ดีแย่ปนกัน : เช็กผลงาน 8 แข้งปืนใหญ่ย้ายซบบาร์ซ่า

และแล้ว ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก็กลายเป็นอดีตกับ อาร์เซน่อล เรียบร้อย หลังเจ้าตัวทำการยกเลิกสัญญาเพื่อย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัวในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา

ดาวยิงทีมชาติกาบอง ถือเป็นนักเตะคนที่ 9 ของ ‘ปืนใหญ่’ ที่ย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์ซ่า โดยตรง แต่การย้ายทีมลักษณะนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับทีม โดยเฉพาะในยุคที่ อาร์เซน เวนเกอร์ ยังกุมบังเหียนอยู่

ไม่แปลกก็เช่นกันที่เหล่า ‘กูนเนอร์ส’ จะไม่ชอบจากยอดทีมจากแคว้นกาตาลุนย่านัก เพราะนอกจากจะแพ้ทางพ่ายให้ตลอดในการดวลกันแต่ละครั้ง สโมสรจากลอนดอน ยังเสียสตาร์ดังที่เป็นแกนหลักให้ ‘อาซูลกราน่า’ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 8 แข้ง อาร์เซน่อล ก่อนหน้า โอบาเมยอง ที่ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน 

 

เอ็มมานูเอล เปอตีต์

หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1997-98 คือการคว้า เอ็มมานูเอล เปอตีต์ จาก โมนาโก มาร่วมทีม ซึ่งประสานงานในแดนกลางร่วมกับ ปาทริค วิเอร่า ได้อย่างลงตัว ก่อนปิดท้ายฤดูกาลนั้นด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์กับถ้วยเอฟเอ คัพ 

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ตลอด 3 ปีใน ไฮบิวรี่ ทำให้ บาร์เซโลน่า คว้ากองกลางแฟรนช์แมน ไปร่วมทีม พร้อมๆกับ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ในปี 2000 แต่ทว่าไม่สามารถทำผลงานได้ดีอย่างที่แฟน บาร์ซ่า คาดหวังได้เลย จนทำให้อยู่กับทีมแค่ปีเดียว ก่อนย้ายกลับมา ลอนดอน อีกครั้ง แต่เล่นให้กับทีมคู่แข่งของ ‘ปืนใหญ่’ อย่าง เชลซี ในปี 2001

โดย กองกลางแชมป์โลกปี 1998 อ้างในหนังสืออัตตาชีวประวัติของเขาว่า โลเรนโซ่ เซร์ร่า เฟร์เร่ กุนซือของ เจ้าบุญทุ่ม ณ ตอนนั้น ซื้อเขาไปร่วมทีมโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเล่นในตำแหน่งไหน รวมถึงการวางแทคติกที่ชวนสับสนด้วย

 

มาร์ค โอเวอร์มาร์ส

นอกจาก เปอตีต์ แล้ว มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ก็เป็นนักเตะที่ย้ายมา อาร์เซน่อล พร้อมกันในปี 1997 ที่พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ตั้งแต่ปีแรกที่ค้าแข้งในอังกฤษ และฟอร์มที่ยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีในลอนดอน ก็ทำให้ บาร์เซโลน่า คว้าตัวเขาไปร่วมทีม พร้อมๆกันกับกองกลางชาวฝรั่งเศส แต่มีค่าตัวถึง 25 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงมากๆในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม ปีกชาวดัตช์ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในคัมป์ นู พร้อมมีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องจำใจแขวนสตั๊ดด้วยวัย 31 ปี เมื่อปี 2004

ถึงไม่ใช่นักเตะคนโปรดของเหล่า ‘กูเล่ส์’ แต่อย่างน้อย โอเวอร์มาร์ส ก็ยังเป็นนักเตะขวัญใจของ ‘กูนเนอร์ส’ ตลอดไป และเคยถูกโหวตให้เป็นนักเตะ ‘ปืนใหญ่’ ที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ในประวัติศาสตร์สโมสร

 

โจวานนี่ ฟาน บรองก์ฮอร์สต์

โจวานนี่ ฟาน บรองก์ฮอร์สต์ เป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2002 ซึ่งนั่นเป็นปีแรกที่เขาค้าแข้งในอังกฤษ หลังย้ายจาก กลาสโกว เรนเจอร์ส ในปี 2001

แม้มีอาการบาดเจ็บหัวเข่าตลอดช่วงเวลาในลอนดอนเหนือ แต่ บาร์เซโลน่า ก็ไม่สนใจปัญหาดังกล่าว เลือกคว้า แบ็คซ้ายชาวดัตช์ ไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวในปี 2003 ก่อนซื้อขาดในปีต่อมา

กับ ‘อาซูลกราน่า’ ฟาน บรองก์ฮอร์สต์ ก็ประสบความสำเร็จ เช่นกัน และอาจมากกว่าสมัยเล่นในอังกฤษด้วยซ้ำ ด้วยการคว้าแชมป์ ลาลีก้า 2 สมัย รวมไปถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2006 ที่เอาชนะ ‘ปืนใหญ่’ ทีมเก่าของเขาในนัดชิง พร้อมเป็นแข้ง ‘บาร์ซ่า’ เพียงคนเดียวที่ลงเล่นในเกมยุโรปครบทุกนาที

 

เธียร์รี่ อองรี 

คงไม่ต้องบรรยายให้มากความว่า เธียร์รี่ อองรี ยอดเยี่ยมแค่ไหนกับ อาร์เซน่อล กับ แชมป์พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ อย่างละ 2 สมัย พร้อมกับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร

แต่ ‘กูนเนอร์ส’ หลายคนต้องใจสลายไม่น้อย เมื่อต้องเห็นดาวยิงเบอร์ 14 ยุติเวลา 8 ปีในลอนดอนเหนือ ด้วยการย้ายไปซบ บาร์เซโลน่า ในปี 2007 

แม้ไม่ได้ยิงกระจายเหมือนตอนอยู่ในทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ เนื่องจากถูกโยกไปเล่นเป็นปีกซ้ายบ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้น อองรี ก็ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน อีกทั้งมีส่วนสำคัญในการพา ‘อาซูลกราน่า’ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ฤดูกาล 2008-09 ด้วย ทำให้พูดได้เต็มปากว่าเขาคือนักเตะที่ประสบความสำเร็จทั้งการเล่นให้ อาร์เซน่อล และ บาร์ซ่า

 

อเล็กซานเดอร์ เคล็บ

 เป็นอีกครั้งที่ บาร์เซโลน่า ดึงดาวเตะฟอร์มดีของ อาร์เซน่อล ไปอีกครั้ง กับ อเล็กซานเดอร์ เคล็บ ในปี 2008 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาเสีย เธียร์รี่ อองรี ให้กับทีมจากสเปนเพียงปีเดียว

กองกลางชาวเบลารุส พีกสุดๆในฤดูกาล 2007-08 จนทำให้ บาร์ซ่า พยายามตื้อขอซื้อเขาไปร่วมทีมให้ได้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นไปอย่างที่พวกเขาคาดหวัง หลังเป็นแค่ตัวสำรอง ลงเล่นเพียง 19 นัดตลอด 4 ปีในคัมป์ นู พร้อมถูกปล่อยให้ทีมใช้งาน ทั้ง สตุ๊ตการ์ท, เบอร์มิ่งแฮม และ โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งไม่มีทีมไหนที่ เคล็บ โชว์ฟอร์มได้ดีเลย 

นั่นทำให้อาชีพค้าแข้งเข้าสู่ขาลงเรื่อยมาหลังจากนั้น และแขวนสตั๊ดไปแบบเงียบในปี 2019 ด้วยวัย 38 ปี

 

เชส ฟาเบรกาส

อาร์เซน่อล ทำการคว้า เชส ฟาเบรกาส จากทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีมในปี 2003 ก่อนกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ของ ปืนใหญ่ ด้วยวัย 16 ปี กับ 28 วัน

กองกลางชาวสแปนิช พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตัวหลักในทีม พร้อมได้รับปลอกแขนกัปตันทีมด้วยวัยเพียง 21 ปี แต่หลังจากนั้นเขาก็ตกเป็นข่าวกับ บาร์ซ่า เรื่อยมา พร้อมมีหลายเสียงลือว่าตัวเขาเองก็อยากกลับไปเล่นให้ทีมรักในบ้านเกิดเช่นกัน

เมื่อประกอบกับความสำเร็จแค่ แชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยเดียวทำให้ เชส ตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นให้ ‘อาซูลกราน่า’ ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 29 ล้านยูโร พร้อมโบนัสเพิ่มเติมอีก 5 ล้านยูโร และ คว้าแชมป์ ลาลีก้า, โกปา เดล เรย์, แชมป์สโมสรโลก อย่างละสมัย ตลอด 3 ปีในคัมป์ นู 

จากนั้น ฟาเบรกาส ก็สร้างความปวดร้าวให้ ‘กูนเนอร์ส’ อีกครั้งด้วยการย้ายซบ เชลซี ในปี 2014 สโมสรที่เขาพาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีกสมัย

 

อเล็กซ์ ซง

ชีวิตค้าแข้ง อเล็กซ์ ซง ในบาร์เซโลน่า น่าจะพอสรุปได้จากคำพูดของเขาเอง หลังพูดแบบตรงไปตรงมาว่าเลือกลา อาร์เซน่อล ด้วยเหตุผลเรื่องเงินล้วนๆ ไม่ใช่ความสำเร็จหรือถ้วยรางวัลแต่อย่างใด

“เมื่อบาร์เซโลน่าเสนอสัญญาให้ผม และผมเห็นว่าผมจะได้รับรายได้เท่าไร ผมไม่คิดซ้ำสองเลย ผมรู้สึกว่าภรรยาและลูกๆ ควรจะมีชีวิตที่สะดวกสบายเมื่ออาชีพของผมจบลง” กองกลางชาวแคเมอรูน กล่าว

“ผมได้พบกับผู้อำนวยการกีฬาของ บาร์ซ่า และเขาบอกว่าผมอาจจะไม่ได้เล่นในหลายเกม แต่ผมไม่สนแม่งอยู่แล้ว ผมรู้ว่าตอนนี้ผมจะกลายเป็นเศรษฐีแล้ว”

ตลอด 4 ปีในคัมปู นู ฟอร์มของ ซง ไม่ได้ใกล้เคียงกับที่เคยเป็นใน ลอนดอน เลย รวมไปถึงตอนที่ถูกปล่อยให้ เวสต์แฮม ยืมตัว ระหว่างปี 2014-2016 ด้วยเช่นกัน

 

โธมัส แฟร์มาเล่น

โธมัส แฟร์มาเล่น เป็นกองหลังมากพรสวรรค์อีกคนที่ไปไม่สุดเพราะอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดอาชีพค้าแข้ง โดยเขาสร้างชื่อกับ อาแจ็กซ์ ก่อนย้ายมา อาร์เซน่อล ในปี 2009 พร้อมกลายเป็นตัวหลักในแผงหลังอย่างรวดเร็ว

แม้มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่ บาร์เซโลน่า ก็ยังให้ความสนใจ ก่อนคว้าไปร่วมทีมในปี 2014 โดยเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่คาดว่าจะเข้ามาแทนที่ การ์เลส ปูโยล แนวรับตำนานที่แขวนสตั๊ดไปก่อนหน้านั้น

แม้คว้าแชมป์ทุกอย่างกับ บาร์ซ่า แต่ แฟร์มาเล่น ก็ไม่ใช่ตัวหลักของสโมสรอยู่ดี เมื่อบวกกับอาการบาดเจ็บที่มีก็ทำให้เขาลงสนามเพียง 53 นัดเท่านั้นตลอด 4 ปีในคัมป์ นู 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง