วิเคราะห์ 9 ทีมหนีตายพรีเมียร์ลีกโค้งสุดท้ายซีซั่น 2022-23

นอกเหนือจากการลุ้นแชมป์ของ อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้ว การดิ้นรนหนีตกชั้นของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ก็สนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน

ในช่วง 2 เดือนสุดท้าย อันดับที่ 12 คริสตัล พาเลซ กลับมีแต้มห่างจาก เซาแธมป์ตัน ทีมบ๊วยแค่ 4 คะแนนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าบรรดา 9 ทีมมีโอกาสอยู่รอดและตกชั้นจากลีกสูงสุดพอๆกัน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีแย่แค่ไหน

ทว่าทีมไหนสุ่มเสี่ยงต่อการร่วงหล่นไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ชิพ มากที่สุด? UFA ARENA จะขอวิเคราะห์การดิ้นรนหนีตกชั้นของ 9 ทีมเหล่านี้ใน พรีเมียร์ลีก ช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นล่าสุด ผ่านบทความนี้กัน

ปล.ข้อมูลก่อนโปรแกรมวันที่ 1 เมษายน

 

อันดับที่ 12 คริสตัล พาเลซ

แต้ม: 27

ผลต่างประตู: -16

โปรแกรมที่เหลือ: เลสเตอร์, ลีดส์, เซาแธมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟส์, เวสต์แฮม, สเปอร์ส, บอร์นมัธ, ฟูแล่ม, ฟอเรสต์ 

ช่างเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของ คริสตัล พาเลซ เมื่อต้องเห็น ไบรท์ตัน ทีมคู่ปรับกำลังลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป ในขณะที่ตัวเองหล่นมาครึ่งล่างของตาราง

‘ปราสาทเรือนแก้ว’ ยังเป็น 1 ใน 2 ทีมที่ยังหาชัยชนะในลีกไม่เจอ ในลีกทั้ง 4 ดิวิชั่นของอังกฤษ ตั้งแต่ขึ้นปี 2023 เป็นต้นมา ร่วมกับ ฟอเรสต์ กรีน ทีมในลีก วัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้ ปาทริค วิเอร่า โดนปลดจากตำแหน่งในช่วงก่อนพักเบรกทีมชาติ ก่อนดึง รอย ฮอดจ์สัน เข้ามากู้วิกฤต

ถึงอันดับจะห่างจาก เวสต์แฮม (18 ) ถึง 6 อันดับ แต่ พาเลซ ก็มีแต้มนำห่างแค่ 3 แต้มเท่านั้น

ชะตาของทีมจากลอนดอนใต้ จะถูกตัดสินในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่อย่างน้อยช่วง 6 เกมต่อจากนี้หากเอาชนะได้สักครึ่งจากทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ เลสเตอร์ (เหย้า), ลีดส์ (เยือน), เซาแธมป์ตัน (เยือน), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า), วูล์ฟส์ (เยือน) และ เวสต์แฮม (เหย้า) ซึ่งเป็นทีมหนีตกชั้นด้วย ก็น่าจะทำให้พวกเขาโล่งใจมากขึ้น

ฟันธง: รอด

 

อันดับที่ 13 วูล์ฟแฮมป์ตัน

แต้ม: 27

ผลต่างประตู: -19

โปรแกรมที่เหลือ: ฟอเรสต์, เชลซี, เบรนท์ฟอร์ด, เลสเตอร์, พาเลซ, ไบรท์ตัน, วิลล่า, แมนฯยู, เอฟเวอร์ตัน, อาร์เซน่อล 

ฆูเลน โลเปเตกี พา วูล์ฟแฮมป์ตัน ทำผลงานได้ดีขึ้นพอตัว ตั้งแต่ผ่านพ้นช่วงฟุตบอลโลกเป็นต้นมา เพราะในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก พวกเขาจมบ๊วยในพรีเมียร์ลีกมานานหลายสัปดาห์ติด

ทว่าฟอร์มของ หมาป่าแดนผู้ดี ก็ยังมีปัญหาเหมือนกัน นั่นก็คือความสม่ำเสมอ เนื่องจากแฟนๆก็ไม่รู้ว่า ทีมของ โลเปเตกี จะเป็นแบบไหนในแต่ละสัปดาห์ 

ทั้งเคยเอาชนะ สเปอร์ส มาแล้ว แต่ก็บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ แบบไม่มีทรง หรือเคยเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ทั้งที่ผู้เล่นน้อยกว่า แต่ก็โดน ลีดส์ ยิงยับถึง 4 ลูก

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ วูล์ฟส์ จะอยู่รอดถือว่าค่อนข้างมีสูง เนื่องจากเจอทีมระดับไล่เลี่ยกัน (ฟอเรสต์, เลสเตอร์, พาเลซ) หรือแม้เจอทีมอย่าง เชลซี ก็ยังได้เล่นใน โมลินิวซ์ ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำผลงานได้สม่ำเสมอมากน้อยแค่ไหนหลังจากนี้

ฟันธง: รอด

 

อันดับที่ 14 ลีดส์

แต้ม: 26

ผลต่างประตู: -9

โปรแกรมที่เหลือ: อาร์เซน่อล, ฟอเรสต์, พาเลซ, ลิเวอร์พูล, ฟูแล่ม, เลสเตอร์, บอร์นมัธ,แมนซิตี้, นิวคาสเซิ่ล, เวสต์แฮม, สเปอร์ส 

จากที่วนเวียนอยู่โซน 3 อันดับสุดท้ายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ชัยชนะเหนือ วูล์ฟส์ ก็ทำให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทะยานจากที่ 19 ขึ้นมาอันดับที่ 14 ภายใต้การดูแลของ ชาบี กราเซีย กุนซือคนใหม่ในถิ่น เอลแลนด์ โร้ด

ทีม ‘ยูงทอง’ เอาชนะได้ถึง 2 จาก 4 เกมในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่กุนซือชาวสแปนิชเข้ามา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทีมคว้าชัยได้ในช่วง 20 นัดหลังสุด

นอกจากนี้แล้ว ฟอร์มการเล่นของนักเตะก็ดีขึ้นทันตา ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น แจ็ค แฮร์ริสัน ที่มีส่วนร่วมกับ 4 ประตู (ยิง 2, จ่าย 2) ในช่วง 4 เกมที่ร่วมงานกับ กราเซีย 

ทว่างานหนักก็รอทีมจากแคว้นแลงคาเซียร์อยู่ เมื่อต้องบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ที่กำลังเน้นสุดๆเพื่อคว้าแชมป์ รวมไปถึงเกมเปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล ด้วย

ฟันธง: รอด

 

อันดับที่ 15 เอฟเวอร์ตัน

แต้ม: 26

ผลต่างประตู: -18

โปรแกรมที่เหลือ: สเปอร์ส, แมนยู, ฟูแล่ม, พาเลซ, นิวคาสเซิ่ล, เลสเตอร์, ไบรท์ตัน, แมนซิตี้, วูล์ฟส์, บอร์นมัธ 

  ฌอน ไดช์ เข้ามาในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค และสร้างความประทับใจให้แฟนๆ เอฟเวอร์ตัน ทันที ด้วยการพาทีมชนะเกมสำคัญในรัง ทั้ง อาร์เซน่อล, ลีดส์ และ เบรนท์ฟอร์ด รวมไปถึงเกมบุกไปแบ่งแต้มกับ เชลซี ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์

ผู้เล่นคนที่ 12 มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน รอดตกชั้นในฤดูกาลที่แล้ว และฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน เมื่อจำเป็นต้องพึ่งเสียงเชียร์ของแฟนในเกมเหย้า 5 นัดจากเกมที่เหลือ 8 นัดในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งผลการแข่งขันในเกมเหล่านั้นจะชี้วัดโอกาสอยู่รอดได้เลย

แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ ที่ เอฟเวอร์ตัน จะไร้กองหน้าตัวหลักอย่าง โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ที่บาดเจ็บไปอีกแล้ว ขณะที่ เอลลิส ซิมส์ แม้มีส่วนช่วยให้ทีมเก็บ 1 แต้มออกจาก เดอะ บริดจ์ แต่ก็ยากที่จะหวังพึ่งพากองหน้าวัย 22 ปีในการทำประตู

ฟันธง: มีโอกาสรอด

 

อันดับที่ 16 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

แต้ม: 26

ผลต่างประตู: -27

โปรแกรมที่เหลือ: วูล์ฟส์, ลีดส์, วิลล่า, แมนยู, ลิเวอร์พูล, ไบรท์ตัน, เบรนท์ฟอร์ด, เซาแธมป์ตัน, เชลซี, อาร์เซน่อล, พาเลซ 

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ กลายเป็นทีมที่เสริมทัพมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งรู้ว่านักเตะส่วนใหญ่ที่เข้ามาใหม่ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่หวังเลย

นักเตะร่วม 30 ชีวิต ถูดึงเข้ามาในถิ่น ซิตี้ กราวน์ เพื่อเป้าหมายการเสริมแกร่งทีมให้อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุด ซึ่งสุดท้ายก็หวังอะไรไม่ได้มากนัก แถมปัจจุบัน ตัวหลักก็กำลังบาดเจ็บอยู่ ทั้ง ดีน เฮนเดอร์สัน, สก็อตต์ แม็คเคนน่า และ ไตโว อโวนิยี่

อย่างที่สุด 3 เกมแรกในเดือนเมษายน ‘เจ้าป่า’ ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด เนื่องจาก 3 นัดหลังจากจะต้องเจอกับทีมตารางบนอย่าง แมนฯยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ ไบรท์ตัน ตามลำดับ

ฟันธง: สุ่มเสี่ยงตกชั้น

 

อันดับที่ 17 เลสเตอร์ ซิตี้

แต้ม: 25

ผลต่างประตู: -9

โปรแกรมที่เหลือ: พาเลซ, วิลล่า, บอร์นมัธ, แมนซิตี้, วูล์ฟส์, ลีดส์, เอฟเวอร์ตัน, ฟูแล่ม, ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล, เวสต์แฮม 

เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังดิ้นรนสุดชีวิต นับตั้งแต่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส พร้อมทำไป 8 ประตู พวกเขาก็ไม่ชนะใครเลยในลีก 6 นัดติด โดยแพ้ไปถึง 5 เกมต่อเนื่องกัน

มีช่วงหนึ่งที่ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หล่นไปรั้งบ๊วยของลีก จนสุ่มเสี่ยงว่าจะตกชั้น แต่ก็พยายามเร่งเครื่องจนขึ้นมาช่วงกลางตารางได้สำเร็จ ทว่าปัจจุบัน สถานการณ์ของทีมก็ไม่สู้ดีนัก เมื่อรั้งอันดับที่ 17 โดยมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นแค่คะแนนเดียวเท่านั้น

หากมองในแง่ดีหน่อย การไล่ตีเสมอ เบรนท์ฟอร์ด ได้ในช่วงก่อนเบรกทีมชาติ ก็ถือว่าเป็นิมิตรหมายอันดีของ จิ้งจอกสีน้ำเงิน และอาจทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นหลังจากนี้ เมื่อต้องมาเจอกับ คริสตัล พาเลซ ที่ฟอร์มบู่ไม่แพ้กัน ตามมาด้วย วิลล่า (เหย้า), บอร์นมัธ (เหย้า) และของแข็งสุดๆอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

ฟันธง: มีโอกาสรอด

 

อันดับที่ 18 เวสต์แฮม

แต้ม: 24

ผลต่างประตู: -10

โปรแกรมที่เหลือ: เซาแธมป์ตัน, นิวคาสเซิ่ล, ฟูแล่ม, อาร์เซน่อล, บอร์นมัธ, ลิเวอร์พูล, พาเลซ, แมนซิตี้, แมนยู, เบรนท์ฟอร์ด, ลีดส์, เลสเตอร์ 

จากที่เคยมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป แต่ปีนี้ เวสต์แฮม กลับต้องหล่นมาโซนท้ายตารางเพื่อหนีตกชั้นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่เปิดปีใหม่มา พวกเขาชนะแค่ 2 นัดจาก 9 นัดในลีกเท่านั้น

ฟอร์มการเล่นที่ไร้มาตรฐานก็ทำให้ ขุนค้อน เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะหลังเกมที่แพ้ สเปอร์ส 2-0 พวกเขาก็ถล่ม ฟอเรสต์ 4-0 แต่นัดต่อมาก็โดน ไบรท์ตัน จัดหนักไปด้วยสกอร์เดียวกัน ซึ่งโปรแกรมช่วง 2 เดือนสุดท้าย ก็หนักเอาเรื่อง เพราะมีทั้งเกมที่พบกับ อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ 2 ทีมดังจากแมนเชสเตอร์

อีกสิ่งที่ทำห้ ทีมของ เดวิด มอยส์ มีภาระมากกว่าทีมหนีตกชั้นด้วยกัน คือพวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อทะยานสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่บางทีแฟนๆของ เวสต์แฮม อาจพอยอมรับได้ หากต้องตกชั้น แต่คว้าแชมป์ยุโรปถ้วยเล็ก

ฟันธง: สุ่มเสี่ยงตกชั้น

 

อันดับที่ 19 บอร์นมัธ

แต้ม: 24

ผลต่างประตู: -29

โปรแกรมที่เหลือ: ฟูแล่ม, ไบรท์ตัน, เลสเตอร์, สเปอร์ส, เวสต์แฮม, เซาแธมป์ตัน, ลีดส์, เชลซี, พาเลซ, แมนยู, เอฟเวอร์ตัน 

บอร์นมัธ คงเสี่ยงตกชั้นยิ่งกว่าเดิม หากพวกเขาไม่สามารถพลิกล็อคเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ในช่วงกลางเดือนมีนาคม แม้ว่าทีมของ แกรี่ โอนีล จะมีสถิติย่ำแย่ที่สุดในบรรดา 20 ทีมบนพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์

ความกดดันถาโถมเข้ามาใส่ โอนีล เรื่อยๆ นับตั้งแต่หลังบอลโลกเสร็จสิ้น เพราะพวกเขาแพ้ไปถึง 8 จาก 12 นัดหลังจากนั้น อีกทั้งการกลับมาของ เดวิด บรุ๊ค กองกลางที่เอาชนะโรคมะเร็งได้ ก็กลายเป็นข่าวดีแค่เรื่องเดียว ในเกมที่ เดอะ เชอร์รี่ส์ พ่าย วิลล่า 3-0 ก่อนเบรกทีมชาติ

เกมรุกอาจไม่แย่ที่สุด แต่ด้วยเกมรับที่เปราะบางเหลือเกิน เสียไปถึง 54 ลูกมากที่สุดในลีก ก็แสดงให้เห็นว่าถ้า บอร์นมัธ ไม่ปรับปรุงในจุดนี้ พวกเขาก็อาจรอดตกชั้นได้ยาก ไม่ว่าจะเจอกับทีมหนีตกชั้นด้วยกัน หรือทีมระดับหัวตารางก็ตาม

ฟันธง: ไม่รอด

 

อันดับที่ 20 เซาแธมป์ตัน

แต้ม: 23

ผลต่างประตู: -23

โปรแกรมที่เหลือ: เวสต์แฮม, แมนซิตี้, พาเลซ, อาร์เซน่อล, บอร์นมัธ, นิวคาสเซิ่ล, ฟอเรสต์, ฟูแล่ม,ไบรท์ตัน, ลิเวอร์พูล 

หลังจากที่ปลด นาธาน โจนส์ จากตำแหน่งกุนซือ เซาแธมป์ตัน ก็ดูดีขึ้นมาบ้างในยุคของ รูเบน เซลเลส เพียงแต่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มันสายเกินไปหรือเปล่า?

กุนซือชาวสแปนิช คือผู้อยู่เบื้องหลังในการพาทีมคว้าชัยเหนือ เชลซี และ เลสเตอร์ รวมไปถึงเกมที่ยันเสมอกับ แมนฯยูไนเต็ด และตามเจ๊า สเปอร์ 3-3 ทั้งๆที่โดนนำ 3-1 ด้วย 

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมการแข่งขันของ นักบุญแดนใต้ ไม่ได้เข้าทางในการหนีตกชั้นเท่าไหร่ เมื่อต้องดวลกับ 2 ทีมหัวตารางอย่าง อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ซิตี้ รวมไปถึงเกมออกไปเยือน เวสต์แฮม และ นิวคาสเซิ่ล

แต่อย่างน้อยก็มั่นใจว่า เซลเลส และลูกทีม จะไม่ยอมถอดใจ ทั้งๆที่ยังไม่ได้พยายามอย่างแน่นอน

ฟันธง: รอดยาก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง