ริคาร์โด้ กาก้า อาจไม่ได้รักษาความยอดเยี่ยมได้ยืนยาวเช่นยอดนักเตะหลายคนในยุคนี้ แต่ถึงอย่างนั้นฝีเท้าและความสำเร็จในช่วงหนึ่งก็ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกอย่างไร้ข้อสงสัย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ สามารถรักษามาตรฐานความยอดเยี่ยมได้ยืนยาวจนถึงช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง จนยากที่จะฟันธงได้แบบ 100% ว่าใครเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในยุคโมเดิร์น แต่ก่อนหน้าที่พวกเขาทั้ง 2 คนจะผลัดกันคว้าบัลลงดอร์ อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิล คือคนสุดท้ายที่คว้ารางวัลนี้ได้ และนั่นถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 7 ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ กาก้า ในอาชีพค้าแข้งที่แฟนบอลทั่วโลกจดจำได้ไม่มีวันลืม
ระเบิดฟอร์มในลีกเลี่ยนทันที
นักเตะจากอเมริกาใต้หลายคนต้องใช้เวลาปรับตัวไม่น้อย หลังย้ายมาค้าแข้งในยุโรป ทว่าไม่ใช้กับนักเตะอย่าง กาก้า
หลังย้ายจาก เซา เปาโล มายัง เอซี มิลาน ในปี 2003 ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านยูโร ซึ่ง ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ มองว่าถูกสุดๆราวกับถั่วลิสง และฟอร์มการเล่นของเขาก็ทำให้ รุย คอสต้า ตำนานแข้งชาวโปรตุกีส กลายเป็นตัวสำรองของทีมในเวลาต่อมา
ดาวเตะวัย 21 ปี ณ เวลานั้น ซัดไป 10 ประตูจาก 30 นัดในเซเรียอา และเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ ปีศาจแดงดำ คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ครั้งเดียวในรอบทศวรรษ
แม้โรม่าจะยิงประตูเยอะกว่า และเสียประตูน้อยกว่า แต่ ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คว้าแชมป์ลีกด้วยการมีแต้มเหนือกว่า 11 คะแนน และผลงานดังกล่าวก็ไม่แปลกที่เพลย์เมกเกอร์ชาวแซมบ้าจะได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรียอา
ประตูเจ๋งสุดในสีเสื้อมิลาน
#TBT
12 anni fa, la strepitosa traversata di @KAKA contro il Fenerbahçe 💫
È il suo gol più bello in rossonero? ❓
👉🏻 https://t.co/Y15J3iez1w pic.twitter.com/GiwsMpZqdn— AC Milan (@acmilan) September 28, 2017
ในฐานะที่เป็นกองกลางตัวรุก ทำให้แฟนบอลได้เห็น กาก้า วาดลวดลายฝีเท้าสุดเพลินตาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งเทคนิคที่ไม่เป็นสองรองใคร, การสัมผัสบอล, ร่างกายที่สูงใหญ่ แต่มีความคล่องแคล่วรวดเร็ว ซึ่งความเร็วของเขาเป็นสิ่งที่หลายคนมักลืมเลือนไปเช่นกัน
คุณสมบัติที่กล่าวมามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมชัดเจนของเขา กับ 104 ประตูที่ยิงให้ เอซี มิลาน และหนึ่งในลูกที่หลายคนจดจำได้มากที่สุดคงเป็นเกมที่ทีมเอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ 3-1 ในรัง ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005
เจ้าตัวเคยอธิบายถึงเกมนั้นไว้ว่า “เกมนั้นหลุดอยู่ที่สกอร์ 1-1 และมีเวลาเหลือเพียง 4 นาทีเท่านั้น ผมได้บอลจาก มัสซิโม่ อัมโบรซินี่ ได้ช่วง 10 หลาจากกลางสนามทางฝั่งซ้าย หลังจากที่เราพาบอลออกมาจากรอบเขตโทษได้”
“ผมพาบอลวิ่งไปเรื่อยๆผ่านผู้เล่น 1 คน จากนั้นก็อีกคน และอีกครั้ง จนถึงกรอบเขตโทษของ เฟเนร์บาห์เช่ ก่อนยิงเรียดผ่าน โวลคาน เดมิเรล เข้าไป”
เมสซี่ก็เอาไม่อยู่
ถ้าคุณต้องการหลักฐานมายืนยันว่า กาก้า ปราดเปรียวแค่ไหนสมัยที่ยังพีกๆ เราก็มีให้คุณได้เห็นเต็มๆ 2 ตาเช่นกัน
ในเกมกระชับมิตรที่ บราซิล พบกับ อาร์เจนติน่า ณ สนาม เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ในปี 2006 ช่วงท้ายของการแข่งขัน แซมบ้า นำห่างคู่แข่งไป 2-0 และการที่ ลิโอเนล เมสซี่ วัยดาวรุ่งจับบอลลั่น ทำให้ถูกเพลย์เมกเกอร์ของทัพ ‘เซเลเซา’ แย่งบอล ก่อนกระชากหนี ดาวรุ่งแดนฟ้าขาว แบบไม่เห็นฝุ่น และฝั่งประตูปิดกล่องให้ บราซิล เอาชนะไป 3-0
ดีที่สุดในโลก
หากพูดถึง เมสซี่ มีนักเตะไม่กี่คนบนโลกที่ถูกมองว่าอยู่เหนือกว่าเขา รวมไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้วย แต่ทั้งคู่ก็เคยตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของ กาก้า มาแล้ว ในงานประกาศผลบัลลงดอร์ปี 2007
ดาวเตะ เอซี มิลาน ได้รับคะแนนโหวตเป็นเอกฉันท์ โดยมากถึง 444 เสียง มากกว่า เมสซี่ 167 เสียง และมากกว่า โรนัลโด้ 189 เสียง
“พวกเขาคว้ารางวัลนี้ได้ในทุกๆปี ณ ปัจจุบัน แต่ผมก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้ก่อนหน้านั้น สำหรับผมมันสำคัญจริงๆ เพราะผมเคยมีคู่แข่งที่ดีที่สุด ผมภูมิใจเมื่อมองย้อนไปจุดนั้น” อดีตแข้งชาวบราซิลเลี่ยน กล่าว
ล้างแค้นหงส์แดง
รางวัลบัลลงดอร์ครั้งเดียวที่ กาก้า ได้มาจากการที่เขาพา เอซี มิลาน คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2007 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาอธิบายเป็นช่วงพีกที่สุดในอาชีพค้าแข้งอย่างแท้จริง
การคว้าแชมป์ยุโรปที่ เอเธนส์ เกิดขึ้นหลังจากที่ รอสโซเนรี่ พลิกล็อคพ่ายให้ ลิเวอร์พูล ที่ อิสตันบูล ทั้งๆที่นำห่างไปก่อน 3-0 แท้ๆ เมื่อ 2 ปีก่อน
ในฐานะที่เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุมากที่สุดในนัดชิง UCL ไม่มีทางที่ มิลาน จะปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง แม้ดาวเตะชาวบราซิลเลี่ยน ไม่ได้โดดเด่นตลอดเกม แต่เขาก็มีบทบาทสำคัญในช่วง 2 สำคัญของการแข่งขัน
ครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงที่เขาได้ฟรีคิก หลัง ชาบี อลอนโซ่ ทำฟาวล์ ซึ่งนำไปสู่ประตูขึ้นนำ เมื่อ อันเดรีย ปีร์โล่ เตะลูกนิ่งแฉลบ ฟิลิปโป้ อินซากี้ เปลี่ยนทางเป็นประตู ขณะที่หนสองเกิดขึ้น เมื่อเขาจ่ายบอลทะลุแนวรับ งหงส์แดงง ให้ อินซากี้ เข้าไปดวลเดี่ยวกับ เปเป้ เรน่า ก่อนแตะหลบยิงเข้าไปโล่งๆ
ประตูนี้แฟนผีไม่ลืม
เชื่อว่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงไม่มีทางลืมชื่อของ ยอดกองกลางรายนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเกมรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก เลกสอง ที่เตะกันใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แม้เอาชนะมาได้ 3-2 ในเลกแรกที่ ซาน ซีโร่ แต่เพลย์เมกเกอร์ของ เอซี มิลาน ก็มาทำแสบช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 5-3 และไฮไลท์เด็ดคงหนีไม่พ้นจังหวะที่เขาหลอกให้ กาเบรียล ไฮน์เซ่ ชนกับ ปาทริซ เอวร่า ก่อนแปเรียดผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปในเกมเลกแรกที่โรงละครแห่งความฝัน
“ประตูที่ 2 ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบตัดเชือกเลกแรก พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นไฮไลท์ในอาชีพของผมเลย” อดีตแข้งวัย 40 ปี ย้อนความหลังกับ Daily Mail
“เมื่อบอลตกจากจังหวะวางบอลยาวของ ดีด้า ทั้งหมดที่ผมคิดก็คือพยายามทำบางอย่างที่พิเศษออกมา ทำมันใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์เป็นอะไรที่สุดยอดเลย”
ไม่แปลกที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือของ ‘ปีศาจแดง’ จึงยกย่องให้ ดาวเตะเบอร์ 22 ของ รอสโซเนรี่ เป็น 1 ใน 2 แข้งที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น
ค่าตัวสถิติโลก
2 ปีต่อมา กาก้า จะได้ลงเล่นร่วมกับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกที่ เฟอร์กี้ เอ่ยถึงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังย้ายมาเล่นกับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ ในปี 2009 ซึ่งเป็นค่าตัวสถิติโลก ก่อนถูกทำลายลงใน 2 วันต่อมา หลัง CR7 ย้ายมาด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์
แม้อาการบาดเจ็บจะทำให้ดาวเตะชาวบราซิลเลี่ยน โชว์ฟอร์มไม่สุดในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์บาเบว แต่ก็อย่าลืมว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ชุดที่คว้าแชมป์ลาลีก้า ในฤดูกาล 2011-12 ที่ทำแต้มทะลุ 100 คะแนน
โดยอดีตแข้งวัย 40 ปี จบปีที่ 3 ในโลส บลังโกส ด้วยการทำไป 8 ประตูกับ 14 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 40 นัดในทุกรายการ ซึ่งถือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาตลอด 4 ปีสเปนอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
