บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพิ่งประกาศแต่งตั้งเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น อย่าง มาโกโตะ เทกุระโมริ เข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของสโมสร หลังเพิ่งแยกทางกับ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เมื่อสัปดาห์ก่อน
โดยอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติญี่ปุ่น ชุด U23 ถือเป็นโค้ชจากแดนปลาดิบรายแรกที่เข้ามารับงานในถิ่น บีจี สเตเดี้ยม นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 2009
วันนี้ UFAARENA เลยจะขอพาไปเช็คประวัติของกุนซือรายดังกล่าว ย้อนรอยดูผลงานและความสำเร็จในอดีต ก่อนที่เจ้าตัวจะประเดิมพาทัพ “เดอะ แรบบิท” ลงประเดิมสนามอย่างเป็นการ
เคยสมัครคุมทีมชาติไทย
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2017 มาโกโตะ เทกุระโมริ ซึ่งเวลานั้นทำงานเป็นสต๊าฟโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ตัดสินใจเข้ามาพูดคุยกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อหวังเข้ามาคุมทัพ “ช้างศึก”
อย่างไรก็ตามหลังรอข้อเสนอจนนาทีสุดท้าย เทรนเนอร์แดนปลาดิบไม่ถูกรับเลือกให้รับงานในเมืองไทย แม้ว่าเขาพร้อมที่จะคุมทีมไม่ว่าจะเป็นชุดใหญ่หรือชุด U23 ก็ตาม เนื่องจากมองว่านักเตะไทย มีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้
หลังจากนั้นในปี 2018 เขาเกือบได้ทำงานกับทีมชาติไทย ชุด U23 อีกครั้ง ทว่าท้ายที่สุดสมาคมตัดสินใจเลือก อเล็กซานเดร กาม่า เข้ามารับงานคุมทีมชุดดังกล่าว เนื่องจากเฮดโค้ชชาวบราซิล รู้จักฟุตบอลไทย มากกว่า
เคยคุมทีมเจอกับสโมสรไทย
แม้เป็นกุนซือที่แฟนบอลอาจไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก ทว่า มาโกโตะ เทกุระโมริ ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับบอลไทย มาตลอด โดยเมื่อปี 2012 สมัยเขายังคงเป็นกุนซือ เวกัลตะ เซนได เคยพาทีมมาเล่นฟุตบอลถ้วย โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนาม ศุภชลาศัย มาแล้ว ก่อนแพ้การดวลจุดโทษ
หลังจากนั้นปี 2013 เทกุระโมริ พา เซนได โคตรมาเจอกับ “ปราสาทสายฟ้า” อีกครั้งในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมเหย้าและเยือนทั้งสองนัดเสมอด้วยสกอร์ 1-1 ก่อนท้ายที่สุดเป็นตัวแทนจากไทย ที่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์พร้อมกับ เอฟซี โซล ส่วนสโมสรจากญี่ปุ่น จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม
คว้าแชมป์ เจลีก 2 กับ เวกัลตะ เซนได
ด้วยวัย 54 ปี มาโกโตะ เทกุระโมริ ผ่านการทำงานระดับสโมสรมาแล้ว 2 ที่ นั่นคือ เวกัลตะ เซนได และ วี-วาเรน นางาซากิ ซึ่งเขาทำผลงานน่าประทับใจกับทั้งสองทีม
อย่างไรตามหากพูดถึงความสำเร็จของ เทกุระโมริ เขาถือเป็นกุนซือระดับแชมเปี้ยนส์เช่นกัน หลังเคยพา เซนได คว้าถ้วย เจลีก 2 ซีซั่น 2009 พร้อมกับพาสโมสรขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ตกชั้นเมื่อฤดูกาล 2003
หลังขยับมาเล่นบนลีกสูงสุดในปี 2010 อดีตนักเตะ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ยังคงพาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง และสามารถจบตำแหน่งท็อปโฟร์ เจลีก ซีซั่น 2011 ก่อนคว้ารองแชมป์ในฤดูกาลถัดมา ด้วยการมีแต้มตามหลังอันดับ 1 อย่าง ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า แค่เพียง 6 คะแนน เท่านั้น
คว้าแชมป์ ชิงแชมป์เอเชีย U23
อีกหนึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมของ มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่ทำให้เขากลายเป็นกุนซือระดับท็อปของเอเชีย คือการพาทีมชาติญี่ปุ่น คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปี 2016
ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ขุนพล “ซามูไรบลูส์” เริ่มต้นด้วยการอยู่กลุ่มเดียวกับ ซาอุดิอาระเบีย, เกาหลีเหนือ และ ไทย ซึ่งลูกทีม เทกุระโมริ ทำผลงารสมฐานะทีมเต็งแชมป์ ด้วยการเก็บ 3 คะแนนเต็ม ซึ่งเกมพบกับทัพ “ช้างศึก” ที่นำโดยกุนซือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกศารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม รวมถึง เจนรบ สําเภาดี ลูกทีม เทกุระโมริ สามารถเอาชนะไปแบบขาดลอย 4-0
ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชาติญี่ปุ่น เอาชนะอีกหนึ่งทีมแกร่งอย่าง อิหร่าน 3-0 ต่อด้วยการคว่ำ อิรัก 2-1 ในเกมรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่นัดชิงชนะเลิศพวกเขาต้องมาเจอกับคู่ปรับตลอดกาล เกาหลีใต้ และเป็น ทาคุมะ อาซาโนะ อดีตแนวรุกซึ่งเคยอยู่กับ อาร์เซน่อล ซัด 2 ประตู พาทีมเอาชนะด้วยสกอร์ 3-2 คว้าแชมป์รายดังกล่าวไปครอง พร้อมตั๋วลงเตะศึกฟุตบอล โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล
พาญี่ปุ่น ลุย โอลิมปิกเกมส์ 2016
ต่อเนื่องจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อดีตเทรนเนอร์ เวกัลตะ เซนได และ วี-วาเรน นางาซากิ ต้องพาทีมชาติญี่ปุ่น ลงเตะศึก โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจสุดหินที่เป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือการทำงานของ มาโกโตะ เทกุระโมริ ไม่น้อย
ทัพนักเตะจากแดนอาทิตย์อุทัย ลงเล่นศึก โอลิมปิกเกมส์ 2016 รอบแรกด้วยการอยู่กลุ่มเดียวกับ โคลัมเบีย, สวีเดน และ ไนจีเรีย แชมป์ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2015
แม้เกมเปิดสนามจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ แต่นัดดังกล่าวซึ่งพ่ายให้กับ ไนจีเรีย แบบสุดมันส์ 5-4 ถือเป็นแมตช์คุณภาพ ที่แสดงให้เห็นถึงการทำทีมของ เทกุระโมริ ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู่สุดแกร่งจากทวีปแอฟริกา
เกมนัดถัดมาพวกเขาเก็บแต้มแรกด้วยการเสมอกับ โคลัมเบีย 2-2 ก่อนเอาชนะ สวีเดน 1-0 ในนัดสุดท้าย ทว่า 4 คะแนน กลับไม่เพียงพอสำหรับการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และนั่นคือทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของ เทกุระโมริ ในฐานะกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
กุนซือแดนปลาดิบ คนแรก บีจี ปทุม
แม้ก่อตั้งสโมสรมาแล้วกว่า 16 ปี มีกุนซือหมุนเวียนเข้ามาทำงานมากกว่า 13 คน ทว่านับตั้งแต่อดีตจนถึงก่อนหน้านี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังไม่เคยใช้บริการเฮดโค้ชจากแดนปลาดิบมาก่อน
นับเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ สำหรับการเข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชยังถิ่น บีจี สเตเดี้ยม ของ มาโกโตะ เทกุระโมริ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามาอยู่กับทีมพร้อมกับความคาดหวังจากทั้งแฟนบอลและสโมสร ซึ่งต้องการเห็นเขาพา “เดอะ แรบบิท” ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำได้สมัยคุม เวกัลตะ เซนได และทีมชาติญี่ปุ่น ชุด U23
โดยโค้ชวัย 54 ปี คือกุนซือรายที่ 3 ที่เข้ามาทำงานในศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก ซีซั่นนี้ ต่อจาก มาซาดะ อิชิอิ นายใหญ่คนใหม่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ยาสุชิ โยชิดะ เทรนเนอร์ สมุทรปราการ ซิตี้
สำหรับภารกิจหลักของ เทกุระโมริ นอกจากการพยายามพาทีมป้องกันแชมป์ไทยลีก เขายังต้องนำทัพ “กระต่ายแก้ว” ลงเตะฟุตบอลถ้วย เอฟเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเราต้องมารอดูกันว่าผลงานของเขากับทีมดังย่านคลอง 3 จะเป็นไปได้ด้วยดีเหมือนที่หมายคนคาดหวังหรือไม่