คิดได้ยังไง : 9 ความเชื่อสุดแปลกประหลาดในวงการลูกหนัง

เคยลองสวมรองเท้าข้างซ้ายก่อนข้างขวามั้ย? หรือเอามือแตะหญ้าทุกครั้งก่อนจะลงสนามหรือเปล่า? ความเชื่อเหล่านี้ยังมีให้เห็นในกีฬาฟุตบอลอยู่ตลอด

เหล่าแข้งดังรวมไปถึงกุนซือทั่วโลกต่างมีเชื่อในเรื่องโชคลางอย่างสุดๆ ซึ่งบางอย่างมันอาจจะดูแปลกๆ หรือดูไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่

แม้หลายคนจะมองอย่างไร แต่เหล่านักเตะกับกุนซือเหล่านี้ก็ไม่ได้สนใจ และ UFA ARENA จะพาไปพบ 9 ความเชื่ออันแปลกประหลาดของเหล่าคนดังในวงการลูกหนัง ผ่านบทความนี้

 

แกรี่ ลินิเกอร์ : ตอนซ้อมพี่ไม่ยิง

ใครจะไปคิดว่าอดีตกองหน้าเบอร์หนึ่งทีมชาติอังกฤษ อย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ ก็มีพฤติกรรมแปลกเหมือนกัน เพราะตัวเขาไม่เคยยิงประตูตอนซ้อมเลยซักครั้ง เนื่องจากต้องการซัดประตูจริงๆ ในสนามมากกว่า

ซึ่งเหตุผลแปลกๆของ ‘มิสเตอร์ ไนซ์กาย’ ก็ดูจะเข้าท่าอยู่ไม่น้อย หลังตัวเขาได้รางวัลรองเท้าทองคำในฟุตบอลปี 1986 ที่เม็กซิโก โดยซัดไปทั้งหมด 6 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 5 นัดในทัวร์นาเมนต์นั้น

 

จอห์น เทอร์รี่ : ขอพี่ฉี่โถประจำ

จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ นั้นมีพิธีกรรมแปลกๆก่อนลงสนามให้ เชลซี และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้เลย นั่นก็คือการปัสสาวะของเขานั่นเอง

เจที มักจะใช้โถปัสสาวะประจำแค่โถเดียวใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เท่านั้น แม้จะมีคนใช้งานอยู่ เทอร์รี่ ก็จะยืนรอจนกว่าโถพิเศษของเขาจะว่าง เชื่อว่าใครหลายๆ คนก็เป็นแบบนี้เหมือนกันใช่มั้ยล่ะ?

 

เปเล่ : เสื้อนำโชค

ในสมัยค้าแข้งอยู่ เปเล่ ตำนานแข้งชาวบราซิลก็ถูกพูดถึงว่าตัวเขามักจะมีความเชื่อในเรื่องโชคลางแปลกๆ อยู่เสมอ เช่นครั้งหนึ่ง เขาเคยหมอบเสื้อที่ใส่ลงสนามให้กับแฟนบอล แต่หลังจากนั้นฟอร์มในสนามของอดีตแข้ง ซานโตส ดันตกลงซะงั้น

เจ้าของฉายา ‘ไข่มุกดำ’ จึงขอร้องให้เพื่อนไปเอาเสื้อตัวนั้นคืนมาจากแฟนบอลให้หน่อย ซึ่งเขาก็สามารถกลับมาคืนฟอร์มได้จริงๆ แต่ไม่แน่ใจแฟนบอลคนนั้นจะยินดีกับ เปเล่ หรือเปล่านะ

 

เมาริซิโอ ซาร์รี่ : ผู้มากด้วยความเชื่อ (แปลกๆ)

กุนซือชาวอิตาเลี่ยนมีเหตุผลแปลกๆหลายอย่างไม่ว่าจะจะเป็นเรื่องโชคร้ายจะเกิดขึ้น หากเขาไปสัมผัสบอลที่ใช้แข่งก่อนเกม เพราะฉะนั้นเขาคงบังเอิญไปแตะมันที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยมแน่ๆ เลย จึงทำให้ เชลซี ของเขา โดนแมนซิตี้ถล่มไป 6-0 ช่วงฤดูกาล 2018-19

นอกจากนี้ ครั้งหนึ่ง ซาร์รี่ ยังเคยให้นักเตะในทีมละเลงรองเท้าเป็นสีดำเพื่อโชคราง รวมไปถึงให้นั่งที่เดิมในโรงอาหารเมื่อทีมของเขาชนะติดต่อกัน และตัวเขาเองต้องดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่ให้ตรงเวลาในแต่ละวันด้วย

 

ทีมชาติฝรั่งเศสปี 1998 : จุมพิตบรรลือโลก

ฟาเบียง บาร์กเตซ ถือเป็นนักเตะที่นำโชคมาให้กับทัพ ‘ตราไก่’ ในฟุตบอลโลกปีนั้นจริงๆ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขาต่างสัมผัสตัวนายทวารคนนี้เพราะเชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้ เช่นเดียวกับการฟังเพลง I Will Survive ของ กลอเรีย เกย์เนอร์ ที่โค้ชในทีมมักเปิดให้ฟังในห้องแต่งตัว

แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือการที่ โลร็องต์ บล็องก์ บรรจงจุมพิตเบาๆ ไปที่ศีรษะของนายทวารไร้ผมคนนี้ก่อนเกมทุกครั้งเพื่อขอให้ทีมโชคดี และนั่นน่าจะเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกในปีนั้นไปครองได้ล่ะมั้ง?

 

ผู้จัดการทีม มิดแลนด์ส พอร์ตแลนด์ ซีเมนต์ : ขอพรกับจระเข้?

เรื่องนี้น่าจะไปดูไปกันใหญ่แล้ว หลังกุนซือทีม มิดแลนด์ส พอร์ตแลนด์ ซีเมนต์ สโมสรในประเทศซิมบับเว บอกให้ลูกทีมของเขาทั้ง 17 คนลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำเซมเบซี เพื่อชำระล้างสิ่งที่ชั่วร้ายและทำให้เขาโชคดีในการแข่งขัน แต่เหมือนโค้ชในทีมจะลืมบอกไปว่าในแม่น้ำมีจระเข้อาศัยอยู่เต็มไปหมด!

มีแค่ 16 คนเท่านั้นที่รอดจากการขอพรสุดประหลาดนั้นมาได้ มีการสันนิษฐานว่านักเตะคนที่หายไปน่าจะจมน้ำ ไม่ก็ถูกจระเข้รับประทานไปเรียบร้อยแล้ว และคุณคงไม่รู้สินะว่าพวกเขาแพ้ในการแข่งขันนัดต่อไปหลังจากเหตุการณ์นั้น

 

เดวิด เจมส์ : จิตรกรรมฝาผนังห้องน้ำ

อดีตนายทวาร ลิเวอร์พูล เคยกล่าวไว้ว่าในปัจจุบันมีนักฟุตบอลไม่น้อยที่เชื่อในเรื่องโชคลาง และมีอีกมากเช่นกันที่ถูกเรื่องนั้นครอบงำมากจนเกินคนทั่วไป แต่ทว่าจริงๆแล้ว เขาไม่ควรออกมาพูดแบบนั้นเลย เพราะเขาดูจะเชื่อเรื่องนี้มากกว่าว่าใครเลยล่ะ แถมน่าจะหนักว่าชาวบ้านด้วยซ้ำไป

ก่อนลงสนาม เจมส์ ไม่ปริปากพูดคุยกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น และตัวเขาจะเข้าไปรอในห้องน้ำหรือโถปัสสาวะจนกระทั่งไม่มีคนอยู่ในนั้นกับเขาแล้ว จากนั้นเจ้าตัวค่อยละเลงปัสสาวะลงบนฝาผนัง!? และเรามองว่ามันดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่นะหากจะมองหาโชคหรืออะไรแบบนั้น

 

โยฮัน ครัฟฟ์ : หมากฝรั่งนำโชค

โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นอีกคนทีมีพฤติกรรมประหลาดอยู่ด้วย โดยในสมัยที่เจ้าของฉายา ‘นักเตะเทวดา’ ค้าแข้งกับอาแจ็กซ์ เขาต่อยเข้าไปที่ท้องของ แกรต บัลส์ นายทวารเพื่อนร่วมทีมก่อนลงแข่งเสมอ 

และพฤติกรรมอีกอย่างที่เขามักจะทำเป็นประจำก็คือ การคายหมากฝรั่งลงในแดนของคู่แข่งก่อนเกมเริ่ม ซึ่งเขาเชื่อว่าจะนำโชคดีและชัยชนะมาสู่ทีม ซึ่งครัฟฟ์ยืนยันว่าการกระทำนี้มีผลจริงๆ หลังตัวเขาลืมคายหมากฝรั่งลงในเกมนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพปี 1969 ทำให้อาแจ็กซ์ของเขาพ่าย เอซี มิลานไปด้วยสกอร์ 4-0 ในท้ายที่สุด 

บทความที่เกี่ยวข้อง