จุดต่ำสุด : 6 บิ๊กทีมกับฤดูกาลเก็บแต้มน้อยสุดยุคพรีเมียร์ลีก

จุดต่ำสุด : 6 บิ๊กทีมกับฤดูกาลเก็บแต้มน้อยสุดยุคพรีเมียร์ลีก

บรรดาทีมท็อปซิกซ์ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างได้รับการยกย่องว่าเป็น 6 ทีมเบอร์ต้นๆที่ดีที่สุดลีกสูงสุดแดนผู้ดี อย่างไรก็ตามเมื่อมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์สุดๆ ก็ย่อมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก หรือตกต่ำด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากผลงานในลีกแล้ว พวกเขาเหล่านี้ยังทำผลงานได้โดดเด่นในฟุตบอลยุโรป โดยในช่วง 5 ปีหลังสุดมีทีมจากอังกฤษอย่างน้อย 1 ทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ มีเพียงฤดูกาล 2019-20 เท่านั้นที่ทีมจากแดนผู้ดีพลาดเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย

บ่อยครั้งที่ทีมท็อปซิกซ์มักจบด้วยอันดับบนหัวตารางในแต่ละฤดูกาล และต่อสู้เพื่อชิงชัยตำแหน่งนี้บ่อยๆ แต่ก็มีบางช่วงที่พวกเขาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานในลีก อย่างกรณีล่าสุดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างสถิติใหม่เรียบร้อยแม้พวกเขาไม่พึงประสงค์ก็ตามที ด้วยการเก็บแต้มน้อยสุดในยุคพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ และต้องไปลุ้นกันในนัดสุดท้ายว่าทำได้แค่ 58 แต้มหรือมากกว่านั้น  

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอไปพบกับทีมท็อปซิกซ์กับฤดูกาลที่เก็บแต้มได้น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกยุคใหม่นับตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปัจจุบัน

 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ | 44 แต้ม ฤดูกาล 1997-98

Season 1997/98

ประตูได้เสีย : -12 (ยิง 44, เสีย 56)

หลังจากดิ้นรนอยู่นานหลายปี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็สามารถลดช่องว่างกับทีมหัวตารางจนก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับท็อปซิกซ์ของลีกในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้พวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเลย แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเต็งขาประจำในการลุ้นท็อปโฟร์

โดยฤดูกาลที่ ‘ไก่เดือยทอง’ ทำแต้มได้มากที่สุดคือ ฤดูกาล 2016-17 หลังแพ้เพียงแค่ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เวสต์แฮม และ ลิเวอร์พูล เท่านั้น จนคว้าได้ 86 คะแนน จบอันดับ 2 ตามหลัง เชลซี แชมป์ลีกแค่ทีมเดียว ซึ่ง แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งก็ครองตำแหน่งดาวซัลโวด้วยจำนวน 29 ประตู

ทว่าฤดูกาล 1997-98 กลับเป็นปีที่น่าผิดหวังจน ยิด อาร์มี่ อยากจะลืมเลือน เมื่อเก็บได้เพียง 44 แต้ม รั้งอันดับ 14 ในปีนั้น ทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ แม้มีสตาร์ดาวเด่นอย่าง ดาวิด ชิโนล่า หรือ เลส เฟอร์ดินานด์ ก็ตาม 

 

อาร์เซน่อล | 51 แต้ม ฤดูกาล 1994-95

Arsenal (1994-1995) – Premier League Archive

ประตูได้เสีย : +3 (ยิง 52, เสีย 49)

อาร์เซน่อล ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่ได้รับความเคารพทั่วยุโรป เนื่องจากความคงเส้นคงวาและเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ลีก โดยเฉพาะในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่หลังผ่านพ้นปี 2010 เป็นต้นมา พวกเขากลับไม่ได้มีสถานะเป็นทีมลุ้นแชมป์ลีกอีกต่อไป แถมทำผลงานได้น่าผิดหวังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แน่นอนว่าปีที่ ‘ปืนใหญ่’ ทำแต้มมากที่สุดคงหนีไม่พ้นฤดูกาล 2003-04 ที่คว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย พร้อมคะแนนอีก 90 แต้ม โดยมี เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยจำนวน 30 ประตู

