ยากแต่เป็นไปได้ : คล็อปป์กับภารกิจพาหงส์ล่า 4 แชมป์

ยากแต่เป็นไปได้ : คล็อปป์กับภารกิจพาหงส์ล่า 4 แชมป์

การเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ทำให้หลายคนเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าแต่ละทีมเป็นอย่างไร และคงไม่มีสโมสรไหนได้ฝันไกลเกินกว่า ลิเวอร์พูล อีกแล้วในตอนนี้

‘หงส์แดง’ กำลังเดินหน้าไล่ล่าคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์ลีกคัพมาแล้ว ขณะที่รายการอื่นๆก็ยังมีลุ้นสุดๆ ทั้งพรีเมียร์ลีก ที่ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแค่แต้มเดียว ขณะที่เหลืออีก 6 เกม, เข้าสู่รอบตัดเชือกในแชมเปี้ยนส์ลีก และเข้าชิงกับ เชลซี ในถ้วยเอฟเอ คัพ

นี่คือช่วงเวลาที่ เดอะ ค็อป ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน และไม่เคยมีผู้จัดการทีมคนไหนทำได้แบบที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในถิ่น แอนฟิลด์

หากสามารถเข้าชิงบอลยุโรปได้ 7 นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ จะเป็นตัวตัดสินว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้า ใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษได้หรือไม่

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาวิเคราะห์ถึงโอกาสที่ คล็อปป์ จะพายอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์สร้างประวัติศาสตร์ในฤดูกาลนี้ รวมไปถึงย้อนดูทีมในยุคก่อนๆว่ามีใครใกล้เคียงกับการคว้า 4 แชมป์

 

สโมสรอังกฤษกับ 4 แชมป์

Rafa Benitez and his Chelsea counterpart Jose Mourinho (right) on the touchline at Anfield as the Blues' Quadruple dreams ended in the second leg of the 2007 Champions League semi-final

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีสโมสรไหนจากอังกฤษที่เคยคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว

หากหยิบยกทีมที่ใกล้เคียงกับการคว้า 4 แชมป์เมเจอร์ในฤดูกาลเดียว โดยนับเรื่องระยะเวลามีลุ้นนานที่สุด ก็คงเป็น เชลซี ในฤดูกาล 2006-07

ช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2007 โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พา สิงห์บลูส์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ปีติด คว้าแชมป์ลีกคัพมาครองก่อนแล้ว หลังเบียดชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ขณะที่ถ้วยเอฟเอ คัพ ก็เข้าชิงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งซึ่งกำลังเบียดแย่งแชมป์ลีกกันอยู่

อย่างไรก็ตาม การลุ้น 4 แชมป์ของทีมจากลอนดอนก็จบลงในวันที่ 1 พฤษภาคม เมื่อพวกเขาพ่ายให้ ลิเวอร์พูล 4-1 ในช่วงดวลจุดโทษ ในเกมเลกสอง ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่ แอนฟิลด์ อีกทั้งพวกเขาก็เสียแชมป์ลีกให้กับ ‘ปีศาจแดง’ ในเวลาต่อมา

เมื่อพูดถึง แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาก็ทำได้ใกล้เคียงที่สุดในฤดูกาล 2008-09 ทว่าก็พลาดท่าพ่ายให้ เอฟเวอร์ตัน 2-4 ในรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ รวมไปถึงเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ที่พ่ายให้ บาร์เซโลน่า 2-0 ที่โรมด้วย

และแน่นอนว่า แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มีโอกาสคว้า 4 แชมป์เช่นกัน กับฤดูกาล 2018-19 และฤดูกาลที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวก็จบลงหลังพ่ายให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ใน UCL รอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ปีต่อมาก็พ่ายให้ เชลซี ในรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ

ส่วน ลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน ยังคงมีลุ้นอยู่หลังวันที่ 3 พฤษภาคม หากพวกเขาไม่พลาดท่าให้ บียาร์เรอัล ในบอลยุโรปเสียก่อน หลังเอาชนะมาได้ในเลกแรก 2-0

แมนฯ ยูไนเต็ด อาจผงาดคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1998-99 แต่การหมดลุ้น 4 แชมป์ไปตั้งแต่ก่อนช่วงคริสมาสต์ หลังโดน สเปอร์ส เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในลีกคัพ

 

หงส์แดงกับ 4 แชมป์ในอดีต

Liverpool FC in 1982/83: Paisley bows out in style with 6th title in 9 years - Liverpool FC - This Is Anfield

เมื่อนึกถึงความยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ในอดีต อาจเชื่อว่าพวกเขาเคยมีลุ้นทำได้ใกล้เคียงกับการคว้า 4 แชมป์ แต่ความจริงแล้วกลับไม่เลย แม้คว้าแชมป์ลีกคัพได้ 4 ปีติด ตั้งแต่ปี 1981 ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เอฟเอ คัพ กลับเป็นจุดอ่อนของ ‘หงส์แดง’ ในตลอด 4 ฤดูกาลนั้น เนื่องจากพวกเขาไม่เคยผ่านทะลุรอบ 5 ได้เลย ซึ่งโอกาสใกล้เคียงที่สุดคือฤดูกาล 1982-83 ที่พลิกพ่ายให้ ไบรท์ตัน ที่เล่นในดิวิชั่น 2 คา แอนฟิลด์ 1-2 ปิดฉากลุ้น 4 แชมป์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 

และก็เป็นทีม ‘นกนางนวล’ อีกครั้งในบอลถ้วยที่ปิดโอกาสคว้า 4 แชมป์ของทีมสีแดงจาก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ในฤดูกาลต่อมา

 

ทีมเดียวในประวัติศาสตร์

Celtic Inter Milan 1967 European Cup final Lisbon Lions

ในอดีต เบิร์นลี่ย์ เป็นทีมแรกจากอังกฤษ ที่มีโอกาสคว้า 4 แชมป์ เมื่อฤดูกาล 1960-61 ก่อนพ่าย ฮัมบูร์ก ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ ยูโรเปี้ยนส์ คัพ เดือนมีนาคมปี 1961 และหลังจากนั้นก็พลาดทุกถ้วย ทั้งแชมป์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ 

อย่างไรก็ตาม กลาสโกว เซลติก กลับเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวที่สร้างประวัติศาสตร์นี้ได้ในฤดูกาล 1966-67 จ็อค สไตน์ กุนซือชาวสกอต พาทีมเก็บทั้งแชมป์ลีก, ลีกคัพ, สก็อตติช คัพ ก่อนตบท้ายด้วย แชมป์ยูโรเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกของสโมสร หลังเอาชนะเหนือ อินเตอร์ มิลาน

ฝรั่งเศส เคยเป็น 1 ใน 2 ลีกร่วมกับ อังกฤษ จาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป ที่มีบอลถ้วยพิเศษเพิ่มขึ้นอีกรายการ นั่นก็คือ คูป เดอ ลา ลีก หรือก็คือ ลีกคัพ ในแดนผู้ดีนั่นเอง ก่อนยุบรายการนี้หลังจบฤดูกาล 2019-20

และถึงแม้ตลอดช่วง 10 ปีหลังสุดจะมีหลายสโมสรคว้า 4 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว แต่นั่นก็ไม่การคว้า 4 แชมป์ที่แท้จริง นั่นจึงอธิบายได่ว่าทำไมสโมสรดังๆในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค หรือ ยูเวนตุส ถึงไม่เคยทำแบบนั้นได้เลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

โดย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกือบทีมแรกใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่คว้า 4 แชมป์ได้ในฤดูกาล 2019-20 หลังกวาดแชมป์ทุกรายการในฝรั่งเศส

โดย เปแอสเช คว้าแชมป์ลีกเอิง ไปได้ตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 เมื่อกลับมาแข่งขันเกมที่เหลือในฤดูกาล พวกเขาก็คว้าแชมป์ คูป เดอ ฟร็องช์ หลังเอาชนะ แซงค์ เอเตียนน์ ก่อนจะคว้าแชมป์ คูป เดอ ลา ลีก หลังเอาชนะ ลียง ในช่วงดวลจุดโทษชี้ขาด 6-5 

 ทว่าทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ก็โดน บาเยิร์น มิวนิค เฉือนชนะ 1-0 ในนัดชิงของ แชมเปี้ยนส์ลีก ปีนั้น ทั้งๆที่อุตส่าห์เข้าชิงในบอลยุโรปเป็นครั้งแรกของสโมสร

 

หงส์ของคล็อปป์มีลุ้นแค่ไหน

Jurgen Klopp: Liverpool still have work to do vs Villarreal in Champions League second leg | Football News | Sky Sports

น่าแปลกไม่น้อย สำหรับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่แม้ขึ้นชื่อเรื่องจิตใจที่แข็งแกร่ง แทบไม่เคยพบความพ่ายแพ้เลย ระหว่างปี 2018 ถึง 2020 แต่ ลิเวอร์พูล ชุดนั้นก็ไม่เคยใกล้เคียงกับคำว่า 4 แชมป์เลย

โอกาสใกล้เคียงที่สุด คงเป็นฤดูกาลที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2019-20 เมื่อต้องส่งทีมชุดพลังหนุ่ม ไปลงเล่นในเกมลีกคัพ เนื่องจากมีภารกิจลุยศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ก่อนโดน แอสตัน วิลล่า ตบยับ 5-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

แต่ในฤดูกาลนี้ อาจพูดได้ว่าเป็หนแรกในประวัติศาสตร์ของ ‘หงส์แดง’ ที่ลุ้น 4 แชมป์ได้ยาวๆจนถึงช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งพวกเขาก็ยังโชว์ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเรื่อยมาจนถึงตอนนี้

แต่เกมที่เหลือต้องบอกว่าลำบากเช่นกัน ทั้งพรีเมียร์ลีกกับ 5 นัดสุดท้ายที่จะพบกับ นิวคาสเซิล (ซึ่งชนะไปแล้ว), สเปอร์ส, แอสตัน วิลล่า, เซาแธมป์ตัน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน แถมยังต้องลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำแต้มสะดุดอีก ซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆ หากดูจากมาตรฐานการเล่นของ เรือใบสีฟ้า ในชั่วโมงนี้

เช่นเดียวกับ เชลซี ในนัดชิง เอฟเอ คัพ ที่ถึงแม้ทีมของ คล็อปป์ จะเป็นต่อ เมื่อเทียบทั้งฟอร์ม, นักเตะ โดยรวม แต่ขึ้นชื่อว่านัดชิง อะไรก็เกิดขึ้นได้ เช่นที่ทีมของ ทูเคิ่ล เคยทำมาแล้วในเกมนัดชิงบอลยุโรปปีก่อน

ขณะที่ แชมเปี้ยส์ลีก หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงฝ่าด่าน บียาร์เรอัล ในรอบรองชนะเลิศ หลังตุนไว้ในเลกแรกถึง 2 ลูก และเข้าเล่นในรอบชิงชนะเลฺิศ แต่ไม่ว่าจะพบกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด ก็ล้วนเป็นงานยากที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

7 นัดเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า คล็อปป์ จะพาลิเวอร์พูลในมือของเขาสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวงการลูกหนังแดนผู้ดีได้หรือไม่

เชื่อว่า เดอะ ค็อป ทุกคนคงรู้ว่าเป็นเรื่องยากกับการคว้า 4 แชมป์ท่ามกลางการแข่งขันกับ ยอดทีมมากมาย แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เชื่ออีกว่า ความสำเร็จ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหลือแค่สอง : ตามหาหงส์แดงชุดอัดเรือดำน้ำบอลยุโรปปี 2016
เหลือแค่สอง : ตามหาหงส์แดงชุดอัดเรือดำน้ำบอลยุโรปปี 2016