ในขณะที่ลีกสูงสุดทั่วยุโรปเลือกใช้กฎเปลี่ยนตัวสำรองแบบใหม่ มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อนจนถึงปัจจุบัน แต่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยังเป็นลีกเดียวที่เลือกใช้การเปลี่ยนตัวแบบเดิมอยู่
การอภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัว 5 คน ถูกพูดถึงและเรียกร้องจากผู้จัดการทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดีตั้งแต่ช่วงปีก่อน และเมื่อผ่านพ้นปี 2022 เรื่องเหล่านี้ก็ยังได้รับการพูดถึงอยู่เรื่อยๆเช่นกัน
จริงๆ พรีเมียร์ลีก ก็เคยอนุญาตให้ใช้การเปลี่ยนตัวแบบใหม่ เมื่อฤดูกาล 2019-20 หลังจากหลุดพักการแข่งไปนาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
แต่ในฤดูกาล 2020-21 สโมสรส่วนใหญ่โหวตค้านการเปลี่ยนตัวแบบใหม่ แม้คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ IFAB ไฟเขียวให้ทุกลีกสามารถนำไปใช้ได้ในช่วงที่ไวรัสร้ายยังแพร่ระบาดอยู่ และยังต้องมีหลายเกมเลื่อนแข่งไป
เหตุผลหลักๆที่พวกเขาไม่เลือกใช้กฎใหม่นี้ เพราะมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทีมใหญ่ในลีกมากกว่า เพียงแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ? UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ผ่านบทความนี้กัน
ประเด็นเก่าถูกเล่าใหม่
การเปลี่ยนตัวแบบใหม่คือสิ่งที่บรรดากุนซือส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีก พยายามเรียกร้องให้เบื้องบนเปลี่ยนมาใช้อีกครั้ง เนื่องด้วยการเปลี่ยนสำรองแค่ 3 คนในช่วงที่โควิดยังไม่หายไปไหน อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
โดยเรื่องนี้ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง ในช่วงที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ซึ่งฝั่ง ‘หงส์แดง’ มีการเปลี่ยนตัวถึง 4 คน และการส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเป็นสำรองที่ 4 ในซาน ซีโร่ พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งนี้มีความสำคัญต่อการรักษาผลสกอร์นี้
และนั่นนำไปสู่บทความหลายเรื่องที่โต้เถียงว่าการอนุญาตให้ตัวสำรอง 5 คนในพรีเมียร์ลีกจะเอื้อประโยชน์ให้ทีมที่ใหญ่กว่าเช่น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี ซึ่งมีคุณภาพบนม้านั่งมากกว่าทีมระดับกลางหรือเล็กในลีก
อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ผู้เป็นอีกคนที่อยากให้ลีกเปลี่ยนไปใช้กฎเปลี่ยนตัวแบบใหม่เรื่อยมา ก็ออกมาค้านเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวสุดๆ
“มันไม่จริงเลยซักนิดที่ช่วยทำให้เราได้เปรียบ ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ายังมีการถกเถียงเรื่องแบบนี้อยู่อีก” กุนซือชาวเยอรมัน กล่าว
“มันมีเหตุผลว่าทำให้ประเทศนี้ยังไม่เปลี่ยนตัวได้ 5 คน แต่มันไม่ได้ช่วยให้ บาเยิร์น ทำแต้มทิ้งห่าง 20 คะแนนเหนือทีมอื่นๆ หรือในอิตาลี ทีมที่ดีกว่าทำแต้มนำโด่งรวดเดียวจบ พวกเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น มันคือการแข่งขันที่อึดอัดมาก ผมไม่เห็นว่ามันจะช่วยเราได้(เปรียบ)ยังไงเลย”
ลีกไหนใช้กฎเปลี่ยนตัว 5 คน
คำถามที่ดีกว่าคงจะเป็นลีกจากประเทศไหนบ้างไม่ใช้กฎนี้ ซึ่ง คล็อปป์ ก็พูดถูก เมื่อเขากล่าวว่า “มีประเทศมากมายทั่วโลก” ในตอนนี้ที่ใช้การเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คน
ลีกใหญ่ที่เหลือในยุโรป ทั้ง บุนเดสลีก้า เยอรมัน, ลาลีก้า สเปน, ลีกเอิง ฝรั่งเศส และ เซเรียอา อิตาลี ต่างนำการเปลี่ยนตัวแบบใหม่ที่ IFAB อนุญาตมาใช้กันต่อไปหลังปี 2020
และไม่ใช่แค่ลีกสูงสุดของประเทศต่างๆนำไปใช้เท่านั้น เพราะลีกรองในยุโรปก็นำไปใช้ในการแข่งขันของพวกเขาเองเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นลีกรองของ สเปน, เยอรมัน, อิตาลี และ ฝรั่งเศส ก็นำไปใช้ทั้งหมด ยังรวมไปถึงลีกอื่นๆในยุโรป อาทิเช่น เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์, จูปิแอร์ ลีก เบลเยี่ยม หรือ ซูเปอร์ลีก ตุรกี
เปลี่ยนตัวแบบใหม่ทำให้ลีกแข่งขันกันน้อยลง?
กุนซือไม่น้อยในพรีเมียร์ลีกมักกล่าวอ้างว่าการเปลี่ยนตัวแบบนี้ทำให้ทีมใหญ่ๆได้เปรียบ แต่ความจริงแล้วพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะจริงๆแล้ว การเปลี่ยนตัวได้ 5 คนกลับช่วยให้ทีมที่ขนาดรองลงมาได้ประโยชน์เช่นกัน
ใน เซเรียอา อิตาลี ยูเวนตุส ยุติการคว้าแชมป์ลีกติดต่อกันไว้ที่ 9 ปี เมื่อถูก อินเตอร์ มิลาน ผงาดขึ้นมาโค่นความเป็นเบอร์หนึ่งในลีกเลี่ยน
ขณะที่ในลาลีก้า สเปน แอตเลติโก้ มาดริด คว้าแชมป์ลีกได้ครั้งแรกในรอบ 7 ปี และที่น่าจดจำที่สุดคือการที่ ลีลล์ ก็เบียด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้ในฤดูกาล 2020-21
ในฤดูกาลนี้ ทุกอย่างก็ดูจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้ง เปแอสเช ที่ครองจ่าฝูงลีกแดนน้ำหอมแบบเหนียวแน่น เช่นเดียวกับ บาเยิร์น ในเยอรมัน และก็ไม่ได้แตกต่างกันในลีกดังอื่นๆ
เรอัล มาดริด พยายามกลับมาทวงบัลลังก์ในลีกกระทิงอีกครั้ง โดยมี เซบีย่า ไล่เบียดมาเป็นอันดับ 2 แม้จะไม่เคยคว้าแชมป์ลีกได้เลยนับตั้งแต่ปี 1946
ส่วน อิตาลี น่าจะเป็นลีกที่มีการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันตื่นเต้นเร้าใจที่สุด พอๆกับในพรีเมียร์ลีก เมื่อมีทั้ง เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และ นาโปลี ไล่จี้เบียดกันมา ส่วน ยูเวนตุส ที่แม้มีปัญหาด้านการเงินก็ยังเป็นสโมสรที่รวยที่สุดในประเทศ ซึ่งกำลังรั้งอันดับ 4
ใครในพรีเมียร์ลีกหนุนเปลี่ยนตัวแบบใหม่?
