ฮุสเซน ยาสเซอร์ : ดาวรุ่งกาตาร์ผู้ล้มเหลวในแมนเชสเตอร์

มีนักเตะไม่กี่คนที่เคยย้ายข้ามฟากและค้าแข้งให้กับ 2 สโมสรในเมืองแมนเชสเตอร์ อาทิเช่น แอนดี้ โคล, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, คาร์ลอส เตเบซ หรือ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ แต่เชื่อว่าคงมีนักเตะอีกคนในช่วงต้นปี 2000 ที่หลายคนหลงลืมไปว่าเคยอยู่ ยูไนเต็ด และ ซิตี้ ด้วย นั่นก็คือ ฮุสเซน ยาสเซอร์

ครั้งหนึ่ง เขาเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในวงการฟุตบอลของกาตาร์ จนได้ย้ายไปร่วมทีมปีศาจแดงของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 2002 แต่อยู่กับทีมจนถึงปี 2004 ก่อนที่อีกปีต่อมา เขาจะย้ายไปเล่นกับ เรือใบสีฟ้า ที่มี สจ๊วร์ต เพียร์ซ กุมบังเหียนอยู่

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นทีมไหน กองกลางชาวกาตาร์ก็ไม่สามารถแจ้งเกิดได้เลย และ UFA ARENA จะพาไปย้อนระลึกถึงช่วงเวลาสุดล้มเหลวของ ยาสเซอร์ ในแมนเชสเตอร์ ผ่านบทความชิ้นนี้

 

ยิ่งกว่าความฝัน

ย้อนกลับไปในปี 2002 ฮุสเซน ยาสเซอร์ วัย 18 ปี กำลังเล่นกับ อัล เรย์ยาน ในลีกกาตาร์ ซึ่งในขณะนั้นเขาติดทีมชาติชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว และต่อมาเขากลับได้หนึ่งในสิ่งที่ดาวรุ่งทั่วโลกเฝ้าฝันกันมากที่สุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรเบอร์ต้นๆในอังกฤษ ให้ความสนใจในตัว ยาสเซอร์ หลังจากทุ่มทุนคว้า ริโอ เฟอร์ดินานด์ มาจากลีดส์ ยูไนเต็ด

ความฝันกลายเป็นความจริงทันที เมื่อ ‘ปีศาจแดง’ และ อัล เรย์ยาน จัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อย และยาสเซอร์ก็พร้อมจะสวมเสื้อสีแดงตัวเก่งในศึกพรีเมียร์ลีกด้วยเช่นกัน

โชคไม่ดีสำหรับ ยาสเซอร์ ที่เสื้อตัวนั้นไม่ใช่ของ ยูไนเต็ด แต่เป็นชุดแข่งของ รอยัล อันท์เวิร์ป ต่างหาก

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะกองกลางหนุ่มจากกาตาร์ ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานในสหราชอาณาจักรได้ ทำให้ยูไนเต็ดต้องส่งเขาให้กับสโมสรพันธมิตรยืมไปใช้งาน ซึ่งเป็นที่ที่เขาเล่นได้ทันที แถมยังได้รับรองเป็นพลเมืองในเบลเยี่ยมอีกด้วย

แม้จะไม่ใช่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่นี่ก็เป็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้นในยุโรปของ ยาสเซอร์ จริงๆ

 

ฉายแววเล็กๆในยุโรป

ยาสเซอร์ได้ลงเล่นนัดแรกในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา

ในวันที่ 28 กันยายน อันท์เวิร์ป ที่รั้งอันดับ 7 ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ คลับ บรูช ทีมจ่าฝูง โดยยาสเซอร์ได้มีชื่อเป็น 11 ตัวจริง

แค่เพียง 9 นาที ดาวรุ่งแดนกาตาร์ก็เบิกสกอร์แรกในเกมได้ ด้วยการสะกิดบอลข้ามแผงหลังคู่แข่ง และซัดเข้าไปเป็นประตูตีเสมอให้ทีม 2-2

ทว่า ยาสเซอร์ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงก็ถูกไล่ออกในหลายเกมถัดมา และไม่สามารถทำประตูในลีกได้อีกเลยตลอดฤดูกาล 2002-03 โดยลงเล่นไป 21 นัด และทีมจบที่อันดับ 12 ในปีนั้น

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต้นสังกัดแม่อย่าง ยูไนเต็ด ก็น่าจะพอใจกับพัฒนาการของดาวรุ่งรายนี้ไม่มากก็น้อย

 

พัฒนาการถอยหลัง

ในฤดูกาล 2003-04 ยาสเซอร์ ก็ยังปักหลักค้าแข้งในเบลเยี่ยมต่อไป และครั้งนี้เขาได้พาแข้ง ‘ปีศาจแดง’ ในชุดสำรองกว่าครึ่งทีมย้ายมาเล่นที่นี่ด้วยกัน

ฟิล บาร์ดสลี่ย์, ตง ฟางโจว, เดวิด ฟ็อกซ์, อาเธอร์ โกเมซ, โคลิน ฮีธ, เอ็ดดี้ จอห์นสัน และ ซูเลย์มาน มามาม  ทั้งหมดได้ย้ายมาเล่นกับ อันท์เวิร์ป แบบยืมตัว ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนั้นมีทั้งเรื่อง เวิร์คเพอร์มิตไม่ผ่าน และยังไม่ดีพอในทีมชุดใหญ่

“เราไม่เคยมีนักเตะ (ยูไนเต็ด)  เข้ามาเกี่ยวในทีมเยอะขนาดนี้ และมันจะเป็นไปด้วยดีแน่นอน” พอล บิสตูซ์ เลขาธิการทั่วไปของ อันท์เวิร์ป กล่าว  ณ ตอนนั้น

แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย

ฤดูกาลใหม่ได้เริ่มขึ้นระหว่าง อันท์เวิร์ป ที่มี ฮุสเซน ยาสเซอร์ ที่บุกไปเยือน อันเดอร์เลชท์ ทีมดังในเบลเยี่ยม ที่ยังมีแวงซองต์ กอมปานี อยู่ในทีม

แม้ว่า กองกลางชาวกาตาร์จะทำแอสซิสต์ในเกมนั้นได้ แต่ว่าที่กองหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้วัย 17 ปี ก็พาทีมของเขาเอาชนะไปได้ท่วมท้น 3-1

เรื่องราวยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่สำหรับ อันท์เวิร์ป เมื่อ บาร์ดสลี่ย์ โดนไล่ออกตั้งแต่เกมแรกที่ลงเล่นเป็นตัวจริง และทีมก็ไม่ชนะใครเลยจากการลงสนามของเขา 6 นัด

ยาสเซอร์ ช่วยให้ทีมชนะนัดเดียวในฤดูกาล 2003-04 แต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมย่ำแย่มาก ทำให้เวลาของเขาที่นั่นจบลงก่อนคริสมาสต์ และเกมสุดท้ายของเขากับ อันท์เวิร์ปในวันที่ 20 ธันวาคมปี 2003 ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่จบครึ่งแรกด้วยซ้ำ

 

อีกครั้งในแมนเชสเตอร์

ยาสเซอร์ ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าแกร่งพอที่จะต่อสู้แย่งตำแหน่งกับ ไรอัน กิ๊กส์ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ ทำให้เขาย้ายไปเล่นในลีก ไซปรัส แบบเงียบๆในฤดูกาลช่วงเปิดฤดูกาล 2004-05 และยิง 4 ประตูให้ ลิมาสซอล ก่อนจะย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ อัล ซาดด์

หมายความว่าการผจญภัยในยุโรปของเขาสิ้นสุดลงแล้วหรือ?

ในซัมเมอร์ปี 2005 อาลี เบนาร์เบีย กองกลางชาวแอลจีเรีย และตำนานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ย้ายมาเล่นในกาตาร์ ได้เห็นฝีเท้าของ ยาสเซอร์ แบบเต็มตา

นั่นทำให้ เบนาร์เบีย แนะนำแข้งดาวรุ่งคนนี้ให้กับ สจ๊วร์ต เพียร์ซ อดีตเพื่อนร่วมทีมใน’เรือใบสีฟ้า’ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมซิตี้อยู่ 

คำแนะนำของเขาคือ ให้คว้า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในวัย 34 ปีที่ค้าแข้งใน กาตาร์ สตาร์ ลีก 2 ปี ไปร่วมทีม และ ยาสเซอร์ ด้วย ถ้าต้องการ ซึ่งเพียร์ซ ก็ยื่นข้อเสนอทดสอบฝีเท้าให้กับทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เลือกมอบสัญญาให้กับ ยาสเซอร์ และเมินแข้งระดับตำนานอย่าง กวาร์ดิโอล่า แทน

ทางด้าน แอนดี้ โคล ที่ย้ายมาร่วมทีมซิตี้ในซัมเมอร์เดียวกัน ก็มองว่าการเมินคว้า กวาร์ดิโอล่าของ เพียร์ซ เป็นการตัดสินใจที่แปลกสิ้นดี

 

นัดแรกและนัดสุดท้าย

ชีวิตของ ฮุสเซน ยาสเซอร์ ในซิตี้ ดูดีกว่าที่ ยูไนเต็ด พอสมควร เพราะอย่างน้อยที่นี่เขาก็มีเบอร์เสื้อเป็นของตัวเอง

“ผมได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนๆซิตี้ ดังนั้นผมหวังว่าจะเริ่มต้นอาชีพกับซิตี้ได้เป็นอย่างดี” เขากล่าวด้วยตวามตื่นเต้น

ณ วันที่ 21 กันยายนปี 2005 เบอร์ 20 คนใหม่ของทีมได้ลงเล่นเกมแรกในฟุตบอลอังกฤษ โดยพบกับ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 2

 สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ เป็นนักเตะอีกคนที่ประเดิมสนามนัดแรกให้กับทีม และได้ลงเล่นมากกว่า 175 นัดในเวลาต่อมา แต่สำหรับ ยาสเซอร์ นั่นคือนัดแรกและนัดสุดท้ายของเขาในซิตี้

จริงๆ เขาไม่ใช่นักเตะที่แย่ที่สุดของแมนซิตี้ และเขาเกือบทำประตูได้ในเกมนั้นด้วย ่ก่อนที่จะถูก เพียร์ซ เปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 65 และมองดูทีมตกรอบด้วยการพ่ายช่วงดวลจุดโทษ

นับตั้งแต่นั้น ยาสเซอร์ ก็ไม่ได้ลงเล่นให้ทีมอีกเลย ไม่ว่าจะรายการไหนๆ ก่อนถูกปล่อยตัวในเดือนมกราคม 

 

สร้างประวัติศาสตร์

ขณะที่การย้ายมาร่วมทีมดังในแมนเชสเตอร์ อาจเป็นเหมือนช่วงเวลาสำคัญและโดดเด่นที่สุดในอาชีพค้าแข้ง แต่สำหรับ ยาสเซอร์ เขาเป็นอีกแข้งที่ถูกลืมในลีกแดนผู้ดีเท่านั้น

หลังถูกปล่อยตัว กองกลางหนุ่มย้ายกลับไปเล่นกับ อัล เรย์ยาน สโมสรเก่าหนึ่งฤดูกาล แต่ในปี 2007 เขาก็ย้ายกลับมาเล่นในยุโรปเป็นหนที่ 3 กับ สปอร์ติ้ง บราก้า ทีมดังจากโปรตุเกส และจารึกชื่อกลายเป็นแข้งชาวกาตาร์คนแรกที่เล่นในศึกยูฟ่า คัพ

มากไปกว่านั้นในเกมที่พบกับ ฮาร์มาร์บี้ เขายังทำประตู และทำ 2 แอสซิสต์ด้วย หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง

น่าแปลกที่ ยาสเซอร์ ลาบราก้า ทั้งๆที่เล่นได้เพียงครึ่งฤดูกาล เพื่อย้ายไปอยู่กับ โบวิสต้า อีกทีมในแดนฝอยทอง

 

จอมพเนจร

นับตั้งแต่นั้น ยาสเซอร์ ก็กลายเป็นนักเตะจอมพเนจรอย่างสมบูรณ์แบบ และวนเวียนค้าแข้งในช่วงท้ายๆของอาชีพกับสโมสรใน กาตาร์, เบลเยี่ยม และ อียิปต์ ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2018

เขาเป็นทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และเหยื่อของคนในวงการฟุตบอลที่มักจะเสนอความคิดเห็นสุดล้ำให้กับเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นๆตลอดเวลา

เรเน่ มูเลนสตีน ผู้เคยคุมทีมกาตาร์ชุดยู 18 ก่อนย้ายมาทำงานในทีมชุดเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นคนสำคัญในการพา ยาสเซอร์ ย้ายมาอยู่กับ ‘ปีศาจแดง’

หลังจากนั้น คำแนะนำของ เบอร์นาเบีย ก็ทำให้ยาสเซอร์ ย้ายมาซบแมนเชสเตอร์ ซิตี้  ขณะที่ ชูเอา โทมัส แข้งทีมชาติโปรตุเกส ก็ช่วยเหลือให้เขาย้ายจาก อัล เรย์ยาน มาร่วมทีมบราก้าได้ในปี 2007

โอกาสเหล่านั้นชัดเจนว่ามันยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ใครจะปฏิเสธได้ เพียงแต่คงไม่ใช่การย้ายทีมแบบถูกที่ถูกเวลาซักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่าเขาจะล้มเหลวกับทั้ง ยูไนเต็ด และ ซิตี้ แต่เชื่อว่า ฮุสเซน ยาสเซอร์จะไม่เสียใจกับเส้นทางอาชีพค้าแข้งที่แหวกแนวไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง