ขึ้นเร็วร่วงเร็ว : 10 กุนซือดังคุมทีมปังแค่ปีเดียว

ฟุตบอลเป็นหนึ่งในกีฬาที่ไม่มีความแน่นอนนัก ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ หรือแม้กระทั่งผู้จัดการทีมที่สามารถเปลี่ยนสถานะจากฮีโร่เป็นผู้ล้มเหลวภายในเวลาไม่นานนัก

กุนซือบางคนอาจประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานตลอดเส้นทางสายนี้จนได้รับยกย่องให้เป็นตำนานของวงการ เช่น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีนายใหญ่อีกหลายคนก็ถูกจดจำในฐานะผู้จัดการทีมผู้ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะย้ายไปคุมทีมเล็กหรือทีมใหญ่ก็ตาม

แต่ในช่วงเวลาเหล่านั้นเอง ผู้จัดการทีมบางคนสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีฤดูกาลที่สุดยอด และสร้างความหวังใหม่ให้กับสโมสร ร่วมถึงเหล่าแฟนบอลอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถรักษาผลงานได้อย่างที่คาดหวังไว้ หลังประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะล้มเหลวกับทีมอื่น ๆ ในเวลาต่อมา 

UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 10 กุนซือชื่อดังที่คุมทีมได้ยอดเยี่ยมหรือทำผลงานโดดเด่นเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

 

เปาโล ดิ คานิโอ | ซันเดอร์แลนด์

ดิ คานิโอ อาจต้องใช้คำว่า ‘ปังแค่ครึ่งฤดูกาลเท่านั้น’ เมื่อเขาเข้ามาคุมทีม ซันเดอร์แลนด์ เพียง 13 นัดในปี 2013 ซึ่งหลังจากพ่าย เชลซี 2-1 ในเกมแรก นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน ก็พา แมวดำ คว้าชัยในศึกดาร์บี้แดนอีสานกับ นิวคาสเซิล ถึงสนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ที่พวกเขาไม่เคยชนะได้เลยยาวนานกว่า 13 ปี

นอกจากเล่นงาน สาลิกาดง จนหมดสภาพด้วยสกอร์ 3-0 เขายังพา ซันเดอร์แลนด์ หนีรอดตกชั้นได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลต่อมา ดิ คานิโอ โดนปลดหลังคุมทีมเพียง 5 นัดเท่านัน หลังใช้วิธีที่รุนแรงเกินไปกับนักเตะในทีม 

 

ไบรอัน ร็อบสัน | มิดเดิ้ลสโบรห์

ในช่วงที่อยู่ มิดเดิ้ลสโบรห์ ไบรอัน ร็อบสัน พาทีมที่หล่นไปเล่นในดิวิชั่น 1 กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และเกือบคว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลยุโรปด้วย ก่อนจะหล่นไปเล่นในลีกรองอีกครั้ง

ตำนานกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาคุม โบโร่ ในฤดูกาล 1994-95 โดยควบตำแหน่งผู้เล่นและผู้จัดการทีม และพยายามจะเปลี่ยนสถานะของทีมที่ขึ้นลงลีกสูงสุดเป็นว่าเล่นให้อยู่รอดปลอดภัยแบบยาว ๆ

เจ้าของฉายา ‘กัปตันมาเวล’ คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 อย่างยิ่งใหญ่ และเสริมทัพเพื่อสู้ศึกในพรีเมียร์ลีก ด้วยการคว้า จูนินโญ่ และ บรังโก้ 2 ดาวเตะจากบราซิล ซึ่งช่วยให้ทีมคว้าชัยได้ 9 จาก 10 นัดแรก จนมีลุ้นคว้าไปเล่นยูฟ่า คัพ แต่ผลงานแผ่วในเวลาต่อมา ทำให้ทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 12

ต่อมา สิงห์แดง จัดหนักด้วยการคว้า เอเมอร์สัน และ แข้งดีกรีแชมป์ยุโรปอย่าง ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ มาร่วมทีม แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้ แม้จะเข้าชิงบอลถ้วยถึง 2 รายการในปีนั้นก็ตาม 

และถึง ร็อบสัน จะพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนในฤดูกาล 1994-95 อีกเลย

 

อาร์มิน เวห์ | สตุ๊ตการ์ท

หลังจากวนเวียนอยู่ในเส้นทางผู้จัดการทีมมานานกว่า 17 ปีที่ไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันนัก อาร์มิน เวห์ ที่รับงานกับ สตุ๊ตการ์ท ในปี 2006 ก็สร้างปรากฏการณ์ทันที ทั้งการปั้นดาวรุ่งอย่าง มาริโอ โกเมซ หรือ ซามี่ เคดิร่า ให้เฉิดฉายในวงการ รวมถึงพาทีมม้าขาว คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า สมัยที่ 5 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกครังแรกในรอบทศวรรษ 

เวห์ โดดเด่นเหนือใครในฤดูกาลนั้น ไม่ว่าจะเป็น อ็อตมาร์ ฮิทต์เฟลด์, เมียร์โก สลอมก้า หรือ ฮับบ์ สตีเฟ่นส์ แต่ทว่าการที่ กุนซือ ‘ม้าขาว’ ไม่ประสบการณ์ในการลงเล่นทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก และบุนเดสลีก้า พร้อมกันมาก่อน ทำให้ผลงานตกลงพอสมควร และพาทีมรั้งอันดับ 6 โดยมีแต้มตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ลีกในฤดูกาล 2007-08 ถึง 24 แต้ม และ เวห์ ก็ชะตาขาดในฤดูกาลต่อมา หลังไม่ชนะใครเลยใน 6 เกมแรก

 

เรย์มงด์ โดเมอเน็ค | ทีมชาติฝรั่งเศส

จะเรียกว่าปังฤดูกาลเดียวก็คงไม่ถูก น่าจะเหมาะกับคำว่า ปังทัวร์นาเมนต์เดียวมากกว่า เมื่อ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค ที่ดูแลทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-21 ปีมานานกว่า 10 ปี เข้ามาคุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แทนที่ แจ็ค ซานตินี่ ที่พาทัพ ’ตราไก่’ ตกรอบในศึกยูโร 2004 แบบน่าอับอาย

โดเมอเน็ค เรียกทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, โคล้ด มากาเลเล่ และ ลิลิยง ตูราม ที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติให้กลับมาช่วยชาติอีกครั้ง รวมถึงเรียกดาวรุ่งอย่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ และ เอ่อ…ปาสคาล ชิมบงด้า ด้วย ซึ่งพา เลอ เบอลส์ ไปไกลเกินคาดด้วยการทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลกปี 2006 

ทว่า 2 รายการใหญ่หลังจากนั้น โดเมอเน็ค กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งกับ ยูโร ปี 2008 ที่ร่วงตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม หรือ ฟุตบอลโลกปี 2010 ที่เต็มไปด้วยปัญหาในแคมป์ทีมชาติ จนร่วงรอบแบ่งกลุ่มอีกครั้ง และกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาในทีมชาติฝรั่งเศส

 

จอร์จ เบอร์ลี่ย์ | อิปสวิช ทาวน์

ผู้จัดการทีมชาวสก็อต เข้ามาคุม อิปสวิช ทาวน์ ถึง 6 ปี แต่ฤดูกาลที่ดีที่สุดก็คือ ฤดูกาล 2000-01 ที่พาทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก แอบวนเวียนหัวตารางจนเกือบลุ้นอันดับไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก

ด้วยนักเตะที่มี่อย่าง แม็ต ฮอลแลนด์, ริชาร์ด ไรท์ และ มาร์คัส สจ๊วร์ต ทำให้ เบอร์ลี่ย์ หักปากกาเซียนที่มองว่าพวกเขาเป็นตัวเต็งตกชั้น คว้าอันดับ 5 ไปครองได้อย่างเหนือความคาดหมาย

แต่ฤดูกาลต่อมา ด้วยมาตรฐานที่สูงเกินไปในปีก่อน ทำให้ทีมม้าขาวไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมได้ หลังจากโดน อินเตอร์ มิลาน เขี่ยตกรอบ ยูฟ่า คัพ พวกเขาก็ตกชั้นไปเล่นลีกรอง แม้จะได้ตั๋วไปลุยบอลยุโรปถ้วยเล็กก็ตาม

 

สตีฟ ค็อปเปลล์ | เร้ดดิ้ง

อีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเพียงแค่ปีแรกปีเดียว เมื่อ สตีฟ ค็อปเปลล์ พา เร้ดดิ้ง โชว์ฟอร์มได่โดดเด่นสุด ๆ ในฤดูกาล 2006-07 โดยมีดาวเด่นอย่าง เควิน ดอยล์, เลรอย ลิต้า และ เดฟ คิตสัน เป็นตัวชูโรง

‘เดอะ รอยัลส์’ ที่ถูกใครหลาย ๆ คนมองว่าเป็นตัวเต็งตกชั้นที่ฤดูกาลนั้น ทำเอากูรูต่าง ๆ เขินหน้าแดงไม่น้อย เมื่อเกือบคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า คัพ เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น หลังเสมอกับ แบล็คเบิร์น 3-3

แต่ เร้ดดิ้ง ก็ไม่ต่างจาก อิปสวิช หรือ มิดเดิ้ลสโบรห์ ที่ฟอร์มตกในฤดูกาลต่อมา จนต้องหล่นไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ชิพ ด้วยประตูผลต่างได้เสียที่แย่กว่า ฟูแล่ม แม้จะถล่ม ดาร์บี้ 4-0 ในวันสุดท้ายก็ตาม

 

อังเดร วิลลาส โบอาส | เชลซี

เอวีบี กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมทันที หลังคว้าแชมป์โปรตุเกส และ ยูโรป้า ลีก กับ ปอร์โต้ และด้วยดีกรีที่คล้ายคลึงกับ โช่เซ่ มูรินโญ่ ทำให้ เชลซี จึงดึงเขามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แทนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่โดนปลดไปหลังจบฤดูกาล 2010-11

ด้วยเปอร์เซนต์คว้าชัยกว่า 84% กับ ปอร์โต้ ทำให้แฟนสิงห์บลูหลายคนคาดหวัง โบอาส ว่าจะผลงานได้ยอดเยี่ยมใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่แพ้กับในบ้านเกิด แต่ทว่าก็ดันมีปัญหากับนักเตะอาวุโสในทีม หนึ่งในนั้นคือ อเล็กซ์ กองหลังชาวบราซิลเลี่ยน ที่ถูกจับแยกซ้อมเดียว และกลายเป็นจุดที่ทำให้แข้งหลายคนเริ่มไม่เอานายใหญ่แดนฝอยทองแล้ว

และ โบอาส ก็กลายเป็นอดีตกับ เชลซี หลังพาทีมพ่าย นาโปลี 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 สุดท้ายนัดแรก

 

อังเดร วิลลาส โบอาส | สเปอร์ส

โบอาส ก็โผล่ในลิสต์นี้อีกหน เมื่อ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตัดสินดึงเขามาคุมทีม หลังปลด แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ พ้นตำแหน่ง และ เอวีบี ก็ปลุกปั้นให้ แกเร็ธ เบล กลายเป็นตัวรุกระดับโลกในทีมของเขา รวมถึงสร้าง ไก่เดือยทอง ให้มีเกมรุกที่ดุดันเป็นเบอร์ต้น ๆ ในอังกฤษด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พลาดตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกกับ อาร์เซน่อล, เสีย เบล ให้กับ เรอัล มาดริด และการเสริมนักเตะฝีเท้าระดับกลาง ๆ มาร่วมทีมมากมาย ทำให โบอาส ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดไม่น้อย เนื่องจากทำผลงานไม่ดีนักในฤดูกาลต่อมา

หลังโดน ลิเวอร์พูล สอนบอลไปด้วยสกอร์ 5-0 โบอาส ก็ถูกไล่ออกเป็นครั้งที่ 2 ในอาชีพผู้จัดการทีม

 

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ | เชลซี

จากผู้จัดการทีมที่พา เชลซี คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรก โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กลายเป็นคนว่างงานในอีก 7 เดือนต่อมา โดยเขารับงานคุมทีมชั่วคราวต่อจาก อังเดร วิลลาส โบอาส ที่ถูกปลดไป และสร้างผลงานสุดปังตั้งแต่นัดแรกด้วยการเอาชนะ นาโปลี ในบอลยุโรป ทั้ง ๆ ที่โดนนำ 3-1 ในเกมแรก

เมื่อเข้าไปถึงนัดชิงดำได้ ใคร ๆ ก็ยังมองว่า สิงห์บลู เป็นรองอยู่ดี เมื่อพบกับ บาเยิร์น มิวนิค หนึ่งในตัวเต็งแชมป์ฤดูกาลนั้น แต่ทว่าทีมจาก อังกฤษ กลับกลายเป็นม้ามืด เอาชนะไปได้ และ ดิ มัตเตโอ ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘กุนซือรักษาการยอดเยี่ยมตลอดกาล’

แชมป์ยุโรปครั้งนั้น รวมถึงแชมป์เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลเดียวกัน ทำให้ นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน ได้สัญญาคุมทีมเต็มตัว อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ย่ำแย่ในเดือนพฤศจิกายนที่ไม่ชนะใครลีก ทำให้ตำนานเขลซีชะตาขาด ถูกปลดในช่วงปลายเดือนนั้น 

 

เคลาดิโอ รานิเอรี่ | เลสเตอร์

ลิสต์นี้คงไม่สมบูรณ์แบบ หากไม่มีชื่อของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ รวมอยู่ด้วย ซึ่งมีประสบการณ์คุมทีมดังมากมาย ทั้ง เชลซี, นาโปลี, บาเลนเซีย, โมนาโก, ยูเวนตุส หรือ แอตเลติโก้ มาดริด แต่คงไม่ทีมไหนที่เขาทำได้ยอดเยี่ยมเท่า เลสเตอร์ อีกแล้ว

กุนซือฉายา ‘ทิงเกอร์แมน’ เข้ารับงานในถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ปี 2015 ต่อจาก ไนเจล เพียร์สัน ที่พาทีมหนีตกชั้นได้สำเร็จในฤดูกาลก่อน แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ รานิเอรี่ ก็ตอบกลับเสียงเหล่านั้นให้เงียบสนิทด้วยการสร้างปาฏิหารย์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และถือเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของเขานับตั้งแต่เป็นกุนซือครั้งแรกในปี 1986 ด้วย

ทว่าช่วงเวลาหอมหวานก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อ รานิเอรี่ พาจิ้งจอกสีน้ำเงิน วนเวียนอยู่ในโซนตกชั้นที่คุ้นเคยอีกครั้ง ก่อนจะถูกปลดไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 โดยให้ เคร็ก เช็กสเปียร์ส เข้ามารับช่วงต่อจนจบฤดูกาล

 

บทความที่เกี่ยวข้อง