และแล้ว ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลายเป็นนักเตะใหม่รายที่ 3 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในซัมเมอร์นี้อย่างเป็นทางการแล้ว ต่อจาก ไทเรลล์ มาลาเซีย และ คริสเตียน อีริคเซ่น
นี่ถือเป็นนักเตะจาก เอเรดิวิซี่ อีกคนที่ ยูไนเต็ด คว้ามาร่วมทีม ซึ่งปัจจุบัน แนวรับทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็ถือเป็นรายที่ 13 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ มาลาเซีย ก็ถือเป็นรายที่ 12 ด้วยเช่นกัน
ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยูไนเต็ดได้คว้านักเตะจากลีกสูงสุดในแดนกังหันลมมาร่วมทีมมากมาย โดยบางคนก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสมกับที่คาดหวังไว้ ขณะที่บางรายก็ล้มเหลวจนกลายเป็นแข้งที่แฟนๆไม่อยากจดจำเท่าไหร่นัก
UFA ARENA จึงพาไปพบกับ 11 แข้งที่ปีศาจแดงนำเข้าจาก เอเรดิวิซี่ ในยุคของพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้ว่าทำผลงานได้มากน้อยแค่ไหน
ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว
ยูไนเต็ดคว้า ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว จาก วิเทสส์ อาร์นเฮม ในปี 1996 โดยรับบทบาทเป็นนายทวารมือสองรองจาก ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล และอยู่เฝ้าเสาใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นาน 6 ปี
ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว นายด่านชาวดัตช์ ลงสนามเพียง 60 นัด แต่เขาก็มีส่วนกับความสำเร็จของยูไนเต็ด ก่อนจะผันตัวไปเป็นโค้ชผู้รักษาประตูหลังจากแขวนถุงมือในปี 2007
ยาป สตัม
หลังย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 1998 ยาป สตัม ช่วยให้ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติด และยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้สโมสรคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในปี 1999 ด้วย
ทว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือปีศาจแดง กลับรู้สึกว่า ปราการหลังชาวดัตช์ มีสภาพร่างกายไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่จริงๆแล้วน่าจะเสียฟอร์มที่โดนสตัมแฉผ่านหนังสือชีวประวัติ ก่อนจะขายให้ ลาซิโอ ด้วยค่าตัว 15.3 ล้านปอนด์ในปี 2001
สตัม ยังโลดแล่นในฟุตบอลอาชีพระดับสูงอีก 6 ปี และประสบความสำเร็จทั้งในตอนที่ย้ายไปเล่นกับ เอซี มิลาน หรือ อาแจ็กซ์ ในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้ง
รุด ฟาน นิสเตลรอย
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1998-2000 ชื่อของ รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นที่พูดถึงอย่างมาก หลังคว้าตำแหน่งดาวซัลโว เอเรดิวิซี่ 2 ฤดูกาลติดกับ พีเอสวี ทำให้ แมนยูไนเต็ด ตกลงควักเงินกว่า 18.5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวมาร่วมทีม แต่ก็ยืดเยื้ออยู่พักใหญ่ ก่อนดีลจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2001
และนี่ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เฟอร์กี้เคยเสริมทัพ เมื่อแข้งฉายา ‘พี่ม้า’ ไม่มีปัญหากับการเล่นในลีกอังกฤษที่ดุเดือดเลยซักนิด และกลายเป็นหนึ่งในดาวยิงเบอร์ต้นๆที่ ‘ปีศาจแดง’ เคยมีมา ด้วยการซัดไป 150 เม็ดจากการลงสนาม 219 นัด
อดีตหัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ ลาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบไม่สวยเท่าไหร่ หลังมีปัญหาขัดแย้งรุนแรงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโรในปี 2006
ปาร์ค จี ซอง
ในช่วง 10 กว่าปีก่อน การที่นักเตะเอเชียจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนเตะตาทีมใหญ่ๆนั่นมีไม่บ่อยนัก แต่ ปาร์ค จี ซอง คือหนึ่งในนั้นที่โดดเด่นสุดๆกับ พีเอสวี และได้ย้ายไปค้าแข้งใน โอลด์ แทร็ฟอร์ด ในปี 2005 ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์
กองกลางปอดเหล็กชาวเกาหลีใต้ กลายเป็นที่รักของแฟนบอล ‘ปีศาจแดง’ อย่างรวดเร็ว ด้วยสไตล์ที่วิ่งสู้ฟัด ทุ่มเทเกินร้อยทุกครั้งที่ลงสนาม และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ เฟอร์กี้ ไว้ใจอยู่บ่อยครั้ง
ตี้ปาร์ค ลงรับใช้ยูไนเต็ดทั้งหมด 203 นัด พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย ก่อนจะแยกทางย้ายไป คิวพีอาร์ในปี 2012
อันเดรส เปเรย์ร่า
หลังฉายแววกับทีมเยาวชนของ พีเอสวี แมนยูไนเต็ด ก็ไม่รอช้าคว้า อันเดรส เปเรย์ร่า มาร่วมทีมในปี 2012 ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2014 แต่ด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิด ทำให้เขาถูกปล่อยให้ กรานาด้า และ บาเลนเซีย ยืมตัวไปใช้งาน 2 ฤดูกาล ก่อนจะลงเล่นกับ ‘ปีศาจแดง’ มากขึ้นในยุคที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุมบังเหียน
อย่างไรก็ตาม การมาของ บรูโน่ เแฟร์นานเดส ที่ระเบิดฟอร์มเก่งสุดๆในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ เปเรย์ร่า หมดโอกาสฉายแสงใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนถูกปล่อยให้ ลาซิโอ กับ ฟลาเมงโก้ ยืมตัวไปใช้งานในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด ก่อนขายขาดให้กับ ฟูแล่ม ในซัมเมอร์นี้
อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์
เมื่อ ปาทริซ เอวร่า อยู่ในช่วงโรยรา แมนยูไนเต็ด จึงต้องหาตัวแทนระยะยาวในตำแหน่งแบ็คซ้าย และคนๆนั้นที่สโมสรเลือกไว้ก็คือ อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์ ที่ย้ายจาก วิเทสส์ อาร์นเฮม ในปี 2012 ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์
แม้จะยิงประตูได้ตั้งแต่เกมประเดิมสนาม แต่แบ็คซ้ายชาวดัตช์ ก็ไม่สามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวหลักให้ ‘ปีศาจแดง’ ได้เลย โดยลงเล่นไป 13 เกมลีกในช่วง 2 ปี ก่อนจะย้ายไป ดินาโม มอสโก ในปี 2014
ทิโมธี โฟซู-เมนซ่าห์
อดีตลูกหม้อคนเก่งของ อาแจ็กซ์ อย่าง ทิโมธี โฟซู-เมนซ่าห์ ย้ายมาร่วมทีมยูไนเต็ดด้วยวัยเพียง 16 ปี และได้ลงเล่นในชุดใหญ่ครั้งแรก ช่วงที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุมบังเหียนอยู่ในฤดูกาล 2015-16
จากนั้น กองหลังชาวดัตช์ก็ย้ายไปเล่นกับ คริสตัล พาเลซ และ ฟูแล่ม แบบยืมตัว เพื่อหาประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก แต่อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าทำให้เขาไม่ได้ลงสนามเลยในตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา ก่อนลาขาด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยการย้ายไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในซัมเมอร์ปี 2021
ดาลี่ย์ บลินด์
บลินด์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาร่วมทีม ‘ปีศาจแดง’ ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2014 และร่วมงานกับ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือร่วมชาติที่เพิ่งพาฮอลแลนด์คว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลกปีนั้น
