ฟุตบอลเอฟเอคัพ ถือเป็นรายการที่ได้รับความสนใจจากมหาชนแดนผู้ดีอย่างมหาศาล เป็นฟุตบอลที่เปิดให้ทีมจากทุกระดับมีสิทธิเข้าร่วม และนั่นเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับรายการที่ทีมเล็กได้มาเจอกับทีมใหญ่ จนทำให้เกิดเกมพลิกล็อคมาเซอร์ไพรส์แฟนบอลอยู่เสมอ
วันนี้ UFAARENA จะพาไปทำความรู้จักกับฟุตบอลถ้วยชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ กับมนต์เสน่ห์ที่แฟนบอลต่างให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม กับ เอฟเอคัพ มนต์เสน่ห์แห่งบอลถ้วยแดนผู้ดี
รายการฟุตบอลที่เก่าแก่สุดในโลก
เอฟเอคัพ หรือชื่อเต็มคือ The Football Association Challenge Cup ถือเป็นรายการแข่งขันฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ลงสนามฟาดแข้งกันมาตั้งแต่ปี 1871 ก่อนฟุตบอลลีกทุกประเทศจะเริ่มรวมตัวกันเตะเลยด้วยซ้ำ โดยแรกเริ่มเดิมที่ฟุตบอลถูกจัดเตะกันเพื่อกระชับมิตรกันในท้องถิ่น ด้วยการกำกับดูแลของทางสมาคมฟุตบอลที่ถูกตั้งขึ้นมา จนกระทั้ง ชาลส์ อัลค็อก เลขาธิการสมาคมได้ยื่นเรื่องจัดแข่งฟุตบอลแบบทัวร์นาเมนต์ขึ้น ซึ่งก็คือเอฟเอคัพนี้เอง
โดยในครั้งแรกมีทีมที่อยู่ภายใต้สมาคมฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งทั้งหมด 15 ทีม และเป็นการแข่งแบบแพ้คัดออก ซึ่งทีมแรกที่ได้ชูถ้วยนั่นคือ ทีมวันเดอร์เรอร์ส ที่เฉือนเอาชนะ ทีมรอยัล เอ็นจิเนียร์ส ไปได้ด้วยสกอร์ 1 – 0 น่าเสียดายที่ถ้วยรางวัลออริจินอลใบแรกที่ถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ จะถูกขโมยไปในปี 1895 ทำให้ทางสมาคมต้องสร้างถ้วยใบใหม่ขึ้นมา กลายเป็นว่าถ้วยรางวัลที่เก่าแก่ที่สุดตกไปเป็นของ สก็อตติชคัพ ที่มีมาตั้งแต่ปี 1874 แต่ก็ไม่ได้ลบล้างความจริงที่ เอฟเอคัพ เป็นรายการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ดี
ภายหลังจากที่ถ้วยใบแรกถูกขโมยไป ทางแอสตัน วิลล่าที่เป็นผู้ถือครองถ้วยในเวลานั้นก็โดนปรับไป 25 ปอนด์ ส่วนคนร้ายที่ขโมยก็ไม่สามารถจับได้ แต่ในปี 1950 มีคนที่ออกมาอ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขโมยถ้วยใบดังกล่าว เปิดเผยว่าได้เอาถ้วยไปหลอมทำเป็นเหรียญเงินปลอม แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม
เปิดโอกาสให้ทีมทุกระดับ
นอกจากจะเป็นการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นรายการที่เปิดโอกาสให้ทีมในทุกระดับของระบบฟุตบอลอังกฤษทั้งหมด 124 ทีมประกอบด้วย 92 ทีมจากฟุตบอลลีก พรีเมียร์ลีก 20 ทีม และ 72 ทีมจาก แชมเปี้ยนส์ชิพ , ลีกวัน และลีกทู รวมกับ 32 ทีมจาก 637 ทีมในระบบเนชั่นส์ลีก(ดิวิชั่น 5-10) ที่จะคัดกันจากรอบคัดเลือก
ก่อนที่ในรอบน็อคเอ้าท์จะคัดจาก 124 ทีมเหลือ 84 ทีมซึ่งทีมจากลีกวันและลีกทูจะเข้าร่วมในรอบแรกนี้ ส่วนทีมจากพรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ชิพ จะโดดมาร่วมวงในรอบที่สาม ซึ่งด้วยปัจจัยทั้งหมดทำให้ถ้วยใบนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจทั้งการพลิกล็อคของทีมเล็กที่สามารถเอาชนะทีมใหญ่ได้ อย่างล่าสุดที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมจากแชมเปี้ยนส์ชิพ เอาชนะจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีกได้ด้วยการดวลจุดโทษ
หรือจะเป็นการแจ้งเกิดของนักเตะโนเนมจากทีมเล็กๆอย่าง อารอน แรมซี่ย์ กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ หรือจะเป็นดาวรุ่งจากทีมใหญ่ที่ได้โอกาสลงสนามในรายการนี้ แถมยังมีนักเตะไทยอย่าง ภัทรพล คำสุข ที่เคยอยู่กับ ไฮด์ ยูไนเต็ด ในลีกระดับ ดิวิชั่น 8 ของอังกฤษได้โอกาสลงเล่นบนเวทีเอฟเอคัพ ในฐานะตัวจริงด้วย แม้ว่าในเกมดังกล่าวพวกเขาจะแพ้ให้กับ เอ็มเค ดอนส์ ไปถึง 4-0 ก็ตาม
เหตุการณ์ล้มยักษ์บ่อยจนมีรางวัลให้
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว การที่เอฟเอคัพเปิดโอกาสให้ทีมตั้งแต่ระดับ ดิวิชั่น 10 มาจนถึงระดับสูงสุดของลีกแดนผู้ดี ทำให้บรรดาทีมเล็กๆได้โอกาสมาประชันฝีเท้ากับทีมระดับบนๆของลีก แต่เมื่อฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ บวกกับปัจจัยที่บรรดาทีมใหญ่มักจะใช้เวทีบอลถ้วยในการส่งแข้งสำรองลงวาดลวดลาย ก็มักจะมีเกมที่พลิกล็อคแบบแจ็คผู้ฆ่ายักษ์อยู่บ่อยครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ของรายการนี้
เหตุการณ์ที่ทีมเล็กเขี่ยทีมใหญ่ตกรอบเกิดขึ้นบ่อยจนถึงขั้นที่มีการแจกรางวัลในทุกปีนับตั้งแต่ปี 2010 โดยใช้ชื่อว่า Ronnie Radford Giant-Killer Award ซึ่งตั้งตามชื่อของ รอนนี่ แรดฟอร์ด กองหน้าของ เฮเรฟอร์ด ทีมระดับดิวิชั่น 8 ที่เป็นผู้ยิงประตูชัยใส่ นิวคาสเซิ่ล ที่อยู่ในระดับ พรีเมียร์ลีก พาทีมชนะไปได้ 2-1 ในเกมเอฟเอคัพฤดูกาล 1971/72
แถมถ้าหากนับแค่ในฤดูกาลปัจจุบัน ก็มีเกมล้มยักษ์ไปแล้วถึง 3 เกมไล่มาตั้งแต่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เอาชนะ อาร์เซน่อลไป 1-0 ในเกมรอบสาม , มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่เอาชนะจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 8-7 และ ฟอเรสต์ เจ้าเก่าที่เพิ่งไล่ถลุง เลสเตอร์ ซิตี้ไป 4-1 ในเกมรอบ 4
นอกจากนี้ยังมีเกมที่บรรดาทีมลีกล่าง ไล่บี้ทีมระดับพรีเมียร์ลีกจนลิ้นห้อยแม้จะไม่สามารถเอาชนะได้ก็ตามอย่างเกมที่ เชลซี ไล่พลิกเอาชนะ พลีมัท ทีมจากลีกทูไปด้วยสกอร์ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และ เวสต์แฮม ที่ต้องไล่ตีเสมอ คิดเดอร์มินสเตอร์ แฮริเออร์ ทีมจากดิวิชั่น 6 ก่อนเฉือนเอาชนะไปในช่วงต่อเวลาด้วยสกอร์ 2-1
สังเวียนนัดชิงอันศักดิ์สิทธิ์
อีกหนึ่งเสน่ห์ของรายการเอฟเอคัพ นั่นคือสังเวียนนัดชิงที่ชื่อว่า “เวมบลีย์” ซึ่งถือเป็นสนามที่ขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ และเป็นอันดับ 7 ของโลกที่ความจุปัจจุบันอยู่ที่ 90,000 ที่นั่ง รวมถึงสนามแห่งนี้ยังเป็นรังเหย้าของทีมชาติอังกฤษอีกด้วย ถือเป็นสนามกีฬาแห่งชาติที่จัดการแข่งขันกีฬาทั้งฟุตบอล รวมถึงกีฬาโอลิมปิกก็เคยผ่านการจัดมาแล้ว
ย้อนไปก่อนที่สนามแห่งนี้จะถูกปรับปรุง สังเวียนดั้งเดิมถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1923 เคยถูกบันทึกสถิติเกมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดถึง 126,047 คนซึ่งเป็นเกมนัดชิงปี 1923 คู่ระหว่าง โบลตัน พบกับ เวสต์แฮม โดยสนามดั้งเดิมแห่งนี้ถูกทุบทิ้งในปี 2002 และเริ่มสร้างสนามใหม่ในปี 2003 ก่อนที่จะแล้วเสร็จในปี 2007 แม้จะมีจำนวนที่นั่งที่ลดลง แต่ก็ยังถือเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษอยู่ดี และได้เปิดใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความสำคัญในระดับชาติ ประวัติอันยาวนาน และความยิ่งใหญ่ของสนาม ทำให้ไม่ว่าใครที่ค้าแข้งอยู่ในแดนผู้ดีต่างก็อยากที่จะเข้ามาลงฟาดแข้งที่แห่งนี้สักครั้ง ส่วนแฟนบอลเองก็อยากเห็นทีมรักเข้ามาวาดลวดลายบนฟลอร์หญ้าสุดคลังแห่งนี้เช่นกัน
ตั๋วสู่เวทียุโรป
นับตั้งแต่ที่เอฟเอคัพตั้งมาเกือบ 1 ศตวรรษโลกลูกหนังในทวีปยุโรปก็เริ่มมีการรวมตัวกันมาเตะในรายการ ยูโรเปียนคัพ หรือที่รู้จักกันในปัจจุบันว่า แชมเปี้ยนส์ลีก นอกจากนี้ยังมีอีกถ้วยอย่าง ยูฟ่า คัพวินเนอร์สคัพ ที่เป็นการรวมแชมป์บอลถ้วยในแต่ละประเทศมาเตะกัน ซึ่งสำหรับอังกฤษ ก็คือเอฟเอคัพ
แน่นอนว่าไม่เคยมีทีมจากลีกล่างที่สามารถทะลุเข้าไปเล่นในรายการนี้ แต่ก็เป็นโอกาสของบรรดาทีมกลางตารางที่ไม่ได้ไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกได้เข้ามาลุย และมีโอกาสได้คว้าแชมป์ประดับตู้ อย่าง เวสต์แฮมในปี 1964/65 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังเป็นทีมกลางตารางในปี 1969/70 ก่อนที่ถ้วยนี้จะถูกยุบรวมกับ ยูฟ่าคัพ ในปี 1999 แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูโรป้าลีกในปัจจุบัน
ส่วนกับเอฟเอคัพ หลังจากที่ไม่มีรายการคัพวินเนอร์สคัพแล้ว แชมป์จากรายการนี้ก็ถูกจัดให้ไปเล่นบนเวที ยูโรป้าลีกแทน แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วสัมปทานแชมป์เอฟเอ จะตกไปอยู่กับพวกบรรดาทีมใหญ่หัวตาราง แต่ก็เคยมีทีมอย่าง พอร์ทสมัธ ที่คว้าแชมป์ไปในปี 2007/08 และ วีแกน แอธเลนติก ที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้แบบเหนือความคาดหมายในปี 2012/13
แม้ว่าเส้นทางของทั้งสองทีมบนเวทียุโรปในฤดูกาลถัดมาจะจบไม่สวยนักก็ตาม แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในโลกรายการนี้ เป็นเวทีแห่งโอกาส ทั้งกับนักเตะจากทีมเล็กๆได้โชว์ผลงาน และสโมสรที่แทบไม่ได้มีลุ้นถ้วยรางวัลอะไรได้ขึ้นมาชูถ้วยกับเขาบ้าง รวมถึงกับแฟนบอล ที่จะได้ดูเกมที่พร้อมเซอร์ไพรส์ได้ทุกคู่