เอามาทำไม : 8 ดีลยืมตัวสุดแปลกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 

ในช่วงซัมเมอร์เป็นช่วงเวลาที่สโมสรทั้งหลายต่างมองหานักเตะที่เป็นเป้าหมายในการเสริมทัพเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งและพร้อมสู้ศึกในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะถึงนี้

แต่ก็ใช่ว่าการเสริมทัพจะต้องทำการซื้อนักเตะคนนั้นมาร่วมทีมได้อย่างเดียว การยืมตัวก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่หลายทีมตัดสินใจวิธีนี้ในการคัดกรองนักเตะที่พวกเขาต้องการ ก่อนจะซื้อมาร่วมทีมในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม การเสริมทัพด้วยวิธีนั้นก็ความเสี่ยงไม่ต่างการซื้อขาดเท่าไหร่ รวมไปถึงมีดีลประหลาดเกิดมามากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มักจะยืมตัวนักเตะแบบที่แฟนบอลก็ไม่ทราบว่าจะเอามาเพื่ออะไร  

และนี่คือ  8 ดีลยืมตัวสุดแปลกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่แฟนบอลทั่วโลกยังข้องใจมาจนถึงทุกวันนี้

 

สตีเว่น คอลเกอร์ (คิวพีอาร์ ไป ลิเวอร์พูล, 2016)

ช่วงกลางปี 2016 สตีเว่น คอลเกอร์ ได้ย้ายมาอยู่กับเซาธ์แฮมป์ตันแบบยืมตัว ซึ่งได้ลงเล่นตัวจริงเป็นนัดสุดท้ายในเกมที่โดนลิเวอร์พูลถล่มไป 6-1 แต่ถึงอย่างนั้น ฝีเท้าของปราการหลังชาวอังกฤษดันไปเตะตา เจอร์เก้น คล็อปป์ ซะอย่างนั้น ก่อนจะดึงมาร่วมทัพหงส์แดงแบบยืมตัวในช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาว ซึ่งทีมนักบุญก็เห็นดีเห็นงามด้วยจึงยกเลิกสัญญายืมตัวระยะยาวกับแข้งคิวพีอาร์ไปทันที

ในทีมใหม่ คอลเกอร์ได้ลงเล่นในตำแหน่งของตัวเองแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนที่กุนซือชาวเยอรมัน ทำเรื่องสุดล้ำด้วยการส่งกองหลังร่างโย่งไปเล่นเป็นกองหน้าจำเป็น และไม่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่มากถึง 3 ครั้งเลย

นั่นก็ไม่ความคิดที่แย่อะไรนักหรอก เมื่ออดีตแข้งสเปอร์สสามารถยิงประตูชัยในช่วงท้ายเกมที่พบกับอาร์เซน่อลและนอริชได้ แต่ด้วยปัญหาส่วนตัวทำให้เขาไม่ได้สวมเสื้อ ‘หงส์แดง’ อีกเลยนับตั้งแต่หลังเดือนมกราคมเป็นต้นมา

 

แอนดี้ โกรัม (มาเธอร์เวลล์ ไป แมนฯยูไนเต็ด, 2001)

การยืมตัวนายทวารมาร่วมทีมมักเป็นมีโอกาสอยู่ในทีมแค่ชั่วคราวมากกว่าอยู่ยาวแบบถาวรอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือ นายทวารวัย 36 ปี ที่ชื่อ แอนดี้ โกรัม ด้วย 

มาเธอร์เวลล์เตรียมตัวจะปล่อยมือกาวชาวสก็อตออกจากทีม แต่เฟอร์กี้ก็ได้ติดต่อขอยืมตัวโกรัมแบบไม่น่าเชื่อ โดยในตอนนั้น เขาต้องการพักนายทวารตัวหลักเพื่อเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่จะพบกับ บาเยิร์น มิวนิค และขณะที่ตัวโกรัมยังงงๆอยู่ เฟอร์กี้ทำเพียงโทรไปหาเขาด้วยและมอบข้อเสนอสั้นๆเพียงว่า “ให้เวลา 10 วินาที เอาหรือไม่เอา”

โกลลี่ตอบ “เอาครับ” และหลังจากนั้นช่วงชีวิตค้าแข้งในช่วงบั้นปลายอาชีพของเขาก็มีเรื่องวุ่นวายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นจะโดน รอย คีน เหม็นหน้า, ใช้มือรับลูกส่งจาก ยาป สตัม จนเสียฟรีคิกในกรอบเขตโทษ, ถูกเปลี่ยนตัวลงไปในสนาม 2 นัด และได้เป็นตัวจริงครั้งแรกในวันที่ ‘ปีศาจแดง’ ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 ได้เรียบร้อยแล้ว ช่างเป็นช่วง 2 เดือนที่โกรัมลืมไม่ลงจริงๆ

 

เดนนิส ซัวเรซ (บาร์เซโลน่า ไป อาร์เซน่อล, 2019)

ดีลการยืมตัว เดนนิส ซัวเรซ อาจไม่ใช่ดีลที่มียืดเยื้อยาวนานอะไรมากมายนัก แต่ว่าการย้ายมาร่วมทีมของกองบาร์เซโลน่าก็ทำให้ ‘เดอะ กูนเนอร์ส’ ทุกหมู่เหล่าตื่นเต้นพอสมควร และมองว่าเขามีฝีเท้าละม้ายคล้ายคลึงกับ อเล็กซานเดอร์ เคล็บ เลยทีเดียว

ภาพแรกของซัวเรซในทีม ‘ปืนใหญ่’ ดูอบอุ่นไม่น้อย หลังกำลังวอร์มอัพร่างกายกับเพื่อนร่วมทีมอย่างมีสุขและได้ลงเล่นเป็นเกมแรกในฐานะตัวสำรองในเดือนกุมภาพันธ์ทันที แต่ทว่าเขาก็ไม่เคยได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ทีมเลยซักนัด ก่อนจะได้รับบาดเจ็บจนหายหน้าไปยาวๆตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน รวมๆแล้ว กองกลางชาวสแปนิชได้ลงเล่นในลีกเพียง 4 นัด หรือราวๆ 67 นาทีเท่านั้น

ปัจจุบันแข้งวัย 28 ปี ได้โบกมือลาถิ่นคัมป์ นูและย้ายไปร่วมทีมเซลต้า บีโก้ ด้วยค่าตัว 12.9 ล้านยูโร บวกออปชั่นเสริมอีก 3.1 ล้านยูโร ตั้งแต่ปี 2019 และเป็นตัวหลักให้กับ เซลต้า จนถึงตอนนี้

 

คิม คัลสตรอม (สปาร์ตัก มอสโก ไป อาร์เซน่อล, 2014)

กองกลางชาวสวีดิชมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก ระหว่างที่เขาย้ายมาค้าแข้งให้กับทีมลอนดอนเหนือเมื่อปี 2014 และเขายังยิงจุดโทษช่วยให้อาร์เซน่อลเอาชนะวีแกน 4-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในศึกเอฟเอ คัพได้อีกด้วย

คัลสตรอมที่เคยลงเล่นในเกมรายการเมเจอร์ระดับนานาชาติถึง 5 รายการ ถึงขนาดเอ่ยปากออกด้วยความปลื้มปริ่มว่า เกมในรอบตัดเชือกที่เวมบลีย์นั้นเป็น 15 นาทีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลย

เวนเกอร์ตัดสินใจรีบร้อนคว้าตัวกองกลางแดนไวกิ้งในวันสุดท้ายของตลาดเดือนมกราคม แต่ว่าเขาไม่ได้ตรวจเช็คให้ดีก่อนว่า คัลสตรอม มีอาการบาดเจ็บติดตัวมา ก่อนที่ทีมแพทย์จะพบว่าแข้งวัย 31 บาดเจ็บที่แผ่นหลังจนต้องพักยาวๆ 3 เดือน ทำให้เขาลงเล่นให้ทีมปืนใหญ่แค่ 3 นัดเท่านั้น

 

อเล็กซานเดร ปาโต้ (โครินเธียนส์ ไป เชลซี, 2016)

จริงๆ เชลซีมีดีลยืมตัวประหลาดเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง โดยที่พวกเขามักจะดึงตัวอดีตวันเดอร์คิดหรือดาวดังที่ฟอร์มดัมมาร่วมทีมแบบชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็น ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ในปี 2009 หรือ ราดาเมล ฟัลเกา ที่ล้มเหลวสุดๆกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาก็ยังไปยืมมาในปี 2015

แน่นอนว่าทั้งคู่ล้มเหลว แต่ก็ไม่มีคาดหวังว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากกรณีของ อเล็กซานเดร ปาโต้ ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเดือนมกราคมปี 2016 ที่แม้อาการบาดเจ็บจะทำให้เขาฟอร์มหลุด แต่ด้วยอายุเพียง 26 ปี หัวหอกชาวบราซิลเลี่ยนน่าจะกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน

แต่ทว่า ‘เจ้าเป็ด’ใช้เวลาหลายอาทิตย์กว่าจะเรียกความฟิตให้ตัวเองได้ และลงเล่นเป็นเกมแรกอย่างเป็นทางการในนัดที่ถล่มแอสตัน วิลล่า 4-0 เมื่อวันที่ 2 เมษายน แม้ยิงประตูได้ด้วยจากลูกจุดโทษในวันนั้น แต่นั่นก็เป็นประตูเดียวที่ปาโต้ทำได้จากลงสนามให้ ‘สิงห์บลูส์’แค่ 2 นัด 

 

แอนดี้ บูธ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ไป สเปอร์ส, 2001)

แฟนๆ’ไก่เดือยทอง’ ต้องส่ายหน้ายามเห็นดีลนี้เกิดขึ้นในเดือนมกราคมปี 2001 แต่ผู้อำนวยการฟุตบอลในตอนนั้นอย่าง เดวิด พลีต กลับทุ่มหมดหน้าตักเพื่อดึงตัวกองหลังจากลีกระดับสองของอังกฤษที่ยิงประตูในลีกไม่ได้เลยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมมาร่วมทีม 

ด้วยอาการบาดเจ็บของ เลส เฟอร์ดินานด์ และกฏในตอนนั้นที่ยังไม่อนุญาตให้ทีมจากลีกสูงสุดยืมตัวนักเตะระหว่างกันได้ ทำให้ สเปอร์ส ต้องหันไปยืมตัว บูธ ที่เคยร่วมงานกับพลีตในช่วงที่เคยคุมทีมอยู่ฮิลส์โบโร่

อาการบาดเจ็บของเฟอร์ดินานด์ช่วยเปิดโอกาสให้กับ บูธ ได้แจ้งเกิดมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ตลอดเวลาที่เขาเล่นให้ทีมจากเมืองหลวงแดนผู้ดี หอกชาวอังกฤษไม่สามารถยิงประตูผ่านนายทวารคู่แข่งได้แม้แต่คนเดียว ก่อนจะย้ายกลับไปทีม ‘นกฮูก’ ในช่วงต้นเดือนมีนาคมปีนั้น  

 

แอนดี้ เคลเลตต์ (โบลตัน ไป แมนฯยูไนเต็ด, 2015)

แฟนบอล ‘ปีศาจแดง’ ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดกันเป็นแถบ เมื่อพบว่าทีมรักของตัวเองไปคว้าตัว แอนดี้ เคลเล็ตต์ แข้งโนเนมชาวอังกฤษวัย 21 ปี จาก โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทีมในลีกแชมเปี้ยนส์ชิพ ในช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาวปี 2015

ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้น หลุยส์ ฟาน กัล เห็นอะไรในตัวแบ็คซ้ายหนุ่มคนนี้ จึงดึงมาร่วมทีม แถมยอมสลับตัวกับ ไซดี้ ยานโก้ ให้ ‘เดอะ ทร็อตเตอร์ส’ ไปใช้งานด้วย อย่างไรก็ตาม เคลเลตต์ ทำได้แค่เล่นในชุดสำรองของทีมอย่างที่หลายคนคาดไว้ และได้ลงสนามแค่ 10 นัดเท่านั้น

และเรื่องที่ทำให้แฟนผีทั่วโลกต้องเศร้าใจกับดีลนี้มากที่สุด คือการที่พวกเขาต้องไปแย่งตัว เคลเลตต์ กับ พลีมัธ ทีมเล็กๆในลีกรองของประเทศอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย โดยปัจจุบันอดีตแข้งโบลตันก็วนเวียนเล่นให้กับทีมนอกลีกในบ้านเกิด โดยตอนนี้เล่นให้กับ ไกส์ลี่ย์ สโมสรในลีกระดับ 7 ของอังกฤษ

    

ดาวิด ปิซาร์โร่ (โรม่า ไป แมนฯซิตี้, 2012)

โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเรือใบเซ็นสัญญาคว้าตัว ดาวิด ปิซาร์โร่ มาร่วมทีมแบบยืมตัวในเดือนมกราคมปี 2012 เพื่อมาอุดช่องโหว่ในแดนกลาง หลังจาก ยาย่า ตูเร่ ต้องไปช่วยชาติสู้ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 

แน่นอนว่าตัวกองกลางชาวชิลีไม่ได้ถูกเพ่งเล็งอะไรมากในฐานะตัวสำรองประจำทีม แต่ในเกมที่พบกับอาร์เซน่อล ยาย่า ตูเร่ ได้บาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดยมีปิซาร์โร่ลงมาแทน และดันทำพลาดจนถูก มิเกล อาร์เตต้า ยิงประตูชัยในช่วงท้ายเกม

ซิตี้ที่นำเป็นจ่าฝูงมาตลอดต้องตกที่นั่งลำบากทันทีหลังเกมนั้น เนื่องจากมีแต้มเท่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอริร่วมเมืองที่เบียดลุ้นแชมป์ลีกอยู่ แม้ในที่สุดพวกเขาก็เป็นฝ่ายได้ชูถ้วยแชมป์ลีกหลังเอาชนะคิวพีอาร์สุดดราม่า 3-2 ในเกมสุดท้าย แต่แน่นอนว่าความผิดพลาดในวันนั้นส่งผลให้ปิซาร์โร่ไม่ได้ลงสนามอีกเลย ไม่ว่าในฐานะตัวจริงหรือสำรองก็ตาม

 

บทความที่เกี่ยวข้อง