อย่างไรก็ตามในช่วงปีแรกๆที่ พรีเมียร์ลีกก่อตั้ง ‘เดอะ กันเนอร์’ส’ ต้องกระเสือกกระสนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในฤดูกาล 1994-95 ที่ จอร์จ เกรแฮม กุมบังเหียนมานานกว่า 9 ปี พาทีมหล่นไปจบอันดับที่ 12 เก็บได้เพียง 51 แต้ม และถูกปลดหลังจบฤดูกาลนั้น

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 58 แต้ม* ฤดูกาล 2021-22 

EPL results 2022, Manchester United vs Wolves, Ralf Rangnick, results, PL table, Cristiano Ronaldo, UK view, reaction

ประตูได้เสีย : +1 (ยิง 57, เสีย 56)*

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก กับแชมป์ลีก 20 สมัย โดยทำได้ถึง 13 ครั้ง นับตั้งแต่มีการรีแบรนด์ลีกในปี 1992 โดยมี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นหัวเรือใหญ่ในการพาทีมประสบความสำเร็จ

เฟอร์กี้ พา ‘ปีศาจแดง’ ครองความเป็นหนึ่งในอังกฤษนานกว่า 2 ทศวรรษ โดยปีที่พวกเขาทำแต้มได้มากที่สุดคือฤดูกาล 1993-94 ที่เก็บไป 92 แต้ม คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติด รวมไปถึงคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองด้วย

ทว่าหลังจาก บรมกุนซือชาวสกอต วางมือในปี 2013 ยูไนเต็ด ก็ไม่เคยคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลยจนถึงปัจจุบัน โดย เดวิด มอยส์ ที่รับช่วงต่อจาก เฟอร์กี้ ก็พาทีมจบอันดับ 7 ทั้งๆที่ฤดูกาลเพิ่งคว้าแชมป์ลีก และเก็บแต้มไปเพียง 64 คะแนนน้อยที่สุดที่แฟนบอลเคยเจอในพรีเมียร์ลีก จนถูกเด้งพ้นตำแหน่งในเวลาต่อมา

นั่นถือปีที่เลวร้ายสำหรับสาวก เร้ด เดวิลล์ แล้ว ทว่าฤดูกาล 2021-22 ถือปีที่เลวร้ายยิ่งกว่า เพราะหลังเกมที่โดน ไบรท์ตัน ถล่มยับจนหมดสภาพ 4-0 ในเกมนัดที่ 37 ของซีซั่น เป็นการันตีแล้วว่า ปีนี้ ยูไนเต็ด จะทุบสถิติทีมยุคมอยส์ ด้วยเก็บแต้มได้น้อยที่สุด กับ 58 คะแนน และมีโอกาสทำได้มากสุดที่ 61 แต้ม หากเอาชนะคริสตัล พาเลซ ได้ในนัดสุดท้าย

 

เชลซี | 50 แต้ม ฤดูกาล 1995-96 และ 2015-16

Tactically Explaining Chelsea's Terrible Start to 2015-16 Premier League Season | Bleacher Report | Latest News, Videos and Highlights

ประตูได้เสีย : 1996 | +2 (ยิง 46, เสีย 44), 2016 | +6 (ยิง 59, เสีย 53) 

คงไม่ผิดนักหากบอกว่าการมาของ โรมัน อับราโมวิช ช่วงเปลี่ยนให้ทีมระดับกลางที่มีลุ้นแค่บอลถ้วยอย่าง เชลซี ให้ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นสโมสรระดับท็อปในอังกฤษ โดยนับตั้งแต่ปี 2003 ทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูโรป้าลีก อย่างละ 2 สมัย และ แชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย

ช่วงที่ ‘สิงห์บลูส์’ แข็งแกร่งสุดๆ ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2004-05 กับการคว้าแชมป์ลีกภายใต้การดูแลของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เก็บไป 95 แต้ม แพ้แค่เกมเดียว และนั่นทำให้พวกเขาเป็นสโมสรที่ทำแต้มได้มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ของลีกอังกฤษ

จุดต่ำสุดในลีกก็ย่อยมีเช่นกัน หลังเก็บได้เพียง 50 แต้ม ถึง 2 หน โดยครั้งแรกในฤดูกาล 1995-96 ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะในตอนนั้น เชลซี คือทีมระดับกลางเท่านั้น และครั้งต่อมาในฤดูกาล 2015-16 ที่กลายเป็นแชมป์เก่าที่ทำผลงานในปีต่อมาได้ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และจบปีนั้นด้วยอันดับ 10 

 

ลิเวอร์พูล | 52 แต้ม ฤดูกาล 2011-12

ลิเวอร์พูล ชุดแชมป์ลีกคัพ 2011/12 ตอนนี้พวกเขาอยู่ไหน? | Goal.com

ประตูได้เสีย : +7 (ยิง 47, เสีย 40)

ลิเวอร์พูล ภายใต้การดูแลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กลายเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดๆ ทั้งในประเทศและระดับทวีป แถมนักเตะระดับโลกมากมาย ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หรือ อลิสซอน เบ็คเกอร์

ฤดูกาล 2019-20 คือปีที่ว่ากันว่านี่คือ ‘หงส์แดง’ ชุดที่ดีที่สุดประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ด้วยการเก็บไป 99 แต้ม แพ้แค่ 3 นัด และที่สำคัญผงาดคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

แต่กว่าที่ เดอะ ค็อป จะมีวันที่สวยงามแบบนี้ก็ต้องพบกับความผิดหวังมาก่อน โดยเฉพาะช่วงต้นยุค 2010 ที่ได้ รอย ฮอดจ์สัน เข้ามากุมบังเหียน ก่อนเละไม่เป็นท่า จนต้องดึง เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานสโมสรเข้ามากู้วิกฤตในระหว่างฤดูกาล 2011-12 แต่ก็ดีขึ้นไม่มากนักจนเก็บได้เพียง 52 แต้ม จบอันดับที่ 8 โดยที่เป็นรอง เอฟเวอร์ตัน ทีมอริร่วมเมืองถึง 6 คะแนน แต่อย่างน้อยเรื่องดีๆก็ยังมี ด้วยการคว้าแชมป์ลีกคัพในปีนั้น

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | 34 แต้ม ฤดูกาล 2000-01

2000/01 Manchester City – Return To The Big Time - Bitter and Blue

ประตูได้เสีย : -24 (ยิง 41, เสีย 65)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทบไม่มีอะไรโดดเด่นเลยในยุคแรกๆที่ลีกมีการรีแบรนด์ใหม่ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนหลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนอาบูดาบี ในชื่อ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 2008 ที่ค่อยลงทุนสร้างทีมจนกลายเป็นสโมสรระดับต้นๆของประเทศจนถึงปัจจุบัน

‘เรือใบสีฟ้า’ สร้างสถิติสุดยอดในฤดูกาล 2017-18 ด้วยการคว้าแชมป์ลีก พร้อมทำแต้มมากที่สุดต่อฤดูกาลในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ด้วยจำนวน 100 แต้ม โดยที่ปีนั้นทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พ่ายแพ้ให้แค่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปราวๆ 20 ปีก่อน ซิตี้ เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญของ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น และเป็นทีมกลางตารางที่ค่อนไปทางหนีตกชั้นอยู่ในบ้างช่วงด้วย ซึ่งในฤดูกาล 2000-01 ก็เป็นปีที่พวกเขาเก็บแต้มได้เพียง 34 คะแนน โดยชนะแค่ 8 และแพ้ไปถึง 20 เกม พร้อมร่วงตกชั้นไปเริ่มต้นกันใหม่ใน แชมเปี้ยนส์ชิพ ร่วมกับ โคเวนทรี่ และ แบรดฟอร์ด ซิตี้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ซาลาห์คิดให้ดี : 8 แข้งฟอร์มร่วงหนักหลังแยกทางคล็อปป์
ซาลาห์คิดให้ดี : 8 แข้งฟอร์มร่วงหนักหลังแยกทางคล็อปป์