คงเกิดความวุ่นวายมากมายแน่ๆ หาก ยูฟ่า ประกาศจัดการแข่งขันกลางฤดูกาล ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโต๊ะเล็กทีมละ 6 คน จาก 4 สโมสรดังในยุโรป
และเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วจริงๆในวงการฟุตบอล ณ เดือนมกราคมปี 1997 เมื่อ อาแจ็กซ์, เอซี มิลาน, ลิเวอร์พูล และ กลาสโกว เรนเจอร์ส ลงเล่นแข่งในรายการ ยูโร ซิกซ์ โดยแข่งขันกันที่ อัมสเตอร์ อารีน่า รังเหย้าของอาแจ็กซ์ ในประเทศ ฮอลแลนด์
แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่ทราบว่าเคยมีการแข่งขันรายการนี้อยู่บนโลกด้วย หรืออาจจะหลงลืมกันไปบ้าง ทาง UFA ARENA จะพาไปย้อนระลึกถึงรายการแข่งขันสสุดแปลกเมื่อ 24 ปี ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และสาเหตุที่ทำให้มันเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ถูกลืมหลังจากนั้น
แนวคิดสุดแหวกจาก ครัฟฟ์
รายการแข่งขันที่มีระยะเวลา 2 วันถ้วน เป็นหนึ่งในเอเดียของ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานแข้งเทวดาชาวดัตช์ โดยใช้ผู้เล่นเข้าแข้งขันจำนวน 6 คน, แบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ ควอเตอร์ละ 8 นาที, มีเกมนัดชิงชนะเลิศและชิงอันดับสาม ซึ่งแต่ละทีมจะมีผู้เล่นในรายชื่อ 11 คนต่อเกม ที่สามารถเปลี่ยนตัวเขาออกไม่จำกัด
นี่อาจดูเหมือนเป็นรายการเล็กที่แต่ละทีมอาจส่งผู้เล่นตัวสำรองแข่งขัน แต่เปล่าเลย เพราะแต่ละสโมสรจะได้เงินทีมละ 120,000 ปอนด์ จาก โซนี่ สปอนเซอร์หลักรายการโดยมีเงื่อนไขว่าทุกทีมจะต้องส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงแข่งขัน
เวลาพักที่เหลื่อมล้ำ
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจดจำคือ ในนัดเปิดสนามซึ่งแข่งขันกันในวันจันทร์ ทีมอย่าง มิลาน หรือ ลิเวอร์พูล เพิ่งทำการแข่งขันรายการในประเทศไปก่อนหน้านี้วันเดียวเท่านั้น
ซึ่งก่อนแข่งในรายการนี้ แข้งหงส์แดงยังต้องอกหักตกรอบในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 หลังแพ้ เชลซี 4-2 ทั้งที่ออกนำก่อน 2-0 ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้หลังนำคู่แข่งถึง 2 ประตู นับตั้งแต่ปี 1964
ส่วนทีมจากแดนวิสกี้อย่าง เรนเจอร์ส ก็ได้พักอย่างน้อย 1 วัน หลังมีแข่งไปแล้วในวันเสาร์ ขณะที่ อาแจ็กซ์ ที่เปรียบเสมือนเจ้าภาพ ดูจะพร้อมกว่าใครเพื่อน เนื่องจากพวกเขาอยู่ในช่วงพักเบรกหนีหนาว
ในเกมแรกของการแข่งขัน มีแฟนบอลเข้ามากกว่า 21,000 คน ในสนามหลังคาปิด โดยตัวแทนจากสก็อตแลนด์ โดน อาแจ็กซ์ ถลุงไปเละเทะ 6-2 โดยที่ พาทริค ไคลเวิร์ต และ กีกี้ มูซามป้า เหมา 2 ประตูในนัดนั้น
ยารี่ ลิตมันเน่น และ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส เป็นอีก 2 แข้งอาแจ็กซ์ที่ทำประตูได้ ขณะที่เรนเจอร์สได้ประตูปลอบใจขาก ยอร์ก อัลเบิร์ตซ และ กอร์ดอน ดูรี่
สนามแข่งที่ไม่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม รูปแบบสนามของการแข่งขันดูขัดหูขัดตาคนที่พบเห็นไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของสนามที่ไม่ดีนัก, ขนาดประตูเท่ากับฟุตบอลสนามใหญ่, กรอบเขตโทษที่ใหญ่เกินจำเป็น หรือ ไลน์แมนที่ยกธงล้ำหน้าข้างสนาม เมื่อบวกกับผู้เล่นในสนามที่มีเพียงทีมละ 6 คน ยิ่งทำให้ทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวดูประหลาดมากกว่าเดิม
ซ้ำร้ายสภาพสนามยังส่งผลกระทบต่อ พอล แกสคอยน์ ดาวเตะของเรนเจอร์ส ที่บาดเจ็บจาการเข้าปะทะกับ เฟร็ด กริม นายทวารอาแจ็กซ์ จนต้องใช้ไม้ค้ำช่วยพยุงออกสนามไป
อีกทั้งยังรุนแรงไปถึงทีมชาติ เมื่ออาการบาดเจ็บของ แกสซ่า ทำให้เขาพลาดช่วยทีมอังกฤษเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ อิตาลี ในอีก 16 วันต่อมา และทีม ‘สิงโตคำราม’ ก็เป็นฝ่ายพ่ายไป 1-0 จากประตูชัยของ จิอันฟรังโก้ โซล่า
ความจริง กองกลางชาวผู้ดีหายหน้าจากสนามไปราวๆ 3 เดือน และ ไม่สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีได้เลยหลังจากนั้น ทำให้เขาพลาดติดทีมชาติลุยฟุตบอลโลกในปี 1998 ที่ฝรั่งเศสไปโดยปริยาย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าแค่เกมการแข่งขันในรายการเมื่อปี 1997 จะทรงผลร้ายแรงต่ออดีตดาวเตะสเปอร์สเพียงนี้
ผลกระทบหลังแข่งนัดชิง
ย้อนกลับในศึกยูโรซิกซ์ ดูเหมือนรายการนี้จะไม่ถูกโฉลกกับสโมสรเกาะอังกฤษเท่าไหร่ เมื่อลิเวอร์พูล โดน เอซี มิลาน เล่นงานจนหมดสภาพ 5-0 ในเกมนัดที่ 2 ของวันนั้น
แม้จังหวะทำประตูของ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ จะเด็ดดวงแค่ไหน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลเห็นพ้องต้องกันว่าสนามไม่มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันนี้เลย
เรื่องแย่ๆ ยังไม่จบสิ้นสำหรับหงส์แดง เมื่อในเกมนัดชิงที่ 3 พวกเขาโดน เรนเจอร์ส กระหน่ำไป 7-3 โดยที่ทีมของ รอย อีแวนส์ ได้ประตูจาก โดมินิค มัตเตโอ (2) และ จอห์น บาร์นส์ ส่วนทีมจากแดนวิสกี้ได้ประตูจาก อัลลี่ แม็คคอยท์ (2), อัลเบิร์ตซ์ (2), เดเร็ค แม็คอินเนส, เกร็ก ชิลด์ส และ ปีเตอร์ ฟาน ฟอสเซาน
ตัดมาที่นัดชิง ‘รอสโซเนรี่’ เป็นฝ่ายเอาชนะ อาแจ็กซ์ ทีมเจ้าภาพไป 6-2 โดยที่ โรแบร์โต้ บัจโจ้ สามารถทำประตุสุดสวยได้จากลูกเตะมุมโดยตรง พร้อมกับคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์เม้นต์ไปครอง
อย่างไรก็ตาม ผลงานในลีกของ ‘ปีศาจแดงดำ’ กลับค่อยแย่ๆลง เมื่อพวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ ซามพ์โดเรีย 3-2 ในเกมต่อจากรายการนั้น และหล่นไปอยู่อันดับที่ 11 ของเซเรียอาในฤดูกาล 1996-97 อย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วน เรนเจอร์ส ทีมอันดับ 3 เสมอกับ ฮาร์ต ในเกมลีกคารังเหย้าแบบไร้สกอร์ในเวลาต่อมา แต่พวกเขาเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ สก็อตติช พรีเมียร์ชิพ มาครอง แม้ไร้เงาของ แกสคอยน์ ในทีมก็ตาม
ส่วนลิเวอร์พูล ที่รั้งอันดับ 1 ในพรีเมียร์ลีกก่อนไปฟาดแข้งในรายการแข่งแดนกังหันลม แต่หลังจากกลับมาเล่นในลีกอีกครั้ง พวกเขาหล่นไปจบอันดับ 4 ในตาราง หลังจบฤดูกาลดังกล่าว
นับตั้งแต่นั้น ทัวร์นาเม้นต์สุดประหลาดในลักษณะนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลยในวงการฟุตบอลยุโรป และหลายคนก็พอจะเข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น