เมาโร เบรสซาน อาจไม่ใช่นักเตะที่มีฝีเท้าโดดเด่นเหนือใคร และยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงแค่ประตูเดียว แต่นั่นก็ถือเป็นประตูที่สวยสุดที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในรายการนี้ด้วยเช่นกัน
ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 1999 กองกลางชาวอิตาเลี่ยน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ ฟิออเรนติน่า พบกับ บาร์เซโลน่า ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม และคงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะสร้างหนึ่งในประตูที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ของ UCL
แต่สิ่งที่กลายเป็นจุดด่างพร้อยที่แก้อย่างไรก็ไม่มีวันหายคือการที่เขาเข้าไปพัวพันกับการล็อคผลและล้มบอลในลีกระดับล่าง ก่อนถูกจับหลังแขวนสตั๊ดไม่กี่ปี และหายหน้าไปจากวงการลูกหนังนับตั้งแต่นั้น
UFA ARENA จึงพอพาไปย้อนระลึกถึงจุดสูงสุดของ เบรสซาน ในอาชีพค้าแข้งจากประตูสุดสวยใน UCL และจุดตกต่ำที่สุดจนทำให้เขาไม่มีที่ยืนในวงการฟุตบอลอีกต่อไป
จุดเริ่มต้นจอมพเนจร
จริง ๆ แล้ว เบรสซาน เป็นนักเตะจอมพเนจรคนหนึ่งวงการลูกหนังแดนมักกะโรนี ที่ย้ายไป 3 สโมสรตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 20 ปี ทั้ง มอนเตเบลลู่า, เอซี มิลาน หรือ เปรูจา แต่มาตั้งหลักได้กับ โคโม่ สโมสรเซเรียบี ก่อนย้ายไปร่วมทีม ฟอจจา หลังฟอร์มการเล่นเตะตา ซเดเน็ค ซีแมน กุนซือตำนานของสโมสร เมื่อปี 1994
ภายในไม่กี่ปี เขาก็กลายเป็นดาวรุ่งดาวใหม่ในเซเรียอา โดยย้ายไปเล่นกับ กายารี่ จากนั้นก็ บารี่ ในเวลาต่อมา ซึ่งมาพร้อมลีลาการจ่ายบอลที่แม่นยำ และควบคุมจังหวะในแดนกลาง และยังเคยเล่นร่วมกับดาววรุ่งอนาคตไกลมากมายในยุคเดียวกันทั้ง นิโคโล่ เวนโตล่า, จานลูก้า ซามบร็อตต้า และ อันโตนิโอ คาสซาโน่
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงปี 1999 เขาก็ย้ายมาสวมเสื้อของทีม ‘ม่วงมหากาฬ’ และในวัย 28 ปี ก็เป็นช่วงเวลาที่ เบรสซาน พีกสุด ๆ ในอาชีพค้าแข้งด้วย
อีกทั้งนี่ยังเป็นการย้ายทีมครั้งสำคัญของเขา เพราะในทีม ‘วิโอล่า’ มีทั้ง โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ เป็นกุนซือ รวมถึงมีนักเตะระดับโลกอย่าง มานูเอล รุย คอสต้า และ กาเบรียล บาติสตูต้า อยู่ในทีมด้วย
เบรสซาน เข้ามาเพิ่มมิติและตัวเลือกให้กับทีมมากขึ้น หลังประสบปัญหาภาวะกดดันในปีก่อน ๆ จนฟอร์มหลุดช่วง 2-3 เดือนสุดท้ายในฤดูกาล 1998-99 จนพลาดโอกาสคว้าถ้วยสคูเด็ตโต้ในรอบ 30 ปี
แม้จะน่าผิดหวัง แต่ฟิออเรนติน่า ก็ยังคว้าอันดับ 3 ได้ตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบคัดเลือก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เบรสซาน สร้างช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ในรายการนี้
จักรยานอากาศบรรลือโลก
เมื่อผ่านเข้ามารอบแบ่งกลุ่ม UCL ฤดูกาล 1999-2000 ได้ ฟิออเรนติน่า ต้องเจอกับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า รวมถึง อาร์เซน่อล 2 ตัวเต็งในรายการนี้ แม้พลิกล็อคเอาชนะ ‘ปืนใหญ่’ 1-0 ได้ในเกมรองสุดท้าย ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะแบบนี้ได้กับเกมนัดสุดท้ายที่เปิดรังพบ บาร์ซ่า
ทางด้าน เบรสซาน ไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมในฐานะตัวจริงเท่าไหร่นักกับทีมใหม่ แต่ต้องทนเป็นตัวสำรองอดทนต่อไปในช่วงแรกกับ ฟิออเรนติน่า ถึงได้ลงเล่นในเกมยุโรปบ้าง แต่ เบรสซาน ก็ได้ลงเล่นเพียงครึ่งชั่วโมงในเกมพบ เอไอเค สมันน้อยประจำกลุ่ม และการเจอกับ บาร์ซ่า ที่เป็นแชมป์กลุ่มไปแล้ว ก็คงไม่มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นแน่นอน แต่ถึงอย่างนั่น กองกลางชาวอิตาเลี่ยน ก็มั่นใจว่านี่จะคืนที่น่าจดจำสำหรับเขาแน่นอน หลังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างเหนือความคาดหมาย
ยอดทีมจากสเปน ถล่มฟิออเรนติน่าไปก่อน 4-2 ในเกมที่คัมป์ นู ซึ่งในทีมนั้นเป็นไปด้วยสตาร์ดังมากมายทั้ง หลุยส์ ฟิโก้, เป็ป กวาร์ดิโอล่า, พาทริค ไคล์เวิร์ต และ ริวัลโด้ รวมถึง การ์เลส ปูโยล กับ ชาบี เอร์นานเดซ ที่ยังเป็นดาวรุ่งอยู่
แม้ทั้ง 2 ทีมเต็มไปด้วยแข้งฝีเท้าดีมากมาย แต่นี่จะเป็นคืนที่ เบรสซาน เฉิดฉาย และกองกลางรายนี้ใช้เวลาราว 14 นาทีเศษ ๆ ในการทำประตูขึ้นนำให้กับ ‘วิโอล่า’ แถมเป็นลูกยิงที่ยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายใด ๆ ด้วย
บอลถูกสกัดออกมาจากกรอบเขตโทษ และ กวาร์ดิโอล่า รีบเคลียร์บอลจนมาเข้าทาง เบรสซาน ที่มีความโชคดีเล็ก ๆ ผสมอยู่ หลัง จอร์จ เฮนริช เพื่อนร่วมทีมและ ริวัลโด้ แย่งกระโดดโหม่ง แต่ไม่มีใครโดนบอล
กองกลางชาวอิตาเลี่ยน ปล่อยให้บอลเด้งตกพื้นหนึ่งจังหวะจนบอลข้างอยู่กลางอากาศได้ที่ จากนั้นก็กระโดดจักรยานอากาศในระยะ 25 หลาในทันที บอลพุ่งทะยานไปเสาไกลก่อนเช็ดคานเข้าประตูไป หมดสิทธิ์ที่ ฟรานเชส อาร์นู นายทวารชาวสแปนิช จะป้องกันได้
เสียงเฮจากแฟนบอล 25,000 คนใน อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ ดังลั่นทั่วสนาม ขณะที่เพื่อนร่วมทีมฟิออเรนติน่า ก็พยายามวิ่งเฮโลไล่ตาม เบรสซาน ผู้ทำประตูนั้น หลังตะลึงงันกับลูกยิงสุดสวยที่เกิดขึ้น
“บางทีมันดูบ้าบอไปหน่อยในตอนนั้น” เบรสซาน เล่าย้อนความกับ FourFourTwo “แต่ผมอยากลองมันดู เพราะผมเคยทำอยู่หลายครั้งในตอนซ้อม ซึ่งไม่สำเร็จมากนักหรอก”
ถึงบาร์ซ่าจะแซงคืน 2 ลูกรวด จาก ฟิโก้ และ ริวัลโด้ แต่ เบรสซาน ก็ยังโดดเด่นในสนามที่สุด เมื่อทำแอสซิสต์ให้กับ อาเบล บัลโบ ยิงประตูตีเสมอ 2-2 ด้วยลูกตอกส้นสุดเหนือชั้น
