ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับการได้นักเตะใหม่ที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ในเวลานั้นอย่าง ปอล ป็อกบา มาจาก ยูเวนตุส
“นี่คือสโมสรที่ใช่สำหรับผม ที่จะบรรลุทุกสิ่งที่ผมต้องการในสนาม” ป็อกบา กล่าวเปิดตัวในการย้ายกลับมาอยู่กับ ยูไนเต็ด เป็นคำรบ 2
“เขามีโอกาสที่จะเป็นหัวใจของสโมสรแห่งนี้ในทศวรรษหน้าและจากนี้ไป” มูรินโญ่ กล่าวยกย่อง มิดฟิลด์ป้ายแดงของตัวเอง
นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่พิเศษ ในยุคใหม่ของสโมสรนับตั้งแต่การจากลาของ เซอร์ อเล็กซ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 2013
6 ปีต่อมา …
ป็อกบา คว้าแชมป์ร่วมกับทัพ “ปีศาจแดง” ได้เพียง 2 รายการซึ่งเกิดขึ้นในปี 2017 กับถ้วย ลีกคัพ และ ยูโรป้า ลีก ตลอดระยะเวลาค้าแข้ง 6 ปีของเขา ก่อนที่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 65 สโมสรจะประกาศปล่อยเขาออกจากทีมอย่างเป็นทางการ
เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นในการย้ายกลับมาสู่สโมสรอันเป็นที่รักของเขาเป็นคำรบ 2 แต่กลับไม่เป็นดั่งที่หวัง ? วันนี้ UfaArena จะพามาชำแหละหาสาเหตุ ก่อนที่เราจะไม่ได้เห็นเขาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกแล้วต่อจากนี้
ตำแหน่งที่ดีที่สุดอยู่ตรงไหน ?
น่าเหลือเชื่อที่นี่คือคำถามที่ทุกคนต่างหาคำตอบตลอด 6 ปีเต็มที่เขาย้ายกลับมาค้าแข้งกับ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลแรก มูรินโญ่ จับดาวเตะฝรั่งเศส ลงเป็นเป็นมิดฟิดด์ตัวต่ำเคียงข้างกับ มารูยาน เฟลไลนี่ ในระบบ 4-2-3-1 พร้อมจบฤดูกาลแรกด้วยการทำไป 9 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 51 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ ลีกคัพ และ ยูโรป้า ลีกได้สำเร็จ
จากนั้นในฤดูกาลถัดมา 2017/18 ยูไนเต็ด คว้ารองแชมป์ ตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับพ่ายในรอบชิง เอฟเอ คัพ ให้กับ เชลซี ซึ่งในฤดูกาลนี้กุนซือชาวโปรตุกีส ปรับมาเล่นในระบบ 4-3-3 พร้อมปรับให้ ป็อกบา ขยับขึ้นมาสูงขึ้นและ เล่นมาทางฝั่งซ้ายซะเป็นส่วนใหญ่ และในฤดูกาลนี้เอง ที่เขามีปัญหากับ มูรินโญ่ จนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แย่งลงเรื่อยๆและ ไม่ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เหมือนช่วงแรก
จนในฤดูกาล 2018/19 กลายเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เข้ามากู้วิกฤติทีม และเขาก็เล่นได้ดีขึ้นอีกครั้งเมื่อ โซลชา ได้ปรับมาเล่นในตำแหน่ง 4-2-3-1 อีกครั้ง แต่คราวนี้ ป็อกบา นั้นถูกจับมายืนเป็นกองกลางตัวรุกเต็มตัว ซึ่งถือว่าเขาก็ทำได้สุดยอดเมื่อซัดไปถึง 16 ประตู กับ11 แอสซิสต์ คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมได้แบบไม่น่าเชื่อด้วย
กระทั่งฤดูกาล2020/21 ป็อกบา ยังคงได้ลงสนามไปเพียง 42 นัด หลังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึงติดเชื้อโควิด19 ด้วย อย่างไรก็ตามทีมก็จบในตำแหน่งรองแชมป์อีกครั้ง พร้อมเป็นรองแชมป์ ยูโรป้า ลีก ด้วย ซึ่งในฤดูกาลนี้นี่เองที่ โซลชา ได้ปรับให้เขามาเล่นในตำแหน่ง แนวรุกฝั่งซ้าย ซึ่งเหมือนได้คอยช่วย บรูโน่ แฟร์นานเดส ในเกมรุกของทีมอีกแรง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดี ต่อเนื่องจนมาถึงฤดูกาลที่เพิ่งผ่านพ้นไป เขาเปิดตัวด้วยการทำ 4 แอสซิสต์ ในเกมถล่มเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 5-1 พร้อมจบด้วยการทำถึง 7 แอสซิสต์ จาก 4 เกมแรก เรียกว่าทุกอย่างดูสวยงามไปหมด
แต่แล้วก็อย่างที่เห็นกับผลงานของ ป็อกบา ในฤดูกาลนี้ ที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะก่อนที่ โซลชา จะโดนปลด หรือการเข้ามารับงานต่อของ ราล์ฟ รังนิก ที่เขาแทบจะไม่ได้ระเบิดฟอร์มให้ทุกคนเห็นเหมือนที่เคยทำได้ หรือแม้กระทั่งที่ทำเอาไว้กับทีมชาติฝรั่งเศสเลย
“กับทีมชาติฝรั่งเศสผมได้เล่นเยอะกว่าและได้เล่นในระบบที่ต่างจากของสโมสร ผมได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดของตัวเองมากกว่า ผมรู้ถึงบทบาทของตัวเอง ผมรู้สึกได้ถึงความมั่นใจของทั้งคนเป็นโค้ชและนักเตะคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ แมนเชสเตอร์ ผมจะรู้สึกต่างออกไป เพราะในระดับสโมสรน่ะมันเป็นเรื่องยากที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นประจำ เมื่อคุณต้องเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองอยู่บ่อยๆต้องเปลี่ยนระบบการเล่นอยู่เสมอ หรือต้องเปลี่ยนคู่หูอยู่ตลอด” ป็อกบา เปิดใจกับ Le Figaro หนังสือพิมพ์ในฝรั่งเศสเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเรามักจะเห็น รังนิก ที่เล่นในระบบ 4-2-3-1 วาง เฟร็ด และ สก็อต แม็คโทมิเนย์ ยืนเป็นห้องเครื่อง หรือกระทั่งบางครั้งยังไว้วางใจ เนมานญ่า มาติช ลงสนามก่อนด้วยซ้ำ ส่วนตำแหน่งกองกลางตัวรุกที่เขาเคยรุ่งเรืองสมัยที่ โซลชา คุม ก็มี บรูโน่ แฟร์นานดส ยึดเอาไว้อยู่แล้ว
นั่นจึงทำให้ ดาวเตะฝรั่งเศส ที่เจอทั้งปัญหาบาดเจ็บ ,เจอทั้งปัญหาฟอร์มการเล่น ,เจอทั้งปัญหาไม่ได้รับความไว้วางใจจากโค้ช แทบจะตัดสินใจไม่ยากว่าจะต่อสัญญาออกไป หรือย้ายทีมเพื่อโอกาสครั้งใหม่ที่ดีกว่า
มีปัญหากับ มูรินโญ่ จนเป็นโรคซึมเศร้า
เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ป็อกบา ได้ออกมาเผยว่าเขานั้นต้องประสบกับภาวะอาการซึมเศร้า ในสมัยที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือ หลังจากที่เขานั้นโดนถอดจากตำแหน่งรองกัปตันทีมในปี 2018 ซึ่งดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส เปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เขาเกิดปัญหาภายในจิตใจขึ้น
“ผมมีช่วงเวลาที่เป็นซึมเศร้าในอาชีพค้าแข้ง แต่เราไม่ได้คุยกันเรื่องนั้น บางครั้งคุณไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไร คุณแค่อยากปลีกวิเวกมาอยู่คนเดียว นี่คือสัญญาณที่ไม่ผิดแน่ๆ โดยส่วนตัวแล้ว มันเริ่มขึ้นตอนที่ผมอยู่กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ยูไนเต็ด คุณตั้งคำถามกับตัวเอง คุณสงสัยว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า เพราะคุณไม่เคยสัมผัสกับช่วงเวลาแบบนี้มาก่อนในชีวิต”
“นักกีฬาระดับท็อปทุกคนต้องผ่านโมเม้นต์แบบนี้ แต่เราไม่ได้ออกมาพูดถึงมันหรอก คุณไม่สามารถหนีรอดจากความรู้สึกที่มันส่งผลต่อร่างกายและหัวสมอง คุณอาจจะต้องเจอกับเวลาสักหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี ที่คุณรู้สึกไม่ดี แต่คุณไม่จำเป็นต้องพูดมันออกมาผ่านสาธารณะ”
เปลี่ยนทรงผมบ่อยจนแฟนบอลเอือม
ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สิ่งที่นอกเหนือจากผลงานในสนามแล้ว สิ่งที่เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นดั่ง เอกลักษณ์ส่วนตัวของเขาก็คือ ทรงผม นั่นเอง ป็อกบา นั้นเปลี่ยนทรงผมของตัวเองแทบจะทุกเดือน
อันที่จริงการเปลี่ยนทรงผมของ ป็อกบา นั้นจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย หากเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นในสนามให้ดีอย่างต่อเนื่องได้ แต่มันกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่ง เจ้าตัวนั้นให้ความสำคัญกับทรงผม ถึงขนาดจ้างให้ช่างตัดผมมาจัดการให้ถึงโรงแรมที่พักของทีมในคืนวันศุกร์ ก่อนจะลงสนามในพรีเมียร์ลีกในวันเสาร์ กระทั่งเขาโดนดร็อปจากทีมหลังจากนั้นเพื่อลงโทษจากการกระทำดังกล่าวมาแล้วด้วย
และจากล่าสุดที่ ป็อกบา ได้โพสต์อำลาแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด ลงใน อินสตราแกรม เขาก็โดนแฟนบอลเข้าไปรุมต่อว่าอย่างหนักอาทิ ไปซะได้ก็ดี ,เล่นไม่คุ้มค่าตัว ,ไอแข้งผลาญเงิน หรือไปซะได้ก็ดีไอไวรัส ,ข่าวดีที่สุดของสโมสรในตอนนี้
ด้วยผลงาน 39 ประตู 51 แอสซิสต์ ตลอดการค้าแข้ง 266 นัด ในการกลับมาสู่ ยูไนเต็ด รอบ 2 และได้ถ้วยแชมป์เพียง 2 รายการ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้แฟนบอลหลายคนมองว่าเขานั้นล้มเหลวกับสิ่งที่ทุกคนหวังเอาไว้ แต่น่าสนใจว่าต่อจากนี้ หากท้ายที่สุดแล้วเขาได้ย้ายกลับไปยัง ยูเวนตุส ตามที่ต้องการเราจะได้เห็น ปอล ป็อกบา ยอดแข้งคนเดิมกลับมาหรือไม่
น่าติดตามตอนต่อไปจริงๆ …
DaboyG
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เสียฟรีอีกรอบ! ผีแถลงแยกทางป็อกบาซัมเมอร์นี้