เลี่ยงไม่ได้ : 5 ปัญหาที่กุนซือใหม่บาร์ซ่าต้องแก้ไข

บาร์ซ่า

ถึงปลดโรนัลด์ คูมัน ออกไปแล้วใช้ว่าปัญหาที่สะสมใน บาร์เซโลน่า ณ ปัจจุบัน จะหายไปหมดสิ้น และหลายๆสิ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

สไตล์การเล่นของทีมเริ่มกลับมาลื่นไหลอยู่บ้าง เมื่อ เวร์กี้ บาร์ฆวน โค้ชทีมชุดบี เข้ามารับตำแหน่งขัดตาทัพ แต่ทว่าก็ไม้ได้ผลการแข่งขันที่เป็นใจนัก เมื่อเสมอกับ อลาเบส 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ไม่แปลกที่เหล่ากูเล่ส์ จะมองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่สโมสรเคยพบเจอในรอบหลาย 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเสีย ลิโอเนล เมสซี่ ไอคอนคนสำคัญ, ปัญหาด้านการเงินจนไม่สามารถเสริมทัพให้แข็งแกร่งได้ทัดเทีม 2 คู่แข่งจากเมืองมาดริด ยังไม่รวมถึงสถานะของทีมที่น่าจะหมดลุ้นแชมป์แบบกลายๆ แถมยังหนักเอาเรื่องในการลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า

ถึงปัญหาต่างๆที่สั่งสมไว้จะทำให้ทีมตกต่ำลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ บาร์ซ่า ไม่สามารถแก้ไขได้เลย UFA ARENA จึงขอพาไปวิเคราะห์ถึง 5 ปัญหาที่กุนซือคนใหม่ของ อาซูลกราน่า ต้องเข้ามาแก้ไขให้ทีมกลับมามั่นคงอีกครั้ง ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็น ชาบี, โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ หรือใครก็ตาม

 

ปรัชญาการเล่นที่ชัดเจน

Sergi Barjuan calls up two more youngsters to Barcelona training - Barca  Blaugranes

ผู้จัดการทีมทุกคนที่เข้ามาทำหน้าที่ใน บาร์เซโลน่า มักพูดสิ่งเดียวกันเสมอในเรื่องปรัชญาการสร้างสโมสร ทั้ง โยฮัน ครัฟฟ์ ที่นำตำแหน่งการเล่นเข้ามา และยกระดับการเล่นของทีมให้สวยงามและมีประสิทธิภาพในช่วงยุค 90

ผ่านไปอีก 10 ปี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หนึ่งในลูกศิษย์ของ ครัฟฟ์ ก็กลายเป็นกุนซือของ บาร์ซ่า ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงแม่แบบที่เขาเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังจาก ครัฟฟ์ และปฏิวัติฟุตบอลในศตวรรษที่ 21 ในเวลาต่อมา ขณะที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ ถึงเคยเป็นอดีตนักเตะของสโมสร แต่เปลี่ยนสไตล์การเล่นที่แตกต่างจาก เป๊ป รวมไปถึง เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ก็ไปได้สวยกับระบบ 4-4-2

ดังนั้น ถ้าคุณไม่สามารถนิยามตัวเองได้มั่นคงชัดเจนว่ามีสไตล์การเล่นแบบไหน อย่างไร ก็ง่ายที่จะล้มเหลวในทีม กุนซืออย่าง กีเก้ เซเตียน และ คูมัน ไม่ได้สไตล์การเล่นที่ชัดเจนว่าทีมของเขาเล่นอย่างไรกันแน่

และต่อให้คุณมีแนวทางที่ชัดเจนในการช่วยให้ ‘อาซูลกราน่า’ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำให้นักเตะเล่นได้ในระดับนั้น จุดจบก็คงไม่ต่างจากที่ คูมัน เพิ่งเจอมาแน่นอน

บาร์เซโลน่าจำเป็นต้องหันไปทางอื่นบ้าง แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวก็ตาม เมื่อพวกเขาได้ลองอะไรใหม่ๆ ในอดีต มันมักจะได้ผลดีสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่มีทางเลือก เนื่องจากตอนนี้ทีมไม่สามารถเอาชนะหลักการที่ เป๊ป หรือ กวาร์ดิโอล่า วางไว้ได้แน่นอน

 

ขยายขอบเขตการเล่น

ด้วยการปรัชญาการเล่นในพื้นที่แคบๆ และแรงกระตุ้นในเล่นในแบบที่ บาร์เซโลน่า เคยเป็น ทำให้ประธานสโมสรและผู้มีอำนาจในทีมจึงตัดสินใจที่สร้างทีมที่เล่นต่อบอลกันแบบเท้าสู่เท้าเป็นหลัก

บาร์ซ่า ต้องการ กองกลางอย่าง เปดรี้, กาบี, มิราเลม ปานิช, เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์ และ เฟรงกี้ เดอ ยอง ตัวรุกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, เมมฟิส เดปาย, อองตวน กรีซมันน์ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ พวกเขาทั้งหมดล้วนชอบเล่นกับบอล และเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ยกเว้นแต่ว่ามีไม่กี่คนที่วิ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และแทบไม่มีใครวิ่งไปด้านขวาของสนามเลย

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพื่อยกระดับในด้านนี้ เพนสะนักเตะอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ ก็สามารถเพิ่มเติมในส่วนนี้ได้ และการเล่นแบบนี้ยังเพิ่มพื้นที่โจมตีด้านหน้าแนวรับของคู่แข่งด้วย ปีกขวาจึงถือเป็นเป้าหมายแรกๆในการเสริมทัพ และไม่จำเป็นต้องเป็นแข้งระดับโลกเพื่อพัฒนาในด้านนี้

 

โละของเก่าใช้ของใหม่

Cádiz 0-0 Barcelona summary: score, highlights | LaLiga 2021-22 - AS.com

ในช่วงพีกๆ เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์ ถูกยกให้กองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในยุโรป และอาจเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดเท่าที่วงการลูกหนังเคยสร้างมาด้วย

แต่ เดอ ยอง ที่ถูกซื้อเข้ามาแทนที่ บุสเก็ตส์ กลับแทบไม่ได้รับโอกาสนั้นเลย ผู้จัดการทีมมักเลือกจับ กองกลางทีมชาติสเปน ยืนคู่ร่วมกับแข้งชาวดัตช์มากกว่า แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าดรอปเหล่าผู้อาวุโสเป็นตัวสำรอง และ กรณีของ เคราร์ด ปิเก้ ก็ไม่ต่างกัน ซึ่งผ่านพ้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพไปแล้ว แต่ บาร์ซ่า ก็ยังกลัวที่ให้กองหลังตัวเก๋าคนนี้เป็นตัวสำรอง

ดังนั้นสิ่งที่ กุนซือคนต่อไปของ บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องทำคือ การตัดสินใจที่เด็ดขาด เช่นที่ กวาร์ดิโอล่า เคยทำ ทั้งการโละ โรนัลดินโญ่ และ เดโก้ ออกจาทีม เพื่อให้ เมสซี่ ได้เฉิดฉาย ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็อยู่ในช่วงบั้นปลายแล้ว และคงต้องหาคนมาแทนที่ไม่ช้าก็เร็ว 

ขณะที่อยู่ในโหมดสร้างทีมใหม่ กุนซือคนต่อไปต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังสร้างทีมใหม่จริงๆกับนักเตะที่จำเป็น โดยไม่คำนึงถึงสถานะหรือชื่อเสียงของพวกเขาที่เคยเป็นมาในอดีต

 

เปลี่ยนนโยบายการซื้อขาย

Barcelona: The night Barcelona signed Griezmann: The board realised there  was no money | Marca

ลองย้อนกลับไปดูการเซ็นสัญญาของ บาร์เซโลน่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และถามว่ามีการเสริมทัพกี่รายที่ถูกซื้อเพราะพวกเขาดูเป็นนักเตะของ บาร์ซ่า จริง? ทั้ง คูตินโญ่, เดอ ยอง, เมมฟิส หรือ กรีซมันน์ มีเพียง กองกลางชาวดัตช์ เท่านั้นที่ทำผลงานได้เข้าตา ณ เวลานี้

เซร์จิโน่ เดสต์ ถูกดึงมาร่วมทีม เมื่อมีตัวเลือกอื่นๆในตลาดนักเตะ ณ เวลานั้น แม้มีชื่อเสียงเพียงไม่มาก เอริค การ์เซีย ย้ายกลับมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว แต่ผลงานที่แสดงให้เห็นก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าเขาจะกลายเป็นตัวหลักได้เหมือนที่ ปิเก้ เคยทำ

เหล่าการเสริมทัพสุดประหลาดทั้ง มาร์ติน เบรธเวต หรือ ลุค เดอ ยอง กลับเป็นตัวเลือกที่ดูเข้าที่เข้าทางที่สุด อาจไม่ใช่ในแง่คุณภาพ แต่เป็นการคิดนอกกรอบเพิ่มเติมจุดด้อยในทีม เพราะที่ผ่านมา ‘อาซูลกราน่า’ มักตามหานักเตะจำพวก ชาบี หรือ อิเนียสต้า คนต่อไป โดยที่ลืมตามหานักเตะแบบเดียวกับ ซามูเอล เอโต้ มาร่วมทีม

บางที ทีมจากกาตาลัน ไม่ควรเซ็น พอล ป็อกบา มาร่วมทีมแบบฟรีๆในปีหน้า และอาจเลือกดึง ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ แบบยืมตัว หรือคว้า กาเบรียล เฆซุส อย่างที่เป็นข่าวในคอลัมน์ซุบซิบของวงการลูกหนัง นักเตะบางคนอาจไม่โด่งดังแต่มีคุณสมบัติช่วยเสริมในสิ่งที่ทีมขาด ก็อาจช่วยพัฒนาสโมสรก็เป็นได้

 

เตรียมตัวรับแรงกระแทก

FCB World

บาร์เซโลน่าสูญเสียนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลและไม่เพียงแต่พวกเขาไม่มีเงิน 500 ล้านปอนด์เพื่อแทนที่ ลิโอเนล เมสซี่เท่านั้น เพราะนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำเลยในอดีต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับสโมสรใหญ่ระดับทวีปเช่นนี้

ใครก็ตามที่เข้ากุมบังเหียน บาร์ซ่า จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความคาดหวัง พวกเขาอาจไม่ดีพอกับการลุ้นแชมป์ลาลีก้า ในฤดูกาลนี้ และพวกเขาอาจไม่ได้ไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าด้วย และมันอาจใช้เวลาถึง 5 ปี ในการแก้ไขสโมสรให้กลับมาอยู่ในมาตรฐานเดิมอีกครั้ง และกุนซือหลายๆคนไม่ได้อัจฉริยะเหมือกับ ครัฟฟ์ หรือ กวาร์ดิโอล่า

ผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า คนต่อไปนั้นมีความเป็นไปได้มากที่จะต้องทำการตัดสินใจที่ค้านเสียงของแฟนบอลและผลการแข่งขันที่ไม่น่าพิศมัยในแผนระยะยาว ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า กำลังเผชิญอยู่กับ อาร์เซน่อล หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ใช้เวลากว่า 4 ปีถึงคว้าแชมป์ใบแรกกับ ลิเวอร์พูลได้ หรือแม้แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่อาจคว้าแชมป์กับ สเปอร์ส ไม่ได้เลย แต่ก็ได้รับเวลาในการเปลี่ยน ไก่เดือยทอง กลายเป็นทีมท็อปซิกซ์เต็มตัว

ถึงพวกเขาจะไม่ใช้สโมสรที่ให้เวลาโค้ชมากนักจากประวัติที่ผ่านมา และตอนนี้ บาร์เซโลน่า ก็ต้องอดทนต่อไป เพราะปัญหาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขได้ทันที และต้องใช้เวลาไม่น้อยเพื่อจะกลับมาเป็นยอดทีมอย่างที่พวกเขาเคยเป็นอีกครั้ง

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ต่างดาว
ย่ำแย่เกินอภัย! ย้อนรอย 6 กุนซือต่างดาวผลงานห่วยสุดตลอดกาล