หอกชาวอาร์เจนไตน์ บวกเพิ่มให้ ‘วิโอล่า’ นำอีกครั้งเป็น 3-2 แต่ ริวัลโด้ ก็มาตีเสมอให้ทำให้เกมจบไปแบบสุดมันส์ 3-3 และที่สำคัญยังทำให้ ฟิออเรนติน่า ผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ใน UCL ต่อไป โดยมีคะแนนเหนือกว่า อาร์เซน่อล 1 แต้มด้วย
ฉาวหลังแขวนสตั๊ด
ทุกวันนี้ประตูของ เบรสซาน ในเกมนัดนั้นยังถูกพูดถึงและมีให้เห็นมากมายหลายแห่งบนโลกออนไลน์ โดยถูกยกให้เป็นลูกจักรยานที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล หรือถูกโพสต์ลงโซเชียลในวันที่ 5 มกราคมของทุกปี ซึ่งเกิดของแข้งชาวอิตาเลี่ยน
อีกทั้งลูกยิงของ เบรสซาน ยังถูกโหวตให้เป็นประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นอันดับ 2 รองจากลูกวอลเลย์ของ ซีเนดีน ซีดาน ในนัดชิงระหว่าง เรอัล มาดริด พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เท่านั้น จาก ITV สถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวีในอังกฤษ
หลังจากนั้น เบรสซาน ก็ค้าแข้งกับ ‘วิโอล่า’ อีกหนึ่งฤดูกาล และมีส่วนกับแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ในปี 2001 ก่อนจะกลายเป็นจอมพเนจรอีกครั้ง และไม่มีโอกาสโชว์ฝีเท้าในรายการระดับทวีปอย่าง UCL อีกเลย
เขาเล่นให้กับ เวเนเซีย, เจนัว รวมถึง โคโม่ อีกทีมเก่าที่เคยค้าแข้ง จากนั้นจึงย้ายไปปิดอาชีพกับ ลูกาโน่ และ ชิอาสโซ่ ในสวิตเซอร์แลนด์ และแขวนสตั๊ดในปี 2009 ด้วยวัย 38 ปี
เรื่องราวของเขาควรหยุดลงและได้รับการจดจำแต่เพียงเท่านี้ ทว่าเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดก็ถูกแพร่เผยผ่านสื่อในอิตาลี เมื่อปี 2011 เบรสซาน เป็น 1 ใน 16 ที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาพัวพันการล้มบอลในลีกล่างของแดนมักกะโรนี ซึ่งในนั้นมีทั้ง จูเซ็ปเป้ ซินญอรี่ อดีตดาวยิงลาซิโอ และ คริสเตียโน่ โดนี่ อดีตกัปตันอตาลันต้า
การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นจุดพีกสุดของการสืบสวนในช่วง 6 เดือน โดยตำรวจเปิดเผยหลักฐานที่สำคัญและน่าสนใจ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ที่ถูกจับกุมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่ต้องสงสัยว่ามีการล็อคผลลัพธ์การแข่งทั้งใน เซเรีย บี และ เซเรีย ซี
อีกหนึ่งปีต่อมาในเดือนสิงหาคม 2012 คณะกรรมการวินัยของสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (FIGC) ได้สั่งแบน เบรสซาน ห้างยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง และกลายเป็นมลทินที่ติดตัวเขาและวงการลูกหนังแดนมักกะโรนีไปอีกนานแสนนาน
อย่างไรก็ตามชื่อของ เมาโร เบรสซาน ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงความมหัศจรรย์ของฟุตบอลและความยอดเยี่ยมที่เขาแสดงให้เห็นในสนาม แม้เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้นก็ตาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