แข้งชาวดัตช์ถือเป็นนักเตะสารพัดมากที่สุดคนหนึ่งที่ยูไนเต็ดเคยมี โดยโยกไปเล่นทั้งกองหลัง, แบ็คซ้าย, กองกลาง ตลอด 141 นัดที่รับใช้สโมสร และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูโรป้า ลีก อย่างละสมัย
แต่เมื่อกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆของทีมในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ทำให้ บลินด์ ตัดสินย้ายกลับไปอยู่กับ อาแจ็กซ์ อีกครั้งในปี 2018
เมมฟิส เดอปาย
เมมฟิส เดอปาย ได้รับความคาดหวังจาก ‘ปีศาจแดง’ อย่างมาก หลังย้ายจาก พีเอสวี มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ในปี 2015 พร้อมกับสวมเสื้อเบอร์ 7 ที่ไม่มีใครทำผลงานได้ดีเลย หลังหมดยุคของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ปีกชาวดัตช์ ทำผลงานได้ดีในบางช่วง แต่ขาดความสม่ำเสมอจนไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้เลย ทั้งในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่รับบทนายใหญ่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
หลังจากฟอร์มตกตลอด 18 เดือนกับ ยูไนเต็ด เดอปาย ก็ย้ายไปเรียกความมั่นใจกับ โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคมปี 2017 และจากนั้นก็ย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัว ในซัมเมอร์ปี 2021 แต่ทว่าอนาคตของเขาในคัมป์ นู ก็ดูไม่แน่นอน เพราะมีข่าวว่าสโมสรพร้อมขายเขาออกไป หลังการมาของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ทาฮิธ ชอง
ในปี 2016 แมนยูไนเต็ด เอาชนะ เชลซี ในการแย่งตัว ทาฮิธ ชอง ปีกดาวรุ่งเนื้อหอมจาก เฟเยนูร์ด มาร่วมทีม และกลายเป็นตัวหลักของทีมชุด U-18 ในเวลาต่อมา
จากนั้น ปีกชาวดัตช์ ก็ได้โอกาสลงสนามนัดแรกในยุคของ โซลชา โดยถูกเปลี่ยนตัวในเกมเอฟเอ คัพ ที่เอาชนะเร้ดดิ้ง 2-0 เมื่อเดือนมกราคมปี 2019
หลังไม่สามารถเบียดขึ้นเป็นตัวจริงให้ทีมได้ แต่ ชอง ก็ถูกปล่อยให้ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังจาก บุนเดสลีก้า รวมไปถึง เบอร์มิ่งแฮม ยืมไปใช้งานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ต่อไป ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และหวังจะได้ลงเล่นชุดใหญ่แบบจริงจังมากขึ้นในยุคของ เอริค เทน ฮาก กุนซือใหม่คนบ้านเดียวกัน
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
เชื่อว่าหลายคนคงตื่นเต้นไม่น้อยในช่วงที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์ปี 2020 หลังมีดีกรีคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม รวมไปถึงอยู่ในชุดที่ทะลุไปถึงรอบตัดเชือกใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ทว่าช่วงปีแรก กองกลางดัตช์ กลับไม่ได้โอกาสเท่าที่ควร จนทำให้ฟอร์มการเล่นโดยรวมไม่ยอดเยี่ยมเหมือนสมัยเล่นในบ้านเกิด อีกทั้งในปีต่อมา ก็ถูกจับเป็นตัวสำรองเช่นเคย ก่อนถูกปล่อยให้ เอฟเวอร์ตัน ยืมไปใช้งานช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2021-22 แต่ก็ลงเล่นเพียง 7 นัดในลีก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน
อย่างไรก็ตาม ดอนนี่ ดูมีความหวังอีกครั้งกับการคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังได้ร่วมงานกับ เอริค เทน ฮาก นายเก่าที่ช่วยให้เขาแจ้งเกิดที่ อาแจ็กซ์ เป็นครั้งที่ 2 ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด