ยังไหว : 8 แข้งจากฟุตบอลโลก 2002 แต่ยังเล่นอยู่ในปี 2022

ฟุตบอลโลกปี 2002 ถือเป็นทัวร์นาเม้นต์ในความทรงจำของใครหลายๆคน ถึงผ่านไปนานร่วม 20 ปีแล้วก็ตาม และมีนักเตะบางคนจากรายการนั้นที่ยังค้าแข้งมาจนถึงทุกวันนี้

เหตุที่ได้รับการจดจำเช่นนั้น เนื่องจากนี่เป็นเวิลด์คัพครั้งแรก ที่จัดขึ้นในทวีปเอเชีย โดยมี ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รับบทเป็นประเทศเจ้าภาพร่วม และแน่นอนว่ามีนักเตะมากมายได้ลงเล่นในรายการนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ผ่านไป 20 ปีจนถึงฟุตบอลโลกหนล่าสุดที่ กาตาร์ ในปี 2022 แต่ก็มีนักเตะบางคนจากทัวร์นาเม้นต์นั้นที่ปัจจุบันก็ยังค้าแข้งอยู่ แม้อายุแตะ 40 ปีแล้ว และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 นักเตะจากบอลโลกปี 2002 ที่ยังค้าแข้งอยู่ในปัจจุบันผ่านบทความนี้

 

จานลุยจิ บุฟฟ่อน

ไม่มีใครปฏิเสธว่า จานลุยจิ บุฟฟ่อน คือผู้รักษาประตูระดับตำนานอีกคนของวงการฟุตบอล และจริงๆในปี 2002 ไม่ใช่ฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขาด้วย

นายด่านวัยเก๋า ติดทีมชาติอิตาลี ในฟุตบอลโลกหนแรกเมื่อปี 1998 ที่ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ โดยในตอนนั้นเขามีอายุ 20 ปี ซึ่งรับบทเป็นมือสองต่อจาก จานลูก้า ปายูก้า เพียงแต่ไม่ได้ลงเล่นเลย

อย่างไรก็ตาม จีจี้ กลายเป็นมือหนึ่งของ ‘อัซซูรี่’ ในปี 2002 หลังเริ่มยืดตำแหน่งได้ในปี 2000 เพียงแต่บอลโลกครั้งแรกของเขาไม่เป็นไปตามแผนเท่าไหร่ เมื่อพ่ายให้กับ เกาหลีใต้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากประตูโกลเก้น โกล ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งเต็มไปด้วยการตัดสินที่ช่วงกังขามากมายในเกมนั้น

แต่อีก 4 ปีต่อ บุฟฟ่อน ก็คว้าแชมป์โลกกับทีมชาติได้สำเร็จ ร่วมถึงประสบความสำเร็จมากมายกับ ยูเวนตุส ตลอด 19 ปี โดยปัจจุบันเขาย้ายกลับมาเฝ้าเสาให้ ปาร์ม่า ทีมแรกที่เขาแจ้งเกิดช่วงยุคกลาง 90 และในวัย 44 ปี ก็ยังครองตำแหน่งมือหนึ่งของทีมด้วย

 

ฆัวกิน ซานเชซ

ฆัวกิน ซานเชซ ติดทีมชาติสเปนในปี 2002 ชุดลุยฟุตบอลโลกที่ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพร่วม แต่เขาคือคนที่พลาดจุดโทษลูกที่ 4 ในเกมที่พ่าย โสมขาว ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งอีกเกมที่เต็มไปด้วยข้อกังขาเช่นกัน 

ณ เวลานั้น ปีกชาวสแปนิช มีอาการบาดเจ็บติดตัว บวกกับประสบการณ์อันน้อยนิดในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดัน อย่างไรก็ตามในวัย 41 ปี ฆัวกิน พา เรอัล เบติส คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นแชมป์เมเจอร์ถ้วยแรก ที่ทีมทำได้ นับตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่เขาเล่นให้กับสโมสร

ปัจจุบัน ฆิวกิน ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลงเล่นแต่อย่างใด และพร้อมค้าแข้งต่อไปอีกซีซั่น หากสามารถพา เบติโก้ ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า

 

จุนอิจิ อินาโมโตะ

เชื่อว่าแฟนบอลอังกฤษ คงจดจำชื่อของ จุนอิจิ อินาโมโตะ ได้ไม่มากก็น้อย หลังเคยเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัวช่วงสั้นๆ รวมไปถึงเล่นกับ ฟูแล่ม กับ เวสต์บรอม ซึ่งเขาลงเล่นฟุตบอลโลกในปี 2002 หลังจากเริ่มต้นอาชีพนี้ 5 ปี

แม้ถูก ‘ปืนใหญ่’ ปล่อยตัวไม่ยืมใช้งานต่อ ก่อนทัวร์นาเม้นต์เริ่มต้นในปีนั้น แต่บางทีทีมจาก ลอนดอน อาจคิดผิด เมื่อ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ซัดไป 2 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มที่ดวลกับ เบลเยี่ยม และ รัสเซีย ก่อนไปพ่ายให้กับ ตุรกี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

หลังจากเล่นในอังกฤษ ดาวเตะเลือดซามูไร ก็ย้ายไปเล่นทั้งใน ตุรกี, เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ก่อนย้ายกลับบ้านเกิดตั้งแต่ปี 2010 และวนเวียนค้าแข้งอยู่ในลีกแดนปลาดิบจนถึงปัจจุบัน โดยตอนนี้เล่นให้กับ นันคัตซึ เอสซี ลีกดิวิชั่น 5 ของประเทศด้วยวัย 43 ปี

 

ชินจิ โอโนะ

ชินจิ โอโนะ ถือเป็นนักเตะรุ่นราวคราวเดียวกับ จุนอิจิ อินาโมโตะ ที่ทำผลงานได้ต้องตาในเวิลด์คัพฉบับเอเชียเมื่อปี 2002 โดย ณ เวลานั้นเขาย้ายมาค้าแข้งในยุโรปแล้วกับ เฟเยนูร์ด สโมสรดังในเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ตั้งแต่ปี 2001

นอกจากนี้ยังเคยย้ายไปเล่นทั้งใน เยอรมัน กับ โบคุ่ม และ ออสเตรเลีย กับ เวสเทิร์น ซิดนี่ย์ วันเดอร์เรอร์ส ก่อนย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดหลังปี 2014 เป็นต้นมา

แต่ โอโนะ แตกต่างจาก อินาโมโตะ ตรงที่เขายังค้าแข้งอยู่ในลีกสูงสุดของแดนปลาดิบ โดยตอนนี้เล่นให้กับ คอนซาโดเร่ ซัปโปโร แม้ยังไม่ใช่ตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ก็ตาม

 

บาร์โธโลมิว อ็อกเบเช่

บาร์โธโลมิว อ็อกเบเช่ ในวัย 38 ปี ยังคงค้าแข้งในอินเดีย ซูเปอร์ ลีก ช่วง 5 ปีหลังสุด โดยตอนนี้เล่นกับ ไฮเดอราบัด เอฟซี ตั้งแต่ปี 2021

แต่ในปี 2002 เขาถือเป็นวันเดอร์คิดของวงการลูกหนังอีกคนที่น่าจับตามองในวัย 17 ปี หลังติดทีมชาติไนจีเรีย ลุยบอลโลกในปีนั้น แถมได้ประเดิมชุดใหญ่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2001-02 ด้วย

อย่างไรก็ตาม กองหน้าชาวไนจีเรีย ไม่สามารถปรับตัวกับชีวิตในปารีสได้ จนกลายเป็นแข้งจอมพเนจรอีกคนของวงการ โดยตระเวนเล่นมากถึง 12 สโมสรในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา

 

โรเก้ ซานตา ครูซ

เชื่อว่าแฟนบอลยุค 2000 ต้น คงจดจำชื่อของ โรเก้ ซานตา ครูซ ได้ดี ทั้งในดาวยิงของ บาเยิร์น มิวนิค หรือกองหน้าฟอร์มระเบิดสมัยเล่นให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่มาร์ค ฮิวจ์ส คุมทัพ 

นอกจากนี้ หอกหน้าหล่อ ยังได้ลงเล่นให้กับทีมชาติ ปารากวัย ชุดลุยบอลโลกปี 2002 ซึ่งในทีมมีนายทวารลีลาเด็ดอย่าง โชเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต อยู่ด้วย โดยเขาลงเล่นให้ทีมชาติ 112 นัด ยิงไป 32 ประตู แม้ลาทีมชาติไปตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ยังครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติจนถึงปัจจุบัน

ณ ตอนนี้ ซานตา ครูซ ในวัย 41 ปี ก็ยังค้าแข้งอยู่ โดยเพิ่งย้ายจาก โอลิมเปีย สโมสรแรกที่เขาสร้างชื่อในยุค 90 มาเล่นให้กับ ลิเบอร์ตาด ทีมคู่อริในช่วงต้นปี 2022

 

คาร์ลอส คาเมนี่

คาร์ลอส คาเมนี่ ได้รับการจับตามองอย่างมาก หลังพาทีมชาติแคเมอรูน คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2000 ด้วยวัยเพียง 16 ปี อีกทั้งติดทีมชาติลุยบอลโลกในอีก 2 ปีต่อมาด้วย

แม้ไม่ได้ลงเฝ้าเสาให้ทัพ ‘หมอผี’ เลยในรายการนั้น แต่เขาก็กลายเป็นตัวหลักในทีมชาติในเวลาต่อมา และเตรียมได้ลงเล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรกในปี 2010 ทว่า พอล เลอ แกน กุนซือของทีม ดันเลือกให้ โซเลย์มานู ฮามิดู ลงเป็นมือหนึ่ง และกลายเป็นอีกครั้งที่ คาเมนี่ ต้องดูทีมตกรอบแรกอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในระดับสโมสร นายด่านชาวแคเมอรูน สร้างชื่ออย่างมากในสเปน ทั้งกับ เอสปันญ่อล ที่คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ พร้อมช่วยให้ทีมไปถึงรอบชิง ยูฟ่า คัพ ในปี 2007 ด้วย อีกทั้งเป็นนักเตะ มาลาก้า ชุดทะลุไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน แชมเปี้ยนส์ลีก

ปัจจุบัน คาเมนี่ ในวัย 38 ปี ยังเล่นให้กับ ซานต้า โคโลม่า สโมสรจาก อันดอร์ร่า โดยลงเล่นร่วมกับอดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง อเล็กซ์ ซง ด้วย

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 

คงไม่ต้องบรรยายฝีเท้าหรือความยอดเยี่ยมของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ให้มากความ เพราะหลายคนน่าจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเต็มๆ 2 ตาแล้วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

ซลาตัน ติดทีมชาติสวีเดนครั้งแรกในปี 2001 ช่วงยังเล่นกับ มัลโม่ ก่อนย้ายไปเล่นกับ อาแจ็กซ์ ในซัมเมอร์ปีนั้น พร้อมแจ้งเกิดเต็มตัวจนมีชื่อติดทัพ ‘ไวกิ้ง’ ลุยบอลโลกในปี 2002 และได้เล่น เวิลด์คัพ อีกครั้งในอีก 4 ปีต่อมาที่ เยอรมัน ทว่านั่นกลายเป็นบอลโลกหนสุดท้ายของเขา เพราะหลังจากนั้นทีมของเขาไม่สามารถคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายได้เลย

อย่างไรก็ตาม หอกสวีดิช ก็ยังประสบความสำเร็จในอาชีพ ทั้งกับ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, เปแอสเช และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และในวัย 41 ปี เจ้าตัวก็ยังเล่นให้กับ ‘รอสโซเนรี่’ อยู่ แม้มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยๆจนแทบไม่ได้ลงสนาม แต่เขาก็ยังเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลต่อทีมอยู่ดี

ทว่าเรื่องเหล่านี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน หาก อิบราฮิโมวิช เลือกย้ายไปเล่นกับ คิวพีอาร์ ในช่วงที่ยังเป็นดาวรุ่งในมัลโม่ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง