ผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จทุกคนย่อมมีมือขวาคู่ใจที่คอยชี้แนะและให้คำปรึกษาต่อกันอยู่แล้ว จนพาทีมสู่เป้าหมายที่วางไว้
แม้กุนซือมักเป็นฝ่ายที่ได้รับเครดิตจากกูรูหรือแฟนบอลอยู่เสมอหากพาทีมประสบความสำเร็จ แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากเหล่ามือขวาด้วยที่คอยหาข้อมูลหรือดูแลรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในทีมให้อยู่บ่อยครั้ง
แต่ในบางครั้ง ผู้ช่วยกุนซือหลายคนก็เลิกเดินออกมาจากบทบาทเดิมของตัวเองและก้าวขึ้นไปเป็นกุนซือชื่อดังได้ อย่างที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำได้ในช่วงยุค 2000 ต้นๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยโค้ชที่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำหน้าที่ผู้จัดการทีมได้อย่างฉกาจฉกรรจ์ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม และนี่คือ 8 ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ไปไม่รอดกับงานกุนซืออาชีพ
สตีฟ แม็คคาเรน
งานผู้ช่วยฯ : อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด, ดาร์บี้ เค้าท์ตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทีมชาติอังกฤษ, คิวพีอาร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
งานกุนซือ : มิดเดิลสโบรห์, อังกฤษ, ทเว้นเต้, โวลฟ์บวร์ก, น็อตติ่งแฮม ฟอเรสต์, ดาร์บี้ เคาท์ตี้, นิวคาสเซิล, คิวพีอาร์
บิ๊กแม็คสร้างชื่อด้วยการเป็นหนึ่งในมือขวาที่ดีที่สุดของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สมัยอยู่ในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่างานกุนซือจริงเข้ากลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เริ่มแรกกับบทบาทใหม่นี้ แม็คคาเรนก็ทำได้โอเคเลย หลังพาทีม ‘สิงห์แดง’ มิดเดิลสโบรห์ เข้าชิงยูฟ่า คัพ แม้จะแพ้ต่อเซบีย่าไป 4-0 ก็ตาม รวมไปถึงสมัยคุมทีมในฮอลแลนด์กับ เอฟซี ทเวนเต้ เขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกเอริดรวิซี่ได้ด้วย แต่ทว่าทีมที่เหลือนั้นไม่มีอะไรให้จดจำนอกจากความล้มเหลว
ในทีมชาติอังกฤษ หลายคนจำภาพแม็คคาเรนยืนกางร่มอยู่ข้างสนามได้ดีในวันที่เขาพาทีมไม่ผ่านรอบคัดเลือกยูโร 2008 ขณะที่ตอนคุม โวลฟ์บวร์ก, น็อตติ่งแฮม ฟอเรสต์, ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ หรือ นิวคาสเซิลก็ไม่ดูแย่ไม่ต่างกัน
แม็คคาเรนทิ้งทวนงานโค้ชหนสุดท้าย ด้วยการโดนคิวพีอาร์ปลดจากตำแหน่งกุนซือในเดือนเมษายนปี 2019 หลังพาทีมชนะแค่ 3 เกมจาก 19 เกมล่าสุด ก่อนปัจจุบันกลับมารับงานที่ตัวเองถนัดอีกครั้งด้วยการเป็นผู้ช่วยของ เอริค เทน ฮาก ในการพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ
งานผู้ช่วยฯ : เชลซี
งานกุนซือ : เอ็มเค ดอนส์, เวสต์บรอม, เชลซี, ชาลเก้, แอสตัน วิลล่า
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโออาจพา เชลซี คว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก และ เอฟเอ คัพได้ในปีเดียวกัน แต่ทว่า กุนซือแดนมักกะโรนีก็ไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นผู้จัดการทีมระดับท็อปของโลกได้เลยหลังจากนั้น
อดีตกองกลาง ‘สิงห์บลูส์’ เริ่มต้นเส้นทางคุมทีมกับเอ็มเค ดอนส์ และหลังจากที่พาทีมไปเล่นรอบเพลย์อ็อฟเลื่อนชั้นสู่ลีกวันได้ในฤดูกาลเดียว ปีต่อมาก็ได้ย้ายไปคุมทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง เวตส์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก่อนพา ‘เดอะ แบ็กกี้ส์’ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แต่ทว่าในปีต่อมาผลงานของทีมดูเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยก่อนจะย่ำแย่ลงอย่างชัดเจน และโดนปลดในช่วงกลางฤดูกาล 2010-2011
ดิ มัตเตโอขึ้นสู่จุดสูงสุดของตัวเอง หลังอังเดร วิลาส โบอาส ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเชลซี เขาก็ก้าวขึ้นจากตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชมาเป็นกุนซือรักษาการแทน ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ควบกับแชมป์เอฟเอ คัพในปีเดียวกัน
แต่ทันที่ได้สัญญาถาวรในฤดูกาลต่อมา ผลงานของทีมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ก่อนจะต้องเก็บกระเป๋าออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ไป จากนั้นก็ไปล้มเหลวต่อกับชาลเก้และแอสตัน วิลล่าในเวลาต่อมา
แกรี่ เนวิลล์
งานผู้ช่วยฯ : ทีมชาติอังกฤษ
งานกุนซือ : บาเลนเซีย
สำหรับตัวแกรี่ เนวิลล์เอง หลายคนมองว่าเขาคือกูรูวิจารณ์ลูกหนังที่ล้มเหลวในเส้นทางสายกุนซือ มากกว่าเป็นผู่ช่วยโค้ชที่ล้มเหลวในงานด้านนี้ แต่ขอเตีอนความจำซักหน่อยว่า อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์รายนี้เคยรับงานเป็นมือขวา รอย ฮอจ์ดสัน ในทีมชาติอังกฤษอยู่ถึง 4 ปี
ในช่วงท้ายที่เขาเป็นผู้ช่วยโค้ชในทัพ ‘สิงโตคำราม’ เนวิลล์ผู้พี่อยากลองวิชาด้วยการคุมทีม บาเลนเซีย ในลาลีก้า สเปน แต่ทว่าเขาพาทีมแพ้ไป 11 จาก 33 นัดและทำหน้าที่กุนซือแค่ 119 วันเท่านั้นก่อนจะโดนปลดในเวลาต่อมา
และนับตั้งแต่ที่เขาออกจากการทำหน้าที่ในทีมชาติอังกฤษ เนฟก็ไม่เคยกลับไปรับงานคุมสโมสรไหนอีกเลย และมุ่งมั่นทำหน้าที่กูรูวิจารณ์ยับอยู่ในสกาย สปอร์ตที่เขาถนัดต่อไป
จอห์น คาร์เวอร์
งานผู้ช่วยฯ : นิวคาสเซิล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, ลูตัน ทาวน์, พลีมัธ, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เวสต์บรอม, สกอตแลนด์
งานกุนซือ : นิวคาสเซิล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, โตรอนโต้ เอฟซี, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, โอโมเนีย นิโคเซีย
ผู้ช่วยจอมพเนจรอย่างจอห์น คาร์เวอร์ มักจะวนเวียนกับการเป็นกุนซือรักษาการในวงการลูกหนังแดนผู้ดีอยู่บ่อยครั้ง โดยเริ่มงานนี้สมัยที่ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน คุมทีม นิวคาสเซิ่ล อยู่ ก่อนจะได้รับหน้าที่เป็นกุนซือรักษาการอยู่ 1 นัด เช่นเดียวกับตอนเป็นผู้ช่วยให้เควิน แบล็คเวลล์ ในสโมสรลีดส์
คาร์เวอร์ได้เป็นกุนซือเต็มตัวครั้งแรกในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ กับ โตรอนโต้ เอฟซี แต่ทว่าเขาพาทีมชนะแค่ 12 จาก 40 นัดที่คุมก่อนจะถูกปลดเพื่อเซ่นผลงานห่วยในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นเขาก็กลับไปผู้ช่วยโค้ชกับ พลีมัธ, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิล ก่อนจะรับโอกาสพิสูจน์ตัวเองในการคุมทีมอีกครั้งกับ ‘สาลิกาดง’ ซึ่งก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แม้เขาจะไปประสบความสำเร็จอยู่เล็กน้อยกับทีมในไซปรัสอย่าง โอโมเนีย นิโคเซีย แต่ในตอนนี้เขาก็กลับมาเป็นผู้ช่วยให้กับ สตีฟ คลาร์ก ในทีมชาติสกอตแลนด์อยู่ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน
แซมมี่ ลี
งานผู้ช่วยฯ : โบลตัน, ลิเวอร์พูล, เซาธ์แฮมป์ตัน, ทีมชาติอังกฤษ, คริสตัล พาเลซ, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์บรอม
งานกุนซือ : โบลตัน
มือขวาคู่ใจของแซม อัลลาไดซ์, แซมมี่ ลี ตามติดกุนซือวัยทองตามตั้งแต่สมัยคุมทีม โบลตัน ไปจนถึง เอฟเวอร์ตัน รวมถึงตอนที่บิ๊กแซมนั่งเก้าอี้กุนซือในทีมชาติอังกฤษและคริสตัล พาเลซด้วย
ลี เคยทำหน้ากุนซือเป็นครั้งแรกกับโบลตันแทนที่ ‘บิ๊กแซม’ ในปี 2007 แต่ผลงานการคว้าชัยแค่ 3 จาก 14 นัดที่หน้าที่นี้ชัดเจนว่ายังไงอดีตกองกลาง ‘หงส์แดง’ ก็เหมาะกับงานผู้ช่วยกุนซือมากกว่าการคุมทีมเองเป็นไหนๆเลย และตอนนี้ก็กำลังทำหน้าที่นี้อยู่กับ เวสต์บรอม
โทนี่ อดัมส์
งานผู้ช่วยฯ : พอร์ทสมัธ
งานกุนซือ : วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส, พอร์มสมัธ, เอฟเค กาบาล่า, กรานาด้า
ตำนานกองหลังจากอาร์เซน่อล เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกุนซือกับสโมสร วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส แต่ด้วยความที่