ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงมีเรื่องให้ต้องพูดถึงตลอด นอกจากความร้อนแรงของ “จอมมารบู” เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ที่ทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทำประตูในเกมเยือนได้ 4 นัดติด สิริรวมเพิ่งกลางเดือนกันยายนกดไปแล้ว 11 เม็ด
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือในเกมหัวค่ำวันอาทิตย์ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล สร้างความฮือฮาด้วยการใส่ชื่อเด็กวัย 15 ปี บนม้านั่งสำรอง
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรูปเกมที่พวกเขานำคู่แข่งอย่าง เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ทำให้เขาตัดสินใจส่งเจ้าหนู เอธาน เอ็นวาเนรี่ ลงสำรองไปแทน ฟาบิโอ วิเอร่า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยวัยเพียง 15 ปี 181 วัน
แน่นอนว่าการทำลายสถิติในครั้งนี้ถูกจับจ้องจากแฟนบอลว่าไอ้หนูคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ ไม่งั้นไม่มีทางที่เด็ก ม.3 จะได้รับโอกาสอันล้ำค่าแบบนี้
แต่ก่อนหน้า เอ็นวาเนรี่ จะทำลายสถิติดังกล่าว มีผู้เล่นหลายรายที่เคยมีช่วงเวลาอันหอมหวานเหมือนกัน ไปดูกันว่า ณ ปัจจุบัน เส้นทางการค้าแข้งอาชีพของพวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไร หลังถือครองสถิตินี้
แจ็ค โรบินสัน (ลิเวอร์พูล) 16 ปี 250 วัน
เด็กหนุ่มจากวอร์ริ่งตัน เมืองที่อยู่ขั้นกลางระหว่าง ลิเวอร์พูลกับแมนฯยูไนเต็ด เจ้าตัวตัดสินใจเลือกมาอยู่ในทีมเยาวชนของ “หงส์แดง” ในปี 2002 ก่อนจะได้รับโอกาสก้าวขึ้นมาในเกมชุดใหญ่ เมื่อฤดูกาล 2009-2010 ภายใต้การคุมทีมของ “เอลบอส” ราฟาเอล เบนิเตซ
กลายเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของสโมสรนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ด้วยวัย 16 ปี 250 วัน โดยถูกเปลี่ยนลงสำรองไปแทน ไรอัน บาเบล ในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2009-2010 แต่หลังจากนั้นเขาไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ ถูกปล่อยให้กับหลายสโมสรยืมตัว ปัจจุบันอายุ 29 ปี ค้าแข้งอยู่กับ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
รีซ อ๊อกซ์ฟอร์ด (เวสต์แฮม) 16 ปี 236 วัน
สำหรับ รีซ อ๊อกซ์ฟอร์ด จัดว่าเป็นผู้เล่นพรสวรรค์สูง หน่วยก้านดี สามารถเล่นได้ทั้ง เซนเตอร์ฮาล์ฟ และมิดฟิลด์ตัวรับ ปรากฏกาย ครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 2-0 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2015 ด้วยวัย 16 ปี 236 วัน ทำลายสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสร ที่บิลลี่ วิลเลี่ยมส์ ที่เคยทำเอาไว้เมื่อปี 1922 (16 ปี 221 วัน) คนที่ให้โอกาสในวันนั้นคือกุนซือสไตล์ร็อคอย่าง สลาเวน บิลิช แถมยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
เขาลงเล่นให้กับ เวสต์แฮม ไป 8 เกม จากนั้นก็โยกไปค้าแข้งในบุนเดสลีกา เยอรมัน ที่ถือว่าเป็นเทรนด์สำหรับดาวรุ่งเมืองผู้ดีที่มักจะย้ายไปชุบตัวเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองในลีกเบียร์ เพราะมีกรณีของ เจดอน ซานโช่ เป็นตัวอย่าง ไปอยู่กับ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ด้วยสัญญายืมตัว แต่แทบจะไม่ค่อยได้ลงสนามเลยเพราะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ ปัจจุบันอายุ 23 ปี ค้าแข้งอยู่กับ เอาก์สบวร์ก ถือว่าอายุยังน้อยไม่สายเกินไปที่จะกลับสู่เส้นทาง
แกรี่ แม็คเชฟฟรีย์ (โคเวนทรี) 16 ปี 198 วัน
ปีกซ้ายร่างเล็กเด็กท้องถิ่นเกิดในโคเวนทรี ลงเล่นให้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมแรกให้กับ “ช้างกระทืบโรง” เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1999 ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า 4-1 และเป็นเกมเดียวของเขาในฤดูกาล 1998-99 เพราะหลังจากนั้นไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม ถูกปล่อยให้หลายสโมสรยืมตัว และร่วงตกชั้นไปพร้อมกับ โคเวนทรี ในฤดูกาล 2000-2001
แม็คเชฟฟรีย์ ถือว่าเป็นนักเตะจอมพเนจรลงเล่นไปถึง 15 สโมสร ในทุกระดับ ทั้งเดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน, ลีกทู นอกลีกหรือภูมิภาคก็เล่นมาหมดแล้ว ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2019 กับฟรีคลีย์ ยูไนเต็ด สโมสรกึ่งอาชีพ ปัจจุบันอายุ 40 ปี ก้าวขึ้นไปรับงานกุนซือคุมทีม “นักรบโบราณ” ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ที่เพิ่งตกชั้นร่วงไปอยู่ลีกทู
รูเชี่ยน เฮปเบิร์น-เมอร์ฟี่ย์ (แอสตัน วิลล่า) 16 ปี 198 วัน
หัวหอกดาวรุ่งรายนี้ ติดทีมชาติอังกฤษไล่ตั้งแต่ชุด U-16 ไปจนถึง U-20 เป็นเด็กในอคาเดมี่ของ แอสตัน วิลล่า ได้รับโอกาสลงเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2015 ด้วยวัย 16 ปี 198 วัน เท่ากับ แกรี่ แม็คเชฟฟรีย์ ของโคเวนทรีที่เคยทำไว้เมื่อปี 1999 ก่อนทีมจะล่วงตกชั้นไปเล่นเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2015-16 เหมือนกันอีก
หลังจากนั้นเขาได้เป็นกำลังหลักลงสนามแบบกระปิดกระปอย เป็นเวลา 6 ฤดูกาลกับ วิลล่า เล่นไป 17 เกมยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว และก็ถูกปล่อยให้สโมสรอื่นยืมตัว ลีกไซปรัสก็ไปเล่นมาแล้ว ปัจจุบันเฮปเบิร์น-เมอร์ฟี่ย์ในวัย 24 ปี ยังค้าแข้งอยู่ โดยต้นสังกัดของเขาคือ สวินดอน ทาวน์ ในลีกทู
โฆเซ่ แบ็กซ์เตอร์ (เอฟเวอร์ตัน) 16 ปี 191 วัน
มิดฟิลด์ตัวรุกอนาคตไกล ก้าวขึ้นมาด้วยพรสวรรค์ที่เหนือกว่าผู้เล่นรายอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน กลายเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหนือ เวย์น รูนีย์ และเจมส์ วอห์น ด้วยวัยเพียง 16 ปี 191 วัน ในเกมที่พ่ายให้กับ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเจอร์ส นัดเปิดฤดูกาลเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2008
แต่หลังจากนั้นพฤติกรรมนอกสนามของเขาได้กลายปัญหาที่ขัดขวางเส้นทางการค้าแข้งอาชีพ เคยถูกจับกุมในข้อหามีกัญชาและแบงค์ปลอมไว้ในครองครองเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2009 ถูกปล่อยให้ไปเล่นกับทีมในระดับล่าง และยังมีข่าวเรื่องการใช้สารกระตุ้นอีก เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ด เมื่อปี 2021 ด้วยวัยเพียง 29 ปี หลังแยกทางกับต้นสังกัดสุดท้ายอย่าง เมมฟิส 901 สโมสรลีกรองในสหรัฐอเมริกา
แอรอน เลนน่อน (ลีดส์ ยูไนเต็ด) 16 ปี 129 วัน
ปีกตัวจี๊ดทีมชาติอังกฤษคือผู้เล่นคนเดียวที่ลงเล่นในเกมระดับพรีเมียร์ลีกไปกว่า 400 นัดกับทุกสโมสร ปรากฏตัวครั้งแรกด้วยการลงสนามให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยวัยเพียง 16 ปี 129 วัน ในเกมที่พบกับ สเปอร์ส เมื่อ 19 ปีที่แล้ว เส้นทางค้าแข้งอาชีพของเขาถือว่าดูดีสุด ๆ ย้ายไปอยู่กับ สเปอร์ส ติดทีมชาติอังกฤษลุยฟุตบอลโลก 2006 และยังถือครองสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวัย 16 ปี 199 วัน ในเกมที่พบกับอาร์เซน่อล
ถือว่าเป็นผู้เล่นที่สู้ชีวิตไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ในปี 2017 เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าพยายามจะฆ่าตัวตายจนต้องเข้ารับการบำบัด ก่อนจะกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง ปัจจุบันบัน เลนน่อน ในวัย 35 ปี ยังไม่แขวนสตั๊ด กลายเป็นแข้งฟรีเอเย่นต์ หลังจากที่แยกทางกับ เบิร์นลีย์ ที่เพิ่งตกชั้นไปเล่นเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
อิซซี่ บราวน์ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน) 16 ปี 117 วัน
แนวรุกดาวรุ่งหัวฟู สร้างความฮือฮาด้วยการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (ในเวลานั้น) ให้กับต้นสังกัด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในเกมที่พ่ายให้กับ วีแกน 2-3 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2013 ตอนนั้นเขาอายุเพียง 16 ปี 117 วัน หลังจากนั้นเขาปฏิเสธการต่อสัญญากับทีม โดยเลือกไปหาอนาคตใหม่กับทีมใหญ่อย่าง เชลซี
