เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลยุโรป และคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองมากมายเกือบ 100 รายการ ดังนั้นในทีมระดับนี้ย่อมมีความคาดหวังสูงกว่าสโมสรทั่ว ๆ ไป
มีนักฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยมหลายคนที่มีโอกาสย้ายมาค้าแข้งใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ทว่าก็มีบางคนที่ไม่สามารถรอดพ้นความโกรธเกรี้ยวของสื่อมวลชนในสเปน โดนรุมวิจารณ์แบบหมดสภาพเช่นกัน หากพวกเขามองงว่านักเตะทำผลงานได้ไม่ดีพอ หรือ ไม่ทุมเทกับต้นสังกัดเท่าที่ควร
โดยเฉพาะสื่อระดับท็อปในเมืองหลวงแดนกระทิงอย่าง อาส (AS) และ มาร์ก้า (Marca) ที่วิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องเสียเวลาอ้อมค้อมให้แฟนต้องตีความกันยืดยาว แถมบางครั้งยังดูรุนแรงไปด้วยซ้ำ เช่นกรณีล่าสุดของ แกเร็ธ เบล ที่โดนด่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ พร้อมถูกกล่าวหาว่าเป็นดั่งปรสิตดูดเลือดต้นสังกัดโดยที่ไม่ทำประโยชน์อะไรตอบแทนเลย
UFA ARENA จึงพาไปพบกับ 6 นักเตะของ ‘ราชันชุดขาว’ ที่พบว่าตนเองถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากสื่อในแดนกระทิง ยามที่ทำผลงานได้ตกต่ำหรือไม่น่าประทับใจ
เอเด็น อาซาร์
นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2018 เอเด็น อาซาร์ ยังไม่สามารถผลงานในสีเสื้อเรอัล มาดริด ได้สมกับราคาและฝีเท้าของเขาเลย อีกทั้งยังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยๆ จนหลายคนเริ่มเอือมระอา
อย่างไรก็ตาม สื่อเมืองหลวงสเปน ก็ไม่วิจารณ์อะไรรุนแรงมาก จนกระทั่งเกมที่ ‘โลส บลังโกส’ ตกรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลล่าสุด หลังพ่ายให้กับ เชลซี ด้วยสกอร์รวม 3-1 มีการจับภาพให้เห็นว่า ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม กำลังหัวเราะร่ากับเพื่อนเก่าในทีม ‘สิงห์บลู’ หลังสิ้นเสียงนกหวีดในเกมนั้น
นั่นเป็นเหตุให้ โจเซฟ เปเดรโรล พิธีกร El Cheringuito รายการดังในแดนกระทิงออกมาวิจารณ์ผ่านรายการของตัวเองแบบไม่แคร์สายใคร
“เรอัล มาดริด ตกรอบบอลยุโรป ขณะที่ อาซาร์ กลับพบว่านี่เป็นช่วงเวลาขำขันสนุกสนาน” เปเดรโรล กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ ขณะดำเนินกรายการ
“2 ปีแล้วที่สร้างความขุ่นเคืองให้กับ แฟนบอล เรอัล มาดริด 2 ปีแล้วที่น้ำหนักเกินไป ราวกับเป็นเหมือน แกเร็ธ เบล อีกคน เราโกรธมาก เราไม่เข้าใจเขาเลย เขาไม่สามารถอยู่กับ เรอัล มาดริด ได้อีกต่อไปแล้ว”
อาซาร์ ได้ออกมาขอโทษต่อแฟนจากเหตุการณ์ครั้งนั้นในเวลาต่อมา แต่ปัจจุบัน สถานะตัวของเขากลายเป็นตัวสำรองอย่างสมบูรณ์ในยุคของ คาร์โล อันเชล็อตติ เนื่องจาก วินิซิอุส จูเนียร์ โชว์ฟอร์มเด่นจนยึดตัวจริงยาวๆในฤดูกาลนี้
แกเร็ธ เบล
เมื่อใดก็ตามที่ถูกสื่อจากสเปนให้คำนิยามว่า ‘เป็นแค่ แกเร็ธ เบล อีกคน’ ย่อมไม่ใช่ความหมายที่ดีเท่าไหร่ แม้ว่าดาวเตะทีมชาติเวลส์ มีส่วนพาทีมคว้าถ้วย แชมเปี้นส์ลีก 4 สมัย อีกทั้งยิงประตูสุดสวยและล้ำค่าได้ในเกมนัดชิงชนะเลิศด้วย
แต่ เบล ล้มเหลวในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีม แทนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไป ยูเวนตุส ตั้งแต่ปี 2018 อีกทั้งปัญหาความฟิตหลังจากนั้นทำให้เขาไม่สามารถทำผลงานได้สม่ำเสมอเช่นปีแรก ๆ ในสเปน
ในปี 2019 อดีตกองหน้า ‘ราชันชุดขาว’ อย่าง เปแดร็ก มิยาโตวิช ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาสโมสร มองว่า เบล สนใจกับการออกรอบตีกอล์ฟ หรือรับใช้ทัพ ‘มังกรแดง’ มากกว่าการเล่นให้กับสโมสร ทั้งๆ ที่จ่ายค่าเหนื่อยให้เขาหลายล้านยูโรต่อปี
หลังจากทีมชาติเวลส์ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของศึกยูโร 2020 แล้ว เบล ที่ฟอร์มตกกับต้นสังกัด โผล่ไปถ่ายภาพกับเพื่อนร่วมชาติด้วยรอยยิ้มสุดเบิกบาน พร้อมธงชาติที่เขียนข้อความว่า “เวลส์, กอล์ฟ, มาดริด” ตามลำดับ
สื่อในสเปนทั้งหลายไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องตลกเลย โดยเฉพาะ มาร์ก้า ที่ลงหน้าหนึ่งวิจารณ์อดีตแข้ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แบบไม่ไว้หน้า
ปัจจุบัน เบล ก็ยังเป็นไม้เบื่อไม้เบากับ สื่อเจ้านี้ หลังโดนกล่าวหาว่าเป็นปรสิตดูดเลือดสโมสรในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนมีนาคมปี 2022 ก่อนที่เจ้าจะตอกกลับว่า มาร์ก้า เป็นสื่อไร้จรรยาบรรณ หลังเหมา 2 ประตูพา เวลส์ เฉือน ออสเตรีย 2-1 ในเกมเพลย์ออฟฟุตบอลโลกช่วงที่ผ่านมา
ฮาเมส โรดริเกซ
อีกหนึ่งนักเตะค่าตัวแพงที่ ‘โลส บลังโกส’ คว้ามาร่วมทีม ซึ่งครั้งหนึ่งก็ทำผลงานได้โดดเด่นไม่น้อย แต่สุดท้ายก็กลายเป็นส่วนเกินของทีม อีกทั้งความเป็นมืออาชีพ และความฟิตพร้อมในการเล่นของ ฮาเมส โรดริเกซ มักถูกตั้งคำถามบ่อยๆ แทบรายวันจากสื่อในสเปน
ดาวเตะทีมชาติโคลอมเบีย ตอบโต้เสียงวิจารณ์เหล่านั้นด้วยการโพสต์โชว์ภาพอวดหุ่นซิกซ์แพ็คใน อินสตราแกรม พร้อมกับให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับ มาร์ก้า ด้วย
“การวิจารณ์นั้นทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ คนของผมรู้ดีว่าผมเป็นอย่างไร และผมก็พยายามดูแลตัวเองให้ดีเสมอ” ฮาเมส กล่าว
“ผมเป็นมือาชีพ สิ่งที่คนอื่นพูดถึงผมกับการออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยๆ ไม่เป็นความจริงเลย มันทำให้ผมไม่พอใจจริงๆ เมื่อมีคนสงสัยในตัวผม และบอกว่าผมดูอ้วนขึ้น”
หลังการกลับมารอบที่ 2 ของ ซีเนดีน ซีดาน อดีตดาวรุ่งปอร์โต้ ก็ดูไร้อนาคตใน ‘โลส บลังโกส’ จนถูกปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัว 2 ฤดูกาล ก่อนขายขาดให้กับ เอฟเวอร์ตัน ที่มี คาร์โล อันเชล็อตติ เจ้านายเก่า คุมทีมอยู่ในปี 2020 ทว่าปีต่อมาก็โดนพี่แจ้ทิ้ง ปล่อยให้เจอโจทก์เก่าสมัยค้าแข้งในสเปนอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ จนต้องย้ายทีมอีกหน
อิสโก้
ดิเอโก้ ตอร์เรส เป็นหนึ่งในนักข่าวที่โดดเด่นที่สุดของวงการฟุตบอลสเปน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเปิดโปงเบื้องหลังแคมป์แตกของ เรอัล มาดริด ช่วงที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม รวมไปถึงเรื่องราวในแง่ไม่ดีของ อิสโก้ ด้วย
ตอร์เรส เขียนวิจารณ์ กองกลาง ‘โลส บลังโกส’ ถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ให้ทีมชาติสเปน ในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 กับ เอล ปาอิส สื่อในประเทศ จนตัว อิสโก้ ออกมาทวิตถึงโดยตรง พร้อมข้อความสั้น แต่ได้ใจความว่า “ดิเอโก้ ตอร์เรส แกมันชั่วสุดๆ”
เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น ใน 2-3 เดือนต่อมา อิสโก้ กลับปฏิเสธที่ตอบคำถามจาก ตอร์เรส ในงานแถลงข่าวด้วย
“ผมจะไม่ตอบคำถามนั้น ในขณะที่คุณจะเขียนอะไรก็ตามในส่วนที่คุณรับผิดชอบในหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้น ผมก็จะปล่อยให้คุณทำแบบนั้นต่อไป” อิสโก้ กล่าว
“เราเป็นคนที่เล่นในสนามให้กับทีมชาติ แต่เราต้องการคนที่อยู่รอบตัวช่วยเหลือหนุนหลังกัน มากกว่าคอยเป็นอุปสรรคขวางทางตลอดเวลา เพราะนี่ไม่ช่วยอะไรขึ้นเลย”
อย่างไรก็ตาม ผลงานในสนามของ อิสโก้ กับ โลส บลังโกส ก็ไม่ได้ดีขึ้นไปกว่าที่ ตอร์เรส เขียนวิจารณ์เท่าไหร่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และมีข่าวเตรียมถูกปล่อยออกจากทีมอยู่เนืองๆ
คาริม เบนเซม่า
แม้ดำรงตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดอันดับที่ 3 ของสโมสร และมีค่าเฉลี่ยยิงประตูดีกว่า ราอูล กอนซาเลซ แต่ คาริม เบนเซม่า ก็ไม่รอดพ้นจากโดนวิจารณ์จากสื่อสเปน โดยเฉพาะช่วงที่เล่นกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
อย่างไรก็ดี เบอร์ 9 คนปัจจุบันของ ‘ราชันชุดขาว’ ก็รับมือกับเสียงวิจารณ์กับสื่อแดนกระทิงได้ดีตลอด แต่กลับกันประวัติของเขาในทีมชาติฝรั่งเศส ทำให้เจ้าตัวมีสัมพันธ์ที่แย่ลงกับสื่อในบ้านเกิดแทน ก่อนกลับมาดีขึ้นในช่วงที่ถูก ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ เรียกคืนทีมชาติอีกครั้งในปีที่ผ่านมา
“ผู้เล่นที่ดีที่สุดถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ เพราะนั่นคือสิ่งที่ขายหนังสือพิมพ์ไงล่ะ” เบนเซม่า กล่าวกับ มาร์ก้า ในปี 2018 ช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งเขายิงเพียง 5 ลูกในลาลีก้า
“เมื่อผมเล่นได้ไม่ดี ผมก็รู้ว่าผมไม่มีเกมที่ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมเหล่านั้นในสื่อต่าง ๆ ”
“เมื่อชื่อของผมอยู่ในหน้ากระดาษ มันไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผม ผมไม่สนมันหรอก เพราะมันไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะผมรู้ว่าผมพยายามเต็มที่อยู่เสมอเพื่อให้ทีมคว้าชัยในทุก ๆแข่งขันให้ได้”
เชื่อว่าปัจจุบันคงไม่มีสื่อไหนในแดนกระทิงกล้าวิจารณ์ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสอีกแล้ว หลังโชว์ฟอร์มแกร่ง ด้วยการซัด 32 ประตู กับ 14 แอสซิสต์ จาก 34 นัดในทุกรายการ ช่วยให้ โลส บลังโกส ลุ้นแชมป์ลาลีก้า และ แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้
ไมเคิ่ล โอเว่น
โทมัส รอนเซโร่ คอลัมนิสต์ของ อาส ได้เขียนบทวิจารณ์อันโด่งดังถึง ไมเคิ่ล โอเว่น ผู้ที่ประสบความล้มเหลวกับฤดูกาลเดียวในสเปน ก่อนหวนกลับไป อังกฤษ บ้านเกิดในเวลาต่อมา
“หนังสือพิมพ์ฉบันนี้ กล่าวไว้ในวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นเวลาที่สิ้นหวังอันเจ็บปวด เมื่อ มาดริด เซ็นสัญญากับ โอเว่น เสีย (ซามูเอล) เอโต้ ให้กับ บาร์เซโลน่า และพลาดคว้า ปาทริค วิเอร่า” รอนเซโร่ เขียนลงในคอลัมน์ของตน
“โอเว่น ไม่ใช่ อองรี, โอเว่น ไม่ใช่ เรเยส,โอเว่น ไม่ใช่ ต็อตติ,โอเว่น ไม่ใช่ ดร็อกบา, โอเว่น ไม่ใช่ อาเดรียโน่, โอเว่น ไม่ใช่ ฟิโก้, โอเว่น ไม่ใช่ ซีดาน, ดูให้ชัดเถอะว่า โอเว่น ไม่ใช่ กาลาติกอส เลย”
“ราฟา เบนิเตซ คงเปิดแชมเปญฉลองในวันที่ขายเขาให้กับ มาดริด แล้ว ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่”
16 ประตู จาก 45 นัด บ่งบอกว่า ‘เบบี้ โกล’ ยามค้าแข้งในสเปน ห่างไกลจากช่วงที่เขาแจ้งเกิดและโด่งดังกับ ลิเวอร์พูล หลายเท่าตัวเลย