ฤดูกาล 2021-22 ปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ 5 ลีกใหญ่ยุโรป หลังฟาดแข้งกันมานานกว่า 10 เดือน
มีหลายสถิติต่างถูกเปิดเผย ทั้งการยิงประตู หรือ แอสซิสต์ ของแต่ละลีก ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าใครทำได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่บางสถิติก็ไม่สามารถรู้ได้แบบง่ายๆเช่นกัน อย่างเช่นใครคือนักเตะที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้?
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 10 แข้งที่สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป (พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีก้า, ลีกเอิง, ลาลีก้า และ เซเรียอา) โดยนับจากการจ่ายบอลครั้งสำคัญ หรือจ่ายบอลไปพื้นที่สุดท้ายก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะทำประตู
ปล.เราจะเรียงลำดับตามการจ่ายบอลครั้งสำคัญต่อ 90 นาที และเลือกเฉพาะคนที่ลงเล่นในลีกอย่างน้อย 1,000 นาทีเท่านั้น
10.เนย์มาร์ | เปแอสเช (3 ครั้งต่อเกม)
เป็นอีกปีที่อาการบาดเจ็บรบกวนตลอดฤดูกาล สำหรับ เนย์มาร์ อีกทั้งยังกลายเป็นแพะรับบาปสำหรับการทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยน้ำมือของ เรอัล มาดริด ด้วย
หลังรั้งให้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ต่อสัญญาใหม่ได้ ทำให้มีข่าวจากสื่อในฝรั่งเศสรายงานว่า กลุ่มทุนกาตาร์ พร้อมปล่อย สตาร์ดังทีมชาติบราซิล ออกจากทีมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ดาวดังแซมบ้า ก็ยังทำผลงานได้น่าพอใจไม่น้อย โดยเฉพาะในเกมรุก เมื่อมีค่าเฉลี่ยในการจ่ายบอลครั้งสำคัญ มากกว่าทั้ง เอ็มบัปเป้, ลิโอเนล เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย พร้อมทำไป 13 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จาก 22 เกมในลีกเอิง
9.เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ | อินเตอร์ มิลาน (3 ครั้งต่อเกม)
ไม่บ่อยนักที่นักเตะตำแหน่งกองหลังจะเข้ามาอยู่ในลิสต์ที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์โอกาส และเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อยสำหรับ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ที่ไม่ใช่นักเตะตัวหลักของ อินเตอร์ มิลาน ฤดูกาลนี้
แบ็คซ้ายชาวอิตาเลี่ยน ลงเล่นถึง 32 เกมในเซเรียอา แต่ส่วนใหญ่ล้วนมาจากตำแหน่งตัวสำรอง แต่เขาก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ เมื่อได้โอกาสลงสนาม โดยเฉพาะการจ่ายบอล และมิติที่เพิ่มขึ้นในเกมรุก
8.ฟิลลิป คอสติช | ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต (3.1 ครั้งต่อเกม)
หลังจบฤดูกาล 2021-22 มีสื่อหลายเจ้ารายงานอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ฟิลลิป คอสติช ตกเป็นเป้าหมายแรกๆในการเสริมทัพของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มี อันโตนิโอ คอนเต้ กุมบังเหียนในซัมเมอร์นี้
ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าทำไม เนื่องจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมแข้งวัย 29 ปี กับผลงาน 4 ประตู และ 9 แอสซิสต์ จาก 31 นัดในบุนเดสลีก้า อีกยังช่วยให้ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต คว้าแชมป์ยูโรป้าลีก มาครองด้วย
ด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำ และอันตรายจากฝั่งซ้าย เชื่อว่านั่นยิ่งทำให้ แข้งทีมชาติเซอร์เบีย เหมาะสมกับการเป็นวิงแบ็คซ้ายในทีมของ คอนเต้ อย่างยิ่ง
7.โยนาส ฮอฟมันน์ | มึนเช่นกลัดบัค (3.2 ครั้งต่อเกม)
โยนาส ฮอฟมันน์ ถือเป็นตัวหลักที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา กับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
แม้ผลงานของ ‘สิงห์หนุ่ม’ ในฤดูกาล 2021-22 ไม่ได้ดีเท่าที่ควรกับอันดับ 10 ในลีก แต่ กองกลางชาวเยอรมัน กลับทำผลงานได้น่าประทับใจต่อเนื่อง กับ 12 ประตู 5 แอสซิสต์ จากการลง 26 นัดในบุนเดสลีก้า และต่อให้โดนโยกไปเล่นแบ็คขวาในบางครั้ง ก็ไม่ทำให้ ฮอฟมันน์ ฟอร์มตกแต่อย่างใด
6.ฮาคาน ชัลฮาโนกลู | อินเตอร์ มิลาน (3.2 ครั้งต่อเกม)
มีนักเตะหลายคนที่ย้ายข้ามฝากไปมาระหว่าง 2 ทีมในเมืองมิลานตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครที่โชว์ผลงานจนกลายเป็นตัวทีเด็ดลูกนิ่งได้เฉกเช่นที่ ชัลฮาโนกลู ทำได้กับ อินเตอร์ ในฤดูกาลนี้
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ ดาวเตะทีมชาติตุรกี ทำสถิติแอสซิสต์จากลูกฟรีคิกมากที่สุดใน เซเรียอา (5) สร้างโอกาสจากลูกนิ่ง (27) และเตะมุมเข้าเป้ามากที่สุด (29)
แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับ ชัลฮาโนกลู ไม่น้อย เมื่อเขาไม่สามารถช่วยให้ ‘งูใหญ่’ คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้ โดยเสียแชมป์ให้กับ เอซี มิลาน ทีมเก่าของเขาในปีก่อนที่จบเป็นรองแชมป์ลีกเลี่ยน
5.เบนฌาแม็ง บูริโกด์ | แรนส์ (3.4 ครั้งต่อเกม)
แรนส์ ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่เล่นบอลได้สนุก สร้างความบันเทิงให้แฟนๆมากที่สุดในลีกเอิง ฤดูกาลนี้ และ เบนฌาแม็ง บูริโกด์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาทำได้แบบนั้น
กองกลางวัย 28 ปี อาจไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับต้นของฝรั่งเศส หรือในยุโรป แต่เขากลับมามีค่าเฉลี่ยสร้างโอกาสสำคัญให้เพื่อนร่วมทีมถึง 3.4 ครั้งต่อ 90 นาทีในฤดูกาล 2021-22
อีกทั้งการยิงไป 11 ประตู และ 12 แอสซิสต์ ของ มิดฟิลด์เฟรนช์แมน ช่วยให้ แรนส์ คว้าอันดับ 4 ในลีกเอิง ฤดูกาลนี้ และเชื่อว่าเขาจะเป็นส่วนสำคัญของทีมในการลุย ยูโรป้าลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอน
4.ดิมิทรี ปาเยต | โอลิมปิก มาร์กเซย (3.4 ครั้งต่อเกม)
ช่วงที่ ดิมิทรี ปาเยต ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก เขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนบอลแดนผู้ดีได้อย่างมาก กับลีลาทั้งเลี้ยง, ยิง หรือจ่ายให้กับ เวสต์แฮม และปัจจุบันในวัย 35 ปี เขาก็ยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างโอกาสสำคัญได้มากเป็นอันดับต้นๆในยุโรป
12 ประตู กับ 10 แอสซิสต์จาก 31 นัดในลีก ที่เพลย์เมกเกอร์ชาวฝร้่งเศส ทำได้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในฤดูกาลนี้ถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ ไม่แปลกที่ ปาเยต ยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆในแผงเกมรุกที่ ฆอร์เก้ ซามเปาลี ไว้วางใจในฤดูกาล 2021-22
3.อิเกร์ มูเนียอิน | แอธเลติก บิลเบา (3.4 ครั้งต่อเกม)
นับตั้งแต่ประเดิมชุดใหญ่ครั้งแรกในฤดูกาล 2009-10 อิเกร์ มูเนียอิน ก็กลายเป็นตัวหลักของ แอธเลติก บิลเบา มาตั้งแต่นั้น และปัจจุบันในวัย 29 ปี เขาก็สวมปลอกแขนกัปตันทีมแบบเต็มตัวด้วย
ผลงานของ บิลเบา อาจอยู่ในระดับกลางตามมาตรฐาน ด้วยการจบอันดับ 8 ในลาลีก้า แต่ผลงานส่วนตัวของ มูเนียอิน ถือว่าโดดเด่นมาก กับ 4 ประตู และ 11 แอสซิสต์ จาก 35 นัดในลีก ต้องขอบคุณ มาร์เซลิโน่ ที่เค้นศักยภาพของเขาออกมาได้อีกครั้งในถิ่น ซาน มาเมส
2.หลุยส์ มูเรียล | อตาลันต้า (3.5 ต่อเกม)
หลุยส์ มูเรียล สร้างชื่ออย่างมากในฐานะดาวเตะซูเปอร์ซับ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2019-20 ที่มีค่าเฉลี่ยทำประตูต่อนาทีที่ลงเล่นมากกว่าผู้เล่นในลีกใหญ่ยุโรป (69 นาทีต่อลูก) และปัจจุบัน เขาก็ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องกับ อตาลันต้า
3.5 ครั้งต่อเกม ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากในการจ่ายบอลครั้งสำคัญ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะดาวเตะทีมชาติโคลอมเบีย ยังติด 10 อันดับแรกของนักเตะที่เลี้ยงบอลสำเร็จใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ด้วยค่าเฉลี่ย 3.6 ครั้งต่อ 90 นาทีด้วย
1.เควิน เดอ บรอยน์ | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3.6 ครั้งต่อเกม)
คงไม่ต้องบรรยายถึงความเก่งกาจของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้มากความ ซึ่งหลายคนคงได้เห็นกับตาของตัวเองมาตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา และในฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน
8 แอสซิสต์ กับ 15 ประตู คือจำนวนที่ กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยม ทำได้กับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ในปีนี้ ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการช่วยทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกสมัย และการที่เป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกคนเดียวที่อยู่ในลิสต์นี้ ยิ่งตอกย้ำว่า KDB คือกองกลางเบอร์ต้นๆของโลกในเวลานี้อย่างไม่ต้องสงสัย