แต่การย้ายไปค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ลงเล่นให้กับทีมไปเพียงเกมเดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้กับหลายสโมสรยืมตัว จนหมดสัญญากับทีมแยกย้ายกันไปเมื่อปี 2021 เขาไปอยู่กับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ก็ไม่ได้ลงเล่น เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ปัจจุบัน บราวน์ ในวัย 25 ปี กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด
แมทธิว บริกก์ส (ฟูแล่ม) 16 ปี 68 วัน
สำหรับ แมทธิว บริกก์ส แบ๊กซ้ายรายนี้ กลายเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นของ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่ติดท็อป 10 นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยลงสนามในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2006-2007 ด้วยวัย 16 ปี 68 วัน ในยุคที่ ลอว์รี่ ซานเชซ เป็นกุนซือ ถือครองสถิตินี้มา 12 ปี ก่อนจะถูกทำลายโดย ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เมื่อพฤษภาคม ปี 2019
เส้นทางของเขาไม่ได้รุ่งโรจน์อย่างที่คิด ถูกปล่อยให้ทีมระดับล่างยืมตัว ออกพเนจรลงไปกว่า 15 สโมสร ปัจจุบัน บริกก์ส ในวัย 31 ปี ยังเล่นอยู่ค้าแข้งให้กับ โกสปอร์ต โบโร่ห์ สโมสรกึ่งอาชีพจากเซาธ์เทิร์น พรีเมียร์ลีก
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (ฟูแล่ม) 16 ปี 30 วัน
นี่คือผู้เล่นที่ทำลายสถิติของ แมทธิว บริกก์ส ทั้งในสโมสรและในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับการป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามให้กับทีม เอลเลียตต์ ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ลงเดบิวต์เกมแรกบนลีกสูงสุดของอังกฤษ ในนัดที่ฟูแล่มบุกพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2019 ในฐานะตัวสำรอง โดยคนที่ส่งเขาลงสนามคือ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ที่ตอนนี้ตกงานถูก บอร์นมัธ ปลดจากตำแหน่งกุนซือ
หลังจากทีมตกชั้นเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และยังสร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยอันดับสองตลอดกาลของ “หงส์แดง” ที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่ แจ็ค โรบินสัน ปัจจุบันเส้นทางของเขากำลังรุ่งโรจน์ได้รับโอกาสจากกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้เป็นตัวหลักในฤดูกาลนี้ แถมมีลุ้นเล็ก ๆ กับการติดทีมชาติอังกฤษลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
เอธาน เอ็นวาเนรี่ (อาร์เซน่อล) 15 ปี 181 วัน
ลองจินตนาการตอนคุณอายุ 15 ปี 181 วัน ตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ หลายคนคงกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่มัธยม 3 แต่หนุ่มน้อยคนนี้ก้าวขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เขาถูกส่งลงสำรองไปแทน ฟาบิโอ วิเอร่า ในเกมนัดล่าสุดที่ อาร์เซน่อล บุกถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 3-0
เจ้าตัวเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2007 หลังสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เปิดใช้งาน 8 เดือน ทำลายสถิติแข้งอายุน้อยสุดของ ฮาร์วีย์ เอเลียตต์ ลงได้สำเร็จ รวมไปถึงสถิติของสโมสรที่ เชสก์ ฟาเบรกัส เคยทำไว้ด้วย
มิเกล อาร์เตต้า เผยถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจส่งแข้งวัย 15 ปี ลงสนาม ว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วน ๆ เมื่อได้เห็นเด็กคนนี้ก็รู้ทันทีว่าไอ้นี่มีของอย่างแน่นอน บวกกับผู้เล่นตัวหลักในตำแหน่งเดียวกันอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้มีพื้นที่ว่างพอดี ทั้งที่เพิ่งจะลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ไปเพียงแค่ 1 วันก่อนลงสนามจริงด้วยซ้ำ
น่าสนใจในวันข้างหน้าของ เอธาน เอ็นวาเนรี่ จะเป็นอย่างไร? เขาจะยังได้รับโอกาสดี ๆ แบบนี้อีกไหม หรือจะดับหายไปจากวงการแบบรุ่นพี่รายอื่น ๆ ที่เคยถือครองสถิติเดียวกัน
เรื่องนี้คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์…