เรอัล มาดริด ตกเป็นข่าวอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาว่าเตรียมคว้า ออเรเลียง ชูอาเมนี่ มิดฟิลด์ดาวโรจน์จาก โมนาโก ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป ณ ตอนนี้ โดยมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล รวมไปถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ล่าสุด ‘ราชันชุดขาว’ เป็นฝ่ายที่ได้รายเซ็นของ ชูอาเมนี่ ไปครอง และประกาศปิดดีลอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยมีรายงานว่ามีค่าตัว 80 ล้านยูโร พร้อมแอดออนเพิ่มเติมอีก 20 ล้านยูโร ซึ่งนั่นจะทำให้ ชูอาเมนี่ เป็นนักเตะจากลีกแดนน้ำหอมที่มีค่าตัวแพงที่สุดในฝั่งขาออกด้วย
จริงๆ ชูอาเมนี่ ไม่ใช่นักเตะจาก ลีกเอิง รายแรกที่ ‘โลส บลังโกส’ ให้ความสนใจ เพราะก่อนหน้านี้มี 9 นักเตะจากลีกฝรั่งเศสที่พวกเขาคว้าไปร่วมทีม และ UFA ARENA จะพาไปดูว่าทั้ง 9 คนเหล่านั้นโชว์ฟอร์มดีแย่แค่ไหนผ่านบทความชิ้นนี้
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กลายเป็นนักเตะ แรนส์ ที่อายุน้อยที่สุดที่ประเดิมสนามด้วยอายุ 16 ปี ในปี 2019 และถูก เรอัล มาดริด คว้ามาร่วมทีมในอีก 2 ปีต่อมา ด้วยค่าตัวราวๆ 40 ล้านยูโร
แม้ยังไม่สามารถเบียดตัวเก๋าอย่าง กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช หรือ โทนี่ โครส เพื่อเป็นตำแหน่งตัวหลัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ กองกลางเฟรนช์แมนก็ยังได้โอกาสลงเล่นค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยลงเล่นรวม 40 นัดในทุกรายการ
ด้วยอายุเพียง 19 ปี เชื่อว่า คามาวิงก้า ยังมีเวลาให้พัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอีกขั้น และในฤดูกาลที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพก้าวขึ้นไปเป็นกองกลางระดับโลกได้ เช่นในเกมที่พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก
และมั่นใจได้เลยว่า เขาจะถูกวางเป็นกองกลางยุคใหม่ของ มาดริด ร่วมกับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ และ ชูอาเมนี่ แน่นอน เมื่อรายหลังย้ายมาร่วมทีมเรียบร้อย
อัลฟงส์ อเรโอล่า
หลังจากเติบโตมาในทีมเยาวชนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อัลฟงส์ อเรโอล่า ก็ก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว แถมลงเล่นให้สโมสรเกิน 100 นัดด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถก้าวขึ้นไปยึดมือหนึ่งได้แบบถาวร
หลังทีมมหาเศรษฐีจาก ลีกเอิง คว้า เคย์เลอร์ นาบาส ในปี 2019 นายด่านชาวฝรั่งเศส ก็ย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกใช้งานในฐานะตัวสำรองของ ธิโบต์ กูร์ตัวส์
แม้มีส่วนร่วมกับ แชมป์ลาลีก้า ฤดูกาล 2019-20 แต่ผลงานโดยรวมก็ไม่ประทับใจพอให้ มาดริด เลือกซื้อขาดจนส่ง อเรโอล่า กลับไปให้ เปแอสเช และจากนั้นก็ปล่อยให้ ฟูแล่ม กับ เวสต์แฮม ยืมไปใช้งานตามลำดับ
แฟร์กล็องด์ เมนดี้
เมื่อ แบ็คซ้ายระดับตำนานของสโมสรอย่าง มาร์เซโล่ เริ่มทำผลงานตกลงอย่างเห็นได้ชัดเจนในฤดูกาล 2018-19 ทำให้ เรอัล มาดริด วางแผนหาตัวแทนของเขาในอนาคต ก่อนเลือกเซ็น แฟร์กล็อง เมนดี้ ดาวรุ่งจาก โอลิมปิก ลียง มาร่วมทีมด้วยค่าตัวราว 55 ล้านยูโร ในปี 2019
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสจะมีปัญหาด้านการปรับตัวในลีกสเปน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร เขาก็สามารถปรับตัวในลีกใหม่ได้ ก่อนยึดตำแหน่งแบ็คตัวจริงได้แบบยาวๆ
ปัจจุบัน เมนดี้ ลงเล่นให้ ‘โลส บลังโกส’ เกิน 100 นัดไปแล้ว พร้อมถูกยกให้เป็นแบ็คซ้ายเบอร์ต้นๆของโลกในตอนนี้ หลังแสดงให้เห็นด้วยการประกบติด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จนแผลงฤทธิ์ไม่ออก ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง ฤดูกาล 2021-22
มาเรียโน่ ดิอาซ
เดิมที มาเรียโน่ ดิอาซ เป็นนักเตะเยาวชนของ เรอัล มาดริด พร้อมลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไป 14 นัด ก่อนถูกขายให้ โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร ช่วงซัมเมอร์ปี 2017
เมื่อย้ายไปแดนน้ำหอม หอกทีมชาติโดมินิกัน ก็โชว์ฟอร์มกระฉูดซัดไปถึง 18 ประตูในลีกเอิง และถูก ‘ราชันชุดขาว’ ดึงตัวกลับมาอีกครั้งในปีต่อมา พร้อมเลือกสวมเบอร์ 7 โดยหวังตามรอยเท้าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ลาทีมไป
อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 28 ปี ก็ไม่สามารถเบียด คาริม เบนเซม่า จนเป็นกองหน้าตัวเลือกแรกๆได้เลยในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์บาเบว คำรบที่ 2 โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เขาได้ลงเล่นเพียง 59 นัด ยิงเพียง 7 ประตู ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการเป็นตัวสำรอง จึงไม่แปลกที่ ดิอาซ จะตกเป็นข่าวย้ายทีมอีกครั้งในซัมเมอร์นี้ โดยมี ลียง ทีมเก่าให้ความสนใจอยู่
ฮาเมส โรดริเกซ
ในขณะที่ ฮาเมส โรดริเกซ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในปีแรกที่ค้าแข้งกับ โมนาโก แล้ว แต่เขากลับโดดเด่นขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อมีส่วนสำคัญพา ทีมชาติโคลอมเบีย ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกปี 2014 พร้อมคว้าดาวซัลโวในรายการด้วย เป็นเหตุให้ เรอัล มาดริด ยอมทุมเงินกว่า 73 ล้านยูโร เพื่อดึงมาร่วมทีมในซัมเมอร์นั้น
ดาวเตะชาวโคลอมเบีย ประเดิมปีแรกในสเปนได้อย่างฝัน หลังทำไป 17 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ ในฤดูกาล 2014-15 พร้อมคว้ารางวัลกองกลางยอดเยี่ยมของลาลีก้าในปีนั้นไปครอง
อย่างไรก็ตาม ฮาเมส ก็ไม่สามารถรักษามาตรฐานสูงแบบนั้นได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ คาร์โล อันเชล็อตติ ลาทีมไปหลังจบฤดูกาล 2014-15 เขาก็ค่อยๆตกเป็นตัวสำรองอย่างสมบูณ์ในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ และ ซีเนดีน ซีดาน ก่อนย้ายไป เอฟเวอร์ตัน แบบไร้ค่าตัวในปี 2020
เชื่อว่า มาดริดนิสต้า ทั้งหลายคงหวังว่าอย่างน้อย ชูอาเมนี่ จะทำผลงานได้ดี โชว์ได้สม่ำเสมอ และที่สำคัญไม่ตามรุ่นพี่จาก โมนาโก อย่าง ฮาเมส ที่ปังแค่ปีเดียวเท่านั้น
ราฟาแอล วาราน
ในทางเทคนิคแล้ว ราฟาแอล วาราน ถือเป็นนักเตะจาก ลีกเดอ หลัง เลนส์ ตกชั้นในฤดูกาล 2010-11 แต่ในเมื่อเขาไม่เคยลงเล่นในลีกรองอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงรวมเขาถือเป็นนักเตะอีกคนที่ย้ายจาก ลีกเอิง มา เรอัล มาดริด เช่นคนที่เหลือในลิสต์นี้
กองหลังชาวฝรั่งเศส ถูกดึงมาร่วมทีมยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่หลังจากนั้นก็ยกระดับฝีเท้าจนขึ้นเป็นตัวจริง โดยเบียดแนวรับจอมบู๊อย่าง เปเป้ เป็นตัวสำรอง พร้อมจับคู่เล่นร่วมกับ เซร์คิโอ้ รามอส ได้อย่างลงตัว
วาราน ลงเล่นให้ ราชันชุดขาว ถึง 360 นัดตลอด 10 ปีในสโมสร พร้อมพาทีมประสบความสำเร็จทุกรายการที่เขาลงเล่น โดยมี 4 แชมเปี้ยนส์ลีก และ 3 แชมป์ลาลีก้า รวมอยู่ในนั้นด้วย
อีกทั้ง มาดริด ยังทำกำไรจาก วาราน ได้หลายเท่าตัวจากที่เคยซื้อมาแค่ 9 ล้านยูโร หลังขายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคา 40 ล้านยูโรในซัมเมอร์ปี 2021
คาริม เบนเซม่า
หลังฉายแววเด่นกับ โอลิมปิก ลียง และสถาปนาตัวเองให้เป็นหอกดาวรุ่งเบอร์ต้นๆในยุโรป คาริม เบนเซม่า ก็ปฏิเสธ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเลือกเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2009
ช่วง 9 ปีในสเปน ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ก็ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน และการเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัวทำให้เขาถูก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่โดดเด่นเกินใครในแผงเกมรุกบดบังรัศมีมานานหลายปั
อย่างไรก็ตาม หอกเฟรนช์แมน กลายเป็นหอกตัวหลักที่ทีมขาดไปไม่ได้แล้วในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา และในฤดูกาล 2021-22 ยังโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพ ด้วยการพา มาดริด คว้าดับเบิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ (ลาลีก้ากับ UCL)
ปัจจุบัน กองหน้าวัย 34 ปี คว้าแชมป์เมเจอร์ถึง 22 รายการกับ ‘โลส บลังโกส’ และยิงไป 323 ประตูในทุกรายการ ส่งผลให้เขาก้าวขึ้นไปดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรเป็นอันดับ 2 เหนือ ราอูล กอนซาเลซ และเป็นรองแค่ CR7 เท่านั้น
มาฮามาดู ดิอาร์ร่า
ด้วยผลงานที่โดดเด่นเป็นพิเศษกับ โอลิมปิก ลียง ในช่วงกลางยุค 2000 ทำให้ เรอัล มาดริด ที่มี ฟาบิโอ คาเปลโล คุมทัพในปี 2006 ดึงตัวไปร่วมทีม โดยที่ตัวเขาเป็นคนร้องขอ รามอน กัลเดร่อน ประธานสโมสรด้วยตัวเอง
26 ล้านยูโร ถือค่าตัวที่ มาดริด เสียให้ทีมจากลีกเอิง และถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า เพราะกองกลางชาวมาลี เป็นหัวใจในแดนกลางของทีม พร้อมมีส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ลาลีก้า 2 สมัยซ้อนในปี 2007 และ 2008
อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าส่งผลให้ชีวิตค้าแข้งในเบอร์นาเบว ของ ดิอาร์ร่า ค่อยๆปิดฉากลงและลาทีมในปี 2011 จากนั้นก็ย้ายไป โมนาโก ช่วงสั้นๆ และไป ฟูแล่ม ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2014
ราฟาเอล มาร์ติน บาสเกซ
ราฟาเอล มาร์ติน บาสเกซ ก็ถือเป็นนักเตะจากผลผลิตในทีมอคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด และประสบความสำเร็จกับสโมสรในช่วงแรกด้วย ก่อนเลือกย้ายไปค้าแข้งในต่างแดน
โดยกองกลางตัวรุกย้ายไปเล่นกับ โตริโน่ ในปี 1990 หลัง มาดริด ดึง จอร์กี้ ฮาจี้ มาร่วมทีม แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในอิตาลีได้ จนย้ายไปเล่นกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในช่วงสั้นๆ ก่อนกลับไปเล่นให้ ‘โลส บลังโกส’ อีกครั้งในเดือนตุลาคมปี 1992
แม้คว้าแชมป์ลาลีก้ามาครองอีกสมัย แต่การย้ายมาเล่นกับ มาดริด คำรบที่ 2 ของ บาสเกซ ก็ไม่ยอดเยี่ยมเหมือนครั้งแรก เนื่องจากอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยๆ และถูกปล่อยออกจากทีมในปี 1995