ในห้วงเวลาปัจจุบันต้องบอกว่าเรามักจะได้เห็นการย้ายทีมที่น่าเหลือเชื่ออยู่บ่อยครั้ง เพราะยุคสมัยนี้คงเป็นเรื่องยากแล้วที่จะเห็นนักเตะรายใดที่จงรักภักดีอยู่กับสโมสรเดิมเพียงทีมเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง
ซึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นข่าวสะเทือนตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ที่ถึงจะถึงนี้เลยก็ว่าได้เมื่อ เปาโล ดีบาล่า แนวรุกตัวกลั่นทีมชาติอาร์เจนติน่าของ ยูเวนตุส นั้นเตรียมยุติเส้นทาง 7 ปีในถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม หลังกำลังจะหมดสัญญากับทีมในช่วงจบฤดูกาลนี้
แน่นอนว่าไม่ใช่เคสเดียวที่แข้งซูเปอร์สตาร์จะอำลาทีมแบบไร้ค่าตัวหลังจบฤดูกาล และนี่คือเหล่ายอดแข้งที่เรารวบรวมมาให้ดูว่าจะมีใครบ้างที่เตรียมผจญภัยครั้งใหม่หลังหมดสัญญากับทีมในซีซั่นนี้
อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า)
โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” เคยกล่าวไว้ว่านี่คือนักเตะที่ดีกว่า คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้ แต่ตลอดเวลาที่เขาย้ายมาค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู ตั้งแต่ปี 2017 ด้วยจากอาการบาดเจ็บที่คอยเล่นงาน รวมไปถึงวินัยนอกสนาม ทำให้ เดมเบเล่ กลายเป็นนักเตะที่เหมือนกำลังจะหมดสภาพไปแล้ว ด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น จนเชื่อว่าหลังหมดสัญญาในฤดูกาลนี้ เขาจะถูกปล่อยตัวออกไป ซึ่งตอนแรกหลายคนยังคิดว่าจะมีใครเข้ามาเซ้งต่อดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้หรือไม่
แต่แล้วถึงเวลานี้ เดมเบเล่ นั้นเหมือนกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เพราะนับตั้งแต่ ชาบี เอร์นานเดซ เข้ามาคุมทัพ “อาซูลกราน่า” รวมไปถึงการได้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง คู่หูของเขาที่เคยเล่นด้วยกันหนึ่งฤดูกาลที่ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ เข้ามาร่วมทัพ ผลงานของเจ้าตัวก็เหมือนพลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ ทำไปแล้ว 9 แอสซิสต์ จาก 9 นัดหลังสุด มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเวลานี้
จากที่ บาร์เซโลน่า แทบจะไม่เหลียวแลเขาอีกแล้ว ถึงขนาดที่ ลาปอร์ต้า เคยบอกไว้ว่าอนาคตของ เดมเบเล่ นั้นอยู่ที่ ชาบี ว่าต้องการใช้งานเขาต่อไปหรือไม่ แต่ตอนนี้กลับต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งเขาอยู่กับทีมต่อไปให้ได้ เพราะเชื่อว่าหากเจ้าตัวไม่เจ็บไม่ป่วยนี่จะเป็นแกนหลักของสโมสรนับจากนี้แน่นอน ประเด็นอยู่ที่ว่าเอเยนต์ของ เดมเบเล่ นั้นได้แจ้งว่าเจ้าตัวนั้นต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 20 ล้านยูโรต่อปี เรียกว่าด้วยสถานการณ์ทางการเงินที่ยังคงระส่ำของทีม ทำให้บอร์ดบริหารต้องคิดหนักแน่นอนในเรื่องนี้
ย้ายแล้วไปไหน ? : เวลานี้จากผลงานดังกล่าวเรียกว่ามีหลายสโมสรที่พร้อมดึง เดมเบเล่ ไปร่วมทัพ ทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ,ลิเวอร์พูล ,อาร์เซน่อล และ เชลซี ซึ่งโอกาสย้ายทีมในมุมมองผู้เขียน เชื่อว่ายังสุงถึง 80 เปอร์เซนต์
เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ (โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์)
หากจะพูดถึงหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน และอนาคต ชื่อของ ฮาแลนด์ จะต้องติดท็อปทรีของโลกลูกหนังอย่างแน่นอน ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์กับทัพ “เสือเหลือง” ที่ยิงประตูถล่มทลาย และเพิ่งทำสถิติทำประตูครบ 50 ลูกได้เร็วที่สุด จากการลงสนามไปเพียงแค่ 50 นัดเท่านั้น แซงหน้า ติโม โคเนียตซ์กา ซึ่งครบครึ่งร้อยลูกหลังผ่าน 67 นัด และ รอย มาคาย กับ ดีเทอร์ มุลเลอร์ ในอันดับ 3 ร่วมที่ 67 นัด
แม้ว่าสัญญาของ ฮาแลนด์ กับ ดอร์ทมุนด์ นั้นจะยังมีถึงปี 2023 แต่เขากลับมีออปชั่นที่จะสามารถย้ายไปสโมสรไหนก็ได้ในซัมเมอร์นี้ หากมีใครทุ่มซื้อไปร่วมทัพด้วยค่าตัว 70 ล้านยูโร ซึ่งค่าตัวดังกล่าวถือว่าน้อยนิดมากหากเทียบกับการยิงถล่มทลายของเจ้าตัว นั่นจึงทำให้ยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อคว้าตัวดาวยิงนอร์วีเจี้ยนไปร่วมทัพให้ได้
หากมองถึงสถานการณ์เวลานี้โอกาสที่ ฮาแลนด์ จะเปลี่ยนใจอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ นั้นแทบจะไม่มีแล้ว เนื่องจาก อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ พ่อของเขาที่ทำหน้าที่เอเยนต์ส่วนตัว ร่วมกับ มิโน ไรโอล่า เอเยนต์ชื่อดัง ได้ตระเวนไปเจรจากับหลายทีมยักษ์ใหญ่ล่วงหน้าแล้ว เพื่อตัดสินใจและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่ ลูกชายสุดที่รักจะย้ายทีมในครั้งต่อไป แต่ประเด็นสำคัญก็คือแม้ค่าตัวของเขาจะอยู่ที่ 70 ล้านยูโร ก็จริง แต่หากใครต้องการตัวจะต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 200 ล้านยูโร เลยทีเดียว แบ่งเป็นเงินกินเปล่าที่ต้องมอบให้ พ่อของเขา 25 ล้านยูโร และ ไรโอล่า อีก 25 ล้านยูโร บวกกับเงินภาษีอีก 50 ล้านยูโร ทำให้รวมทั้งสิ้น 100 ล้านยูโร บวกกับค่าเหนื่อยของ ฮาแลนด์อีก 30 ยูโรต่อปี และค่าตัว 70 ล้านยูโรนั่นเอง
ย้ายแล้วไปไหน ? : ตอนนี้มีสโมสรที่เป็นตัวเต็งนั้นมีทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถึงขนาดถอนสมอจาก แฮร์รี่ เคน เพื่อมาล็อคเป้าที่ ฮาแลนด์ อย่างจัง รวมไปถึงยังมีชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า รวมไปถึง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตามมา เรียกว่าเป็นอะไรที่ต้องติดตามกันอย่างห้ามกระพริบตาว่าสุดท้ายเขาจะย้ายไปไหนในซัมเมอร์นี้
คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
“บอกให้รู้ไว้ หัวใจรักเดียว” นี่คือหนึ่งในแข้งที่ร้องเพลงพี่ปูบ่อยที่สุดก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าท่านประธานสโมสร นาเซอร์ อัลเคไลฟี่ ประธานสโมสร เปแอสเช จะพยายามตามตื้อเขามากแค่ไหนให้อยู่ต่อ ถึงขนาดยื่นข้อเสนอให้ใส่ตัวเลขค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ได้เลยตามที่ต้องการ ด้วยสัยญาเพียง 2 ปี แต่ เอ็มบัปเป้ ก็ยังคงยืนยันว่าเขาจะไม่ต่อสัญญาค้าแข้งในถิ่น พาร์ค เดส แพรงส์ ออกไปแน่นอนแล้ว
ถึงตอนนี้ใจของ เอ็มบั๊ปเป้ นั้นไปอยู่ที่กรุงมาดริด แน่นอนแล้ว ซึ่งทางฝั่งทัพ ราชันชุดขาว นั้นก็ยพร้อมต้อนรับดาวยิงวัย 22 ปี เข้าสู่อ้อมกอดเช่นกัน และจะทำให้ฤดูกาลหน้า แนวรุกของทัพ ราชันชุดขาว จะน่ากลัวไม่แพ้ใครในยุโรปแน่นอน กับการมีทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ ,คาริม เบนเซม่า และ เอ็มบั๊ปเป้
ย้ายแล้วไปไหน ?: ตอนนี้ผู้เขียนมองไม่ออกจริงๆว่า เอ็มบั๊ปเป้ นั้นจะย้ายไปสวมเสื้อชุดสโมสรอื่นนอกจาก ชุดขาว ได้อย่างไร เพราะด้วยความมุ่งมั่นของเจ้าตัว ที่แสดงออกมามันชัดเจนมากๆแล้ว
ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เมื่อไม่กี่วันก่อน ป็อกบา เพิ่งออกมาเปิดใจว่าเขานั้นแทบไม่มีความสุขเลยกับการหวนกลับมาค้าแข้งกับทัพ ปีศาจแดง ตลอด 5 ปีหลังสุด เขานั้นไม่เคยมีความสุขกับทีมเลย จากผลงานที่ไร้ถ้วยแชมป์มาครอง ที่สำคัญคือดาวเตะตราไก่ ยอมรับว่าเวลานี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นเล่นในบทบาทอะไรกับทีม เพราะมักจะโดนโค้ชจับเปลี่ยนตำแหน่งอยู่บ่อครั้ง ต่างจากการร่วมงานกับ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ในทีมชาติฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ ป็อกบา นั้นยังกำลังชั่งใจว่าเขาจะอยู่กับ ยูไนเต็ด ต่อไป หรืออำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ แต่จากการให้สัมภาษณ์ล่าสุด เชื่อว่าเวลานี้เจ้าตัวคงถอดไป และเตรียมลาทีมอีกครั้งแล้วในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งของตัวเองในวัย 29 ปี
ย้ายแล้วไปไหน ? : สิ่งที่ ป็อกบา ต้องการในการย้ายทีมอีกครั้งนั่นก็คือการไปเพื่อคว้าแชมป์ร่วมกับทีม ซึ่งจากสโมสรที่ต้องการตัวเขานั้นต่างมีศักยภาพที่จะไปถึงจุดนั้นทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น ยูเวนตุส อดีตสโมสรเกา ,ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ยังคงทะเยอทะยานกับการล่าแชมป์ยุโรปสมัยแรก หรือ เรอัล มาดริด ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลอยู่แล้ว ก็อยู่ที่ว่าสุดท้าย ห้องเครื่องทีมชาติฝรั่งเศส จะเลือกไปที่ไหนนั่นแหละ
อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เชลซี)
ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหลังระดับโลกอย่างเต็มตัวสำหรับ รือดิเกอร์ หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมาเพิ่งคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ แชมป์สโมสรโลกกับทัพ สิงห์บูลส์ อย่างไรก็ตามถึงเวลานี้อนาคตในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเขานั้นเข้าสู่การนับถอยหลังไปแล้ว
จากตอนแรกที่มีรายงานว่า รือดิเกอร์ นั้นต้องการค่าเหนื่อยระดับเดียวกับแข้งระดับท็อปของทีมในเรท 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จนทำให้ยังไม่สามารถเจรจาสัญญากับทีมได้ จนกระทั่งเหตุการณ์ที่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรนั้นโดนยึดอำนาจหลังถูกคว่ำบาตรจากสถานการร์สงคราม รัสเซีย – ยูเครน จนต้องถูกบังคับให้ขายทีมทิ้ง พร้อมกันนี้ พรีเมียร์ลีก ยังสั่งห้ามให้สโมสรไม่สามารถซื้อขายและต่อสัญญากับนักเตะ รวมทั้งไม่สามารถขายตั๋วเข้าชมเกม และขายสินค้าที่ระลึกต่างๆได้ นั่นทำให้ รือดิเกอรื จำเป็นต้องหาสโมสรใหม่ด้วยเช่นกัน
ย้ายแล้วไปไหน? : เวลานี้มีสองทีมเต็งที่ต้องการคว้าตัว รือดิเกอร์ ไปร่วมทัพนั่นคือก็คือ ยูเวนตุส ,เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งแน่นอนว่าค่าเหนื่อยของ ดาวเตะเยอรมนี จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะได้ไปลงเอยกับทีมใดกันแน่
DaboyG
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชอบของฟรี! สื่อฟ้าขาวเผยบาร์ซ่าทาบดีบาล่าแล้ว