ ดูแปลกแฟนบอลทั่วโลกไปพอสมควร เนื่องจากต้องมาเตะกันในช่วงปลายปี จากเดิมที่เคยเตะกันช่วงซัมเมอร์นี้เป็นปกติ ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจาก กาตาร์ เป็นประเทศเมืองร้อน จึงไม่เหมาะจะเล่นในช่วงหน้าร้อน และย้ายไปเตะหน้าหนาวช่วงปลายปีแทน
นอกเหนือจากมาเตะกันในหน้าหนาวเป็นครั้งแรกแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกของ กาตาร์ ในการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยเช่นกัน และ UFA ARENA จะพาไปพรีวิวทีมเจ้าภาพก่อนทัวร์นาเมนต์จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
กาตาร์ เป็นชาติเดียวในศึกบอลโลกครั้งนี้ที่เพิ่งมีโอกาสได้ลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นก็มาจากการที่พวกเขาได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพนั่นเอง
ทว่าหากนับการผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบปกติ กาตาร์ ก็ไม่เคยผ่านเข้ามาได้เลย นับตั้งแต่แยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปี 1971 และการเล่นศึกใหญ่ในครั้งนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็นชาติที่ 2 ที่ได้เล่นบอลโลกรอบสุดท้าย โดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือก เหมือนที่ อิตาลี เคยเป็นเจ้าภาพในบอลโลกปี 1934
เส้นทางสู่กาตาร์
กาตาร์ ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 จากการประกาศของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2010
แม้มั่นใจว่าได้เล่นฟุตบอลโลกแน่ๆ แต่ กาตาร์ ก็พยายามพัฒนาฟุตบอลของพวกเขาในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ โดยมีหลักฐานชัดเจนจากการคว้าแชมป์ เอเชี่ยน คัพ ปี 2019, ฟีฟ่า อาหรับ คัพ ปี 2021
ทว่าเรื่องนอกสนาม กาตาร์ ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งมีการกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกี่ยวกับการได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ รวมไปถึงการปฏิบัติต่อแรงงานต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวจัดการแข่งขัน มีการบังคับแรงงาน และมีแรงงานข้ามชาติหลายร้อยหรือหลายพันคนเสียชีวิตอันเป็นผลมาจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และสภาพการทำงานที่ประมาทและไร้มนุษยธรรม แม้ว่าจะมีการร่างมาตรฐานสวัสดิการแรงงานในปี 2014
อย่างไรก็ตาม จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานของฟีฟ่า ก็ยอมรับถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และยันยันทุกอย่างจะได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้น ทั้งด้านสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองแรงงาน หรือค่าแรงขั้นต่ำ เช่นเดียวกับ รัฐบาลกาตาร์ ที่พยายามปรับปรุงในส่วนของแรงงานข้ามชาติมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว
ผู้จัดการทีม : เฟลิกซ์ ซานเชซ
เฟลิกซ์ ซานเชซ อาจไม่ใช่เฮดโค้ชที่หลายคนรู้จักมากนัก แต่ใน กาตาร์ เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และการพัฒนาฟุตบอลในประเทศตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
โค้ชชาวสแปนิช เริ่มต้นงานนี้ด้วยการเป็นโค้ชทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ช่วงปี 1996-2006 ก่อนย้ายมา กาตาร์ ตั้งแต่ปี 2006 โดยทำงานเป็นโค้ชใน แอสไปร์ อคาเดมี่ ศูนย์ฝึกนักกีฬาเยาวชนในประเทศเป็นเวลาา 7 ปี ก่อนได้โอกาสคุมทีม กาตาร์ ชุด U-19, , U-20, U-23 และ ชุดใหญ่ ตามลำดับ
โดยเฟลิกซ์ เป็นเฮดโค้ชของ กาตาร์ ชุดคว้าแชมป์ เอเชี่ยน คัพ ในปี 2019 รวมถึงเคยพาทีมชุด U-19 คว้าแชมป์เอเชียในปี 2014 ด้วย
ดาวเด่น : ฮัสซาน อัล เฮย์ดอส
นักเตะทั้งหมดของ กาตาร์ ชุดปัจจุบันล้วนเป็นผู้เล่นที่ค้าแข้งในประเทศ แต่หากหยิบยกนักเตะดาวเด่นที่สุดของพวกเขา คงต้องยกให้ ฮัสซาน อัล เฮย์ดอส กองหน้ากัปตันทีมตัวเก๋าวัย 31 ปี
ดาวยิงจาก อัล-ซาดด์ รับใช้ชาติครั้งแรกตั้งแต่ปี 2008 และเป็นกำลังหลักให้ทีมมาตั้งแต่นัั้น โดยปัจจุบัน เขาครองสถิตินักเตะที่ลงเล่นให้ กาตาร์ มากที่สุด ด้วยจำนวน 168 นัด พร้อมยิงไป 36 ประตู
นอกจากนี้ อัล เฮย์ดอส ยังครองสถิติลงเล่นให้ อัล-ซาดด์ มากที่สุดด้วย กับจำนวน 441 นัดในทุกรายการ พร้อมซัดไป 124 ประตู พร้อมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์กับสโมสรนี้ ทั้งแชมป์ลีก, บอลถ้วย หรือฟุตบอลระดับทวีปอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2011 ด้วย
ตารางแข่งขัน
กาตาร์ จะลงเล่นนัดเปิดสนามพบกับ เอกวาดอร์ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน และจะพบกับ เซเนกัล ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปิดท้ายด้วยการพบกับหนึ่งในทีมเต็งของรายการอย่าง ฮอลแลนด์ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
ด้วยประสบการณ์ที่มีน้อยกว่าใครเพื่อนในกลุ่ม A ไม่แปลกที่ กาตาร์ จะถูกมองว่าน่าจะเป็นทีมแจกแต้ม และได้โอกาสโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลทั่วโลกเห็นแค่ 3 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
แต่อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ใช่ทีมเดียวกับเคยเป็นเหมือนเมื่อ 12 ปีก่อนตอนได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพบอลโลก และด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าภาพ ก็น่าจะทำให้ กาตาร์ ฮึดสู้เต็มที่จนอาจสร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆได้กับการเล่นบอลโลกหนแรกของพวกเขาอยู่เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
