อาการบาดเจ็บของ ซาซ่า คาลัดจ์ซิช ที่รุนแรงเกิดคาดในเกมพบ เซาแธมป์ตัน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนทำให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ประสบปัญหาผู้เล่นในแดนหน้าลดลง และจำเป็นต้องหากองหน้ามาเพิ่ม ทั้งๆที่ตลาดซื้อขายยุติไปแล้ว
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทีม ‘หมาป่าแดนผู้ดี’ จะคว้าใครเข้ามาเพิ่มไม่ได้เลย เพราะหากเป็นผู้เล่นไร้สังกัดก็ไม่มีปัญหาในการดึงตัวมาร่วมทีม และ ดีเอโก้ คอสต้า คือนักเตะที่ วูล์ฟส์ พยายามคว้ามาให้ได้ในตอนนี้ แม้ไม่ใช่ทุกคนที่มั่นใจว่าดีลนี้จะส่งผลดีต่อทีมนัก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่หลายคนรู้สึกว่าควรจับตามองเช่นกัน
ตลอด 3 ปีในพรีเมียร์ลีก อดีตดาวยิงทีมชาติสเปน โดดเด่นอย่างมาก หลังประตูของเขาช่วยให้ แอตเลติโก้ มาดริด คว้าแชมป์ลาลีก้าในฤดูกาล 2013-14 เขาก็ทำแบบนั้นให้ เชลซี โดยช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ถึง 2 หน แม้แฟนบอลคู่แข่งหรือผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะเกลียดเขา แต่ทุกคนก็ต้องการมีเขาอยู่ในทีมเช่นกันหากเป็นไปได้ในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลดีๆมากมายว่าทำไม คอสต้า ถึงไม่ใช่คำตอบที่แก้ปัญหาของ วูล์ฟส์ หลังมีคำถามว่าจะดีกว่าจริงๆหรือไม่ หลังสโมสรยอมจ่ายเงินกว่า 15 ล้านปอนด์เพื่อดึงคาลัดจ์ซิช มาร่วมทีมช่วงวันสุดท้ายของตลาด แต่ตอนนี้กำลังจะดึงกองหน้าที่หมดสัญญาเข้ามาอีกราย?
จิตใจที่กระหายชัยชนะ
คอสต้า ไม่ได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพเลยในปี 2022 เนื่องจากยกเลิกสัญญากับ แอตเลติโก้ มิเนโร่ แม้ถูกคาดว่าจะไม่ปังเหมือนก่อน แต่ความทรงจำของเขาในอังกฤษ ยังคงเด่นชัด กับการพา เชลซี คว้าแชมป์ลีกหนล่าสุด
หอกใจเกเร เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้ ‘สิงห์บลูส์’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้งล่าสุด ด้วยการซัดไป 20 ประตูในลีกทั้ง 2 ปีนั้น โดยแบ่งเป็นยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และอันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งปัญหาในตำแหน่งกองหน้าอาจเกิดขึ้นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ณ ตอนนี้ แต่ไม่ใช่ในช่วงที่เขาอยู่ในทีม
ทว่านับตั้งแต่นั้น สถิติการยิงประตูก็ค่อยๆลดลง เขาไม่เคยยิงได้เลข 2 หลักในลีกได้เลยในฤดูกาลต่อๆมา แต่เจ้าตัวก็ยังมีดีอยู่ แม้ไม่ใช่ร่างกาย หลังคว้าแชมป์กับ ‘ตราหมี’ ในคำรบที่ 2 รวมไปถึงแชมป์ 2 รายการกับ แอตเลติโก้ มิเนโร่ ที่บราซิล
วูล์ฟส์ คงต้อนรับและยินดีกับความคิดที่มุ่งมั่นในชัยชนะ หลังทีมมีผู้เล่นระดับอาวุโสไม่มาก บุคลิกที่แสบสันในสนาม อาจเป็นประโยชน์ต่อทีม อีกทั้งในฐานะที่สามารถพูดภาษาโปรตุกีส ได้คล่องแคล่ว ก็มีการคาดหวังว่าเขาจะปรับตัวเขากับทีมได้อย่างรวดเร็วด้วย
นั่นคือสิ่งที่ ‘หมาป่าแดนผู้ดี’ ต้องการอย่างแท้จริง
ขาดกองหน้าประเภทปิดบัญชี
เกมรับของ วูล์ฟส์ ถือว่าดีอยู่ เพราะตอนนี้พวกเขาเสียประตูในพรีเมียร์ลีกแค่ 4 ลูกจาก 6 นัดแรก น้อยกว่าทุกทีม ณ ตอนนี้ ทว่าหากดูกันที่เกมรุก พวกเขาก็ยิงประตูได้น้อยกว่าหลายๆทีมเช่นกัน (3 ลูกเท่ากับ เวสต์แฮม) ซึ่งนี่เป็นจุดที่ยังแก้ไม่หายใน โมลินิวซ์ หลังพวกเขาเป็นทีมที่ติด 5 อันดับแรกที่ยิงประตูได้น้อยสุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน
ตัวเลือกในแดนหน้าของทีมตอนนี้ ต้องบอกว่ามีพร้อมทั้ง ดาเนี่ยล โพเดนซ์, เปโดร เนโต้ หรือ ฮวาง ฮี-ชาน ซึ่ง บรูโน่ ลาจ กุนซือของทีม เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ดาเนี่ยล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในการเชื่อมเกม เนโต้ ดุดันยามที่พื้นที่ว่าง ฮวาง ก็ดีมากๆในการวิ่งตัดแนวรับ”
กุนซือชาวโปรตุกีส อาจเพิ่มตัวเลือกในปีนี้อย่าง อดาม่า ตราโอเร่ หนึ่งในนักเตะที่เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคนี้ หรือปีกตัวใหม่อย่าง กอนซาโล่ กูเอเกส ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพ แต่สิ่งที่ผู้เล่นเหล่านี้ของ วูล์ฟส์ ที่ไม่สามารถทำให้ทีมได้เลยก็คือ ประตู
ในซีซั่นนี้ อย่างน้อย โพเดนซ์ ก็ยิงไปแล้ว 2 ประตู เท่ากับที่เขาทำได้ในการลงเล่น 26 นัดพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน แต่ เนโต้ ยิงได้ลูกเดียวจาก 26 เกมหลังสุดในลีก ส่วน ตราโอเร่ ก็ทำได้เท่ากันจาก 27 นัดหลังสุด ซึ่งเป็นจำนวนประตูที่ คอเนอร์ โคอาดี้ กองหลังของทีมที่ย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ในซัมเมอร์นี้ ทำได้เท่ากันในฤดูกาลก่อน
ถึงความเฉียบคมอาจเพิ่มมาบ้าง แต่มีสัญญานเพิ่มขึ้นที่ดูน้อยนิดสำหรับ โพเดนซ์ หลังตัวเขาและ ราอูล ฆิเมเนซ พลาดโอกาสสำคัญในเกมที่เจ๊ากับ บอร์นมัธ แบบไร้สกอร์ กูเอเดส ก็ยิงใครไม่ได้ใน 6 นัดแรกของเขา ส่วน ฮวาง ก็ฟอร์มหลุดจนขาดความมั่นใจ
ทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเกี่ยวกับคอสต้า เขาขาดความคล่องตัวแน่นอนในวัย 33 ปี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเมื่อมีการเคลื่อนไหวรอบตัวเขา ถ้าเขาเป็นแค่เป้าหลักๆที่อยู่ในกรอบเขตโทษ นั่นอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายในเมื่อนั่นก็เป็นสิ่งที่วูล์ฟส์ต้องการเช่นกัน
การครอสบอลที่ขาดเป้าหมาย
ลาจ วางระบบทีมให้ครองบอลเป็นหลัก ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนในเกมพบ สเปอร์ส เมื่อ รูเบน เนเวส, เชา มูตินโญ่ แะล มาเธอุส นูเนส ครองเกมในแดนกลาง ทำให้ วูล์ฟส์ ครองบอลมากกว่า จนกระทั่ง แฮร์รี่ เคน ได้พังประตูชัยในระยะเผาขน
นั่นให้ความรู้สึกว่าผลลัพธ์ของเกมอาจเปลี่ยนไป หากทีม ‘หมาป่า’ มีใครสักคนที่เป็นเป้าหมายในการครอสบอลได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมคว้า คาลัดจ์ซิช กองหน้าทีมชาติออสเตรีย เจ้าของความสูงร่วม 2 เมตร
การครอสบอลไม่ใช่จุดที่โดดเด่นชัดเจนใน วูล์ฟส์ ยุคของ ลาจ จากความพยายามทั้งหมด 588 ครั้งในฤดูกาลก่อน ซึ่งน้อยเป็น 3 อันดับแรกในลีก และน้อยกว่า วูล์ฟส์ สมัยที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ คุมในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุดด้วย
แต่บางที นั่นอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราครึ่งหนึ่ง ฆิเมเนซ เคยเป็นทีเด็ดของทีมในลูกกลางอากาศ เพราะย้อนกลับไปในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ไม่มีนักเตะคนไหนโหม่งประตูได้มากกว่า แข้งชาวเม็กซิกัน แล้ว แต่การบาดเจ็บศรีษะจนกระโหลกร้าวของเขาทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป
หอกเลือดจังโก้ อาจกลับมาเล่นได้พร้อมใส่เครื่องป้องกันศรีษะ แต่หลังจากนั้นเขาก็ทำได้เพียง 10 ประตู รวมทั้งในสโมสรกับทีมชาตินับตั้งแต่หายกลับมา และไม่มีลูกไหนที่มาจากการโหม่ง นั่นทำให้ ลาจ มองเห็นความจริงกับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง
ปัญหาที่รอการแก้ไข
คาลัดจ์ซิช ควรได้เป็นความหวังใหม่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และ คอสต้า อาจเป็นได้แค่แผนสำรอง ที่ถูกส่งมาเปลี่ยนเกม ทว่าการบาดเจ็บของ หอกวัย 25 ปี ทำให้เรื่องนี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง
การเซ็นสัญญาครั้งนี้จะได้ผลหรือไม่? ก็คงขึ้นอยู่กับระดับความฟิต และความกระหายของ อดีตแข้ง เชลซี แต่มันก็ขึ้นอยู่กับ วูล์ฟส์ ด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้ทีมพัฒนาไปไกลมากจากทีมที่รองรับกองหน้าประเภทนี้ เป็นเหตุให้ต้องมีการปรับตัวกับทุกคนเพื่อใช้ประโยชน์จากเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทีมของ ลาจ ในฤดูกาลนี้ มีสถิติการยิงประตูในกรอบ 18 หลา น้อยที่สุด คิดได้เพียง 53.9% ขณะที่ ลิเวอร์พูล คือทีมที่ยิงในกรอบมากสุด ด้วยตัวเลข 79.5% แสดงให้เห็น วูล์ฟส์ มักถ่ายบอลออกข้าง และวนกลับไปแดนกลาง ซึ่งการเล่นบุกอาจจบลงด้วยการยิงไกลของ เนเวส หรือผู้เล่นคนอื่นๆในแผงมิดฟิลด์
คอสต้า จำเป็นต้องได้บอลในกรอบมากกว่าปกติ เพราะโอกาสยิงที่เขาทำได้ในพรีเมียร์ลีกระหว่างปี 2014-2017 มีมากกว่า 85% ที่มาจากในกรอบ 18 หลา ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าใครในตอนนี้นั้น
คำถามสำคัญในตอนนี้คือว่าสถิติเหล่านี้บ่งบอกว่า วูล์ฟส์ หมดหวังกับเกมรุกในกรอบโทษหรือไม่ หรือสไตล์การเล่นของพวกเขาไม่เหมาะต่อการเล่นแบบนั้น
แฟนบอล ‘หมาป่า’ ตั้งข้อสังเกตุว่า ดีโอโก้ โชต้า เติบโตได้อย่างไรกับ ลิเวอร์พูล พวกเขาเห็น ฟาบิโอ ซิลวา ยิงไม่ได้ตลอด 36 นัดในซีซั่นก่อน แต่เมื่อย้ายไปเล่นกับ อันเดอร์เลชท์ แบบยืมตัวกลับยิงไปแล้ว 6 ลูก มากกว่าที่เขาทำได้ในอังกฤษเสียอีก
ครั้งหนึ่งฆิเมเนซเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่ยิงได้ 6 ประตูจากการลงเล่น 37 นัดหลังสุดในรายการนี้ ขณะที่ คาลัดจ์ซิช จ่ายบอลสำเร็จแค่ 2 ครั้ง ก่อนบาดเจ็บหนักเอ็นไขว่หน้าขาดในเกมประเดิมสนาม ต้องพักไปแบบยาวๆ
คอสต้า อาจกลายเป็นผู้เล่นโดดเดี่ยวเกินไปในแดนหน้า หรือจะช่วยให้ วูล์ฟส์ บินสูงกว่าเดิม จากการช่วยเหลือของผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ คงต้องติดตามกันต่อไป
แม้ไม่ใช่ทุกคนจะมั่นใจว่าการย้ายมาของ กองหน้าวัย 33 ปี จะทำให้อย่างหลังเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ผิดเช่นกันหากบอกว่าเรื่องนี้น่าสนใจเกินกว่าจะมองผ่านไปเฉยๆ โดยไม่หวังคำตอบที่แท้จริงเลย