ก็ไม่ผิดนัก หากบอกว่าทีมใหญ่ๆเป็นผู้นำในการเรียกร้องให้พรีเมียร์ลีกมีการเปลี่ยนแปลงกับการเปลี่ยนตัวสำรองแบบใหม่
นอกเหนือจาก คล็อปป์ แล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังลุ้นแชมป์ลีกกับ ลิเวอร์พูล ก็เคยออกมาพูดถึงประเด็นนี้หลายต่อหลายครั้ง
“เราต้องการปกป้องผู้เล่น เพราะฉะนั้นนำการเปลี่ยนตัว 5 คนมาใช้เถอะ” กุนซือ ‘เรือใบสีฟ้า’ เคยกล่าวไว้ในเดือนธันวาคมปีก่อน ในช่วงที่หลายเกมถูกเลื่อนไปเพราะโควิด
“มันดีกว่ามากสำหรับจำนวนเกมที่มี แต่พรีเมียร์ลีกและสโมสรกลับตัดสินใจว่า ‘ไม่’”
แม้เพิ่งเข้ามาใหม่ แต่ ราล์ฟ รังนิค กุนซือขัดตาทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เห็นพ้องในเรื่องนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่า “มันจะช่วยเหลือได้มากเลยถ้ามีการเปลี่ยนตัว 5 คน ผมคิดว่าเราควรคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกครั้งนะ”
มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ก็เป็นอีกคนที่ต้องการการเปลี่ยนตัวแบบใหม่ และไม่เข้าใจว่าทำไมอังกฤษจึงไม่นำกฎนี้มาใช้ในการแข่งขันของพวกเขาอีก
และไม่ใช่เพียงแต่กุนซือของทีม ‘บิ๊กซิกซ์’ เท่านั้นที่อยากให้ลีกไฟเขียวเรื่องการเปลี่ยนตัวแบบนี้ เพราะ เกรแฮม พอตเตอร์ นายใหญ่ ไบรท์ตัน ก็มองว่าเรื่องนี้ควรได้รับการพิจารณาอีกครั้ง หลังหลายทีมได้รับผลกระทบจากโควิด พร้อมย้ำว่าสิ่งนี้เป็นการพิจารณาที่สมเหตุสมผลแล้ว
เช่นเดียวกับ เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์แฮม ที่เคยโหวตคัดค้าน แต่ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 เขาก็เผยว่าตนเองต้องเปลี่ยนใจกับเรื่องนี้ และอยากให้การเปลี่ยนตัว 5 รายกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
แล้วใครไม่เห็นด้วย?
แม้มีเสียงประท้วงออกมาให้เห็นจาก คล็อปป์, กวาร์ดิโอล่า, อาร์เตต้า หรือ รังนิค ในเห็นในช่วงที่ผ่านมา แต่ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ยังเลือกใช้การเปลี่ยนตัวแค่ 3 คน ก็ทำให้ทีมทั้งหมดต้องใช้กฎเดิมต่อไป ไม่ว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
และก็มีกุนซือไม่น้อยเช่นกันที่ออกมาคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คน
ยกตัวอย่างเช่น ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีม เบิร์นลี่ย์ ที่กำลังพาทีมหนีตายอยู่ในฤดูกาลนี้ ก็แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา แม้มียอดผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ในระดับสูงก็ตาม
“นี่ทำให้ทีมใหญ่ๆได้เปรียบชัดๆเลย เพราะพวกเขาช่วยให้ผู้เล่นมีความสุขมากขึ้น ด้วยการมีส่วนร่วมกับเกมโดยการเปลี่ยนตัวได้มากขึ้น” นายใหญ่ เดอะ คลาเร็ตส์ กล่าวไว้ในเดือนกรกฎาคม ปี 2020
รวมไปถึง ดีน สมิธ กุนซือ นอริช ปัจจุบัน ก็เคยไม่เห็นด้วยการกฎเปลี่ยนตัวใหม่ในปี 2020 สมัยคุม แอสตัน วิลล่า โดยกล่าวว่า “มันช่วยสโมสรที่มีขนาดทีมใหญ่กว่า”
เดือนธันวาคม กระแสการเปลี่ยนตัว 5 คนถูกเรียกร้องให้กลับมาใช้อีกครั้ง แต่ ณ เวลานี้ ลีกอังกฤษ ก็ยังไม่มีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้เพิ่มเติมอย่างเป็นทางการ
แต่อย่างน้อยช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากที่หลายคนประสบพบเจอในลีกต่างๆทั่วยุโรป ก็พอจะพูดได้ว่าการเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คน ก็ประโยชน์ให้กับทุกสโมสร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดยังแพร่ระบาดกันทั่วโลก และยังไม่มีท่าทีว่าจะหายไปในเร็วๆนี้
และที่สำคัญสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้สโมสรใหญ่ๆทั้งหลายได้เปรียบจนทีมระดับรองลงมาไม่สามารถต่อกรหรือไร้ทางสู้แต่อย่างใด
บทความที่เกี่ยวข้อง
