ทีมนักปั้นแดนแซมบ้า : 11 อดีตแข้งดาวดังจากรั้วซานโตสยุคใหม่

ทีมนักปั้นแดนแซมบ้า : 11 อดีตแข้งดาวดังจากรั้วซานโตสยุคใหม่

ซานโตส เป็นอีกหนึ่งสโมสรอีกปลุกปั้นนักเตะชื่อดังมาประดับวงการลูกหนังมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

ไม่ว่าจะเป็นในยุคก่อนอย่าง เปเล่ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล ที่ลงเล่นให้สโมสรไปกว่า 638 นัด ซัดไปอีก 619 ประตู จนคว้าแชมป์มาครองได้มากมาย ทั้งในประเทศ และระดับทวีป

ในส่วนของยุคใหม่ก็เช่น เนย์มาร์ ที่สร้างชื่อจนกลายเป็นดาวเตะเบอร์ต้นๆของโลกไปเรียบร้อย หรือ โรดริโก้ โกเอส ที่ก้าวขึ้นไปแจ้งเกิดกับ เรอัล มาดริด แบบเต็มตัวช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

แม้การเสียนักเตะสำคัญๆให้กับทีมในยุโรปบ่อยครั้งในช่วงหลังๆ จะทำให้ พวกเขาห่างหายจากความสำเร็จมานานพอสมควร นับตั้งแต่คว้าแชมป์ คัมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า ในปี 2016 อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุดสร้างแข้งหน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังแต่อย่างใด

และ UFA AREAN จะพาไปพบกับ 11 ดาวเตะที่ดีที่สุดที่ ซานโตส เคยปลุกปั้นมาในยุคปัจจุบันผ่านบทความชิ้นนี้

 

ราฟาเอล คาบราล

ราฟาเอล คาบราล เข้ามาร่วมทีมเยาวชนของ ซานโตส ตั้งแต่อายุ 13 ปี และหลังจากพัฒนาฝีมือมานาน 7 ปี เขาก็ได้สัญญาอาชีพครั้งแรกในปี 2010 และได้ลงเล่นให้ยอดสโมสรในบราซิลนาน 3 ปี พร้อมกับคว้าแชมป์ 5 รายการ ก่อนจะย้ายไป นาโปลี ในปี 2013

นายทวารเลือดแซมบ้า เคยลงเล่นให้ทัพเซเลเซาชุดใหญ่ 3 นัดด้วยกัน โดยปัจจุบัน เขาย้ายกลับมาเฝ้าเสาให้ทีมในบ้านเกิดอย่าง ครูเซโร่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังยกเลิกสัญญากับ เร้ดดิ้ง ด้วยความยินยอมพร้อมใจทั้ง 2 ฝ่าย 

 

ดานิโล่

แบ็คขวาจากเมืองบิคาส เริ่มต้นค้าแข้งกับ อเมริกา-เอ็มจี ก่อนจะย้ายมาทีมซานโตสในปี 2010 แต่ว่าเขาก็อยู่ค้าแข้งกับทีมได้ฤดูกาลเดียวเท่านั้น เนื่องจากลีลาการเติมเกมรุกที่โดดเด่นจนยิงไป 10 ประตู ทำให้ ปอร์โต้ ทีมดังจากโปรตุเกสคว้าตัวเขาไปร่วมทีมทันทีในปี 2012

ดานิโล่ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับ 3 ปีที่ค้าแข้งในแดนฝอยทอง โดยยิงไป 12 ประตู, 15 แอสซิสต์ จาก 136 เกม ทำให้เขาได้ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2015 แต่ฟอร์มการเล่นก็ไม่โดดเด่นเหมือนที่ผ่านมานัก ก่อนจะย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ยูเวนตุส ตามลำดับ

 

กุสตาโว่ เอนริเก้

อีกหนึ่งผลผลิตของ ซานโตส กุสตาโว่ เอนริเก้ กลายเป็นกองหลังอันดับต้นๆของลีกบราซิล แม้ว่าเขาจะต้องบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าถึง 2 หน ในช่วงแรกของการเล่นฟุตบอลอาชีพ

ปราการหลังวัย 27 ปี เคยติดทีมชาติบราซิลชุด U-23 2 นัด และช่วยให้ ทีมคว้าแชมป์ คัมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า ในปี 2015 และ 2016 พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยมของรายการในปี 2016 ด้วย ก่อนจะสิ้นสุดการค้าแข้ง 8 ปีกับสโมร และย้ายไปเล่นกับ ฟลาเมงโก้ ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน

 

มาร์เซโล่

แนวรับจาก เซา วิเซนเต้ ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในปี 2007 และหลังจากเล่นให้ทีมเป็นเวลา 2 ปี ก็พาทีมคว้าแชมป์ คัมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้เขาย้ายไปเล่นต่างแดนเป็นครั้งแรกกับ วิสล่า คราคอฟ ทีมจากโปแลนด์ เมื่อ 11 ปีก่อน

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีวันดีคืนใน เอ็คสตรัคลาซ่า ลีก ทำให้กองหลังชาวบราซิล ได้ย้ายไปเล่นกับสโมสรที่ใหญ่ขึ้นอย่าง พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น, ฮันโนเวอร์, เบซิคตัส และ โอลิปิก ลียงตามลำดับ โดยปัจจุบันย้ายไปเล่นกับ บอร์กโดซ์ ด้วยสัญญาระยะสั้นถึงช่วงซัมเมอร์นี้

 

อเล็กซ์ ซานโดร

แบ็คจอมบุก อาจไม่ใช่นักเตะที่เติบโตมากับ ซานโตส เหมือนกับคนอื่นๆ หลังยืมตัวจาก เดปอร์ติโบ้ มัลโดนาโด้ ในปี 2010 แต่การลงเล่นไปถึง 53 นัดในฤดูกาลนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาย้ายไปเล่นกับ ปอร์โต้ นานถึง 4 ปี ในเวลาต่อมา

ตลอดเวลา 4 ฤดูกาลในแดนฝอยทอง ซานโดร พาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 ครั้ง ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2015 และสร้างชื่อให้ตัวเองจนกลายเป็นแบ็คซ้ายเบอร์ต้นๆของวงการลูกหนังในปัจจุบัน

 

ติอาโก้ ไมอา

ไมอา ได้โผล่พรวดขึ้นมาเป็นกองกลางดาวรุ่งของสโมสร ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ก่อนที่อีก 3 ปีต่อมา ทีมดังในฝรั่งเศสอย่าง ลีลล์ จึงกระชากตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 14 ล้านยูโร

ส่วนดีกรีในทีมชาติบราซิลก็ไม่ธรรมดา หลังประสานงานกับ เรนาโต้ ออกุสโต้ ในแดนกลางจนช่วยให้ ทัพเซเลเซา คว้าเหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรก ที่ ริโอ ในปี 2016 อีกทั้งในฤดูกาลก่อนก็ช่วยให้ ลีลล์ คว้าอันดับ 2 ในลีกเอิง แต่ว่า กองกลางวัย 24 ปี ก็ย้ายกลับไปในบ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก้ แบบยืมตัว ในตลาดนักเตะหน้าหนาวปี 2020 และปักหลักอยู่กับทีมจนถึงตอนนี้

  

ดีเอโก้

แฟนบอลรุ่นเก๋าคงคุ้นหน้า หรือ รู้จัก ดีเอโก้ กองกลางพรสวรรค์สูงชาวบราซิลเลี่ยน เป็นอย่างดี หลังเคยเล่นกับสโมสรดังมากมายในยุโรปในยุค 2000 แต่รู้ไหมว่าครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นลูกหม้อของ ซานโตส มาก่อน

มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า เล่นกับทีม 2 ปี ก่อนย้ายไปเล่นในยุโรปครั้งแรกกับ ปอร์โต้ ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ในปี 2006 และกลายเป็นดาวเด่นของทีม ‘นกนางนวล’ จนถูก ยูเวนตุส คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2009

อย่างไรก็ตาม ชีวิตค้าแข้งในตูรินไม่ได้ราบรื่นนัก ทำให้เขาย้ายกลับมาเยอรมันอีกครั้งกับ โวล์ฟบวร์ก ในปี 2010 แม้จะไม่ได้แชมป์อะไรกับหมาป่าเมืองเบียร์ ในช่วง 4 ปี แต่ฤดูกาล 2010-11 ที่ย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก้ มาดริด แบบบืมตัว ก็ช่วยทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกมาครองได้ 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจเมื่อครั้งก่อน ทำให้ ‘ตราหมี’ คว้าตัว ดีเอโก้ มาร่วมทีมในปี 2014 แต่ก็อยู่ได้ไม่นานก็โยกย้ายไปเล่นกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในปีเดียวกัน ก่อนจะย้ายซบ ฟลาเมงโก้ ทีมในบ้านเกิดแบบไร้ค่าตัวในปี 2016 และช่วยให้ทีมกวาดแชมป์มาครองมากมาย ทั้งในระดับประเทศและระดับทวีป

 

ฟิลิเป้ แอนเดอร์สัน

แอนเดอร์สัน ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ ซานโตส อย่างรวดเร็ว และถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บหนักเล่นงานในช่วงหนึ่ง แต่ด้วยความสามารถในสนาม ทำให้ปีกจอมพริ้วยังเป็น 1 ใน 11 ตัวจริงของทีมอยู่ เมื่อหายกลับมา

แข้งวัย 28 ปี ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ทวีปอย่าง โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ในปี 2011ก่อนที่ย้ายไปเล่นกับ ลาซิโอ ในปี 2013 พร้อมกับกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอล ‘อินทรีฟ้าขาว’ อย่างรวดเร็ว และยกระดับฝีเท้าของตัวเอง จนตกเป็นข่าวกับสโมสรดังทั่วยุโรป

แต่ในซัมเมอร์ปี 2018 กลับกลายเป็น เวสต์แฮม ที่คว้าตัวแข้งเหรียญทองโอลิมปิกปี 2016 ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสร 36 ล้านปอนด์ ทว่าสุดท้ายก็โชว์ฟอร์มในอังกฤษไม่ได้ จึงตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นกับ ลาซิโอ อีกครั้งในซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา

  

เนย์มาร์

Has Santos Star Neymar Already Decided His Future? | Bleacher Report |  Latest News, Videos and Highlights

เนย์มาร์ น่าจะเป็นเด็กปั้นของ ซานโตส ที่แฟนบอลรู้จักและจดจำได้มากที่สุดในระดับเดียวกับ เปเล่ กองหน้าตำนานทีมชาติบราซิล หลังเข้ามาอยู่ทีมเยาวชนตั้งแต่ปี 2003 และกลายเป็นดาวเด่นของสโมสรอย่างรวดเร็วทันทีที่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ก่อนจะย้ายไปบาร์เซโลน่าในปี 2013

แข้งจอมพริ้วประสานงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ได้อย่างเข้าขาลงตัวในช่วงเล่นกับทีมต่างดาว จนกลายเป็น 3 แนวรุกที่อันตรายที่สุดในวงการลูกหนัง และช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์มาครองมากมาย ทั้ง ลาลีก้า, โคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เมื่อเวลา 4 ปีผ่านไปในถิ่น คัมปนู แข้งวัย 29 ปี ตัดสินโบกมือลาแคว้นกาตาลัน ไปค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2017 ด้วยค่าตัวสถิติโลก 198 ล้านปอนด์ แต่การย้ายทีมครั้งนั้นก็ไม่ช่วยให้เขาก้าวขึ้นเป็นแข้งเบอร์หนึ่งของโลก เหนือ เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่อย่างใด

  

โรดริโก้ โกเอส

Real Madrid news: New signing Rodrygo becomes sick with anxiety over saying  goodbye to Santos fans | Goal.com US

โรดริโก้ โกเอส คือนักเตะรายล่าสุดของสโมสรที่ย้ายไปผจญภัยในยุโรปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลัง เรอัล มาดริด มาสู่ขอไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร ในขณะที่เขามีอายุเพียง 18 ปีเศษๆเท่านั้น

ปีกชาวแซมบ้า ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่กับทีมดังในบราซิลตั้งแต่อายุ 16 ปี และการที่บาร์เซโลน่า มีข่าวเข้ามาร่วมวงล่าตัวแข้งหนุ่มรายนี้ ก็น่าจะบ่งบอกถึงความสามารถและ ฝีเท้าของ โรดริโก้ ได้เป็นอย่างดี

กับ ‘ราชันชุดขาว’ ในปัจจุบัน แข้งวัย 21 ปี ก็ฉายแววให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นมาแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ก็มีส่วนให้ทีมคว้าแชมป์ ลาลีก้า และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลล่าสุดด้วย

 

กาเบรียล บาร์โบซ่า

Flamengo wins the Brasileiro Championship

กาบิโกล กลายเป็นอีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งแซมบ้าที่ประสบความล้มเหลวในเวทีลูกหนังยุโรป หลังฟอร์มดับสุดๆกับ อินเตอร์ มิลาน โดยยิงไปเพียงลูกเดียวจากการลงสนามทั้งหมด 9 นัด แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่เคยเกิดขึ้นเลย ยามที่เขาเล่นกับสโมสรในบราซิลบ้านเกิด

ทั้งกับ ซานโตส สโมสรแรกในอาชีพค้าแข้งของ บาร์โบซ่า ที่โชว์ฟอร์มถล่มประตูมากมาย จนได้รับฉายา ‘กาบิโกล’ อย่างที่หลายคนรู้จัก พร้อมคว้าแชมป์ คัมเปโอนาโต้ เปาลิสต้า ในปี 2015 และ 2016 ก่อนจะย้ายไปดับกับ ‘งูใหญ่’ ที่หลายคนทราบกันดี

และทันทีที่ แข้งวัย 25 ปี หวนกลับมาเล่นในแดนแซมบ้าอีกครั้งกับ ฟลาเมงโก้ แบบยืมตัวในปี 2019 ฟอร์มการยิงประตูก็กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง และพาทีมคว้าแชมป์มากมาย ทั้ง เซเรีย เอ บราซิล, คัมเปโอนาโต้ การิโอก้า และ แชมป์ทวีปอย่าง โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ด้วย จนได้รับความสนใจจากสโมสรในยุโรปอีกครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา

    

ทีมนักปั้นแดนแซมบ้า : 11 อดีตแข้งดาวดังจากรั้วซานโตสยุคใหม่

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ้าป่าคัมแบ็ค : ฟอเรสต์กับการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกรอบ 23 ปี
เจ้าป่าคัมแบ็ค : ฟอเรสต์กับการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกรอบ 23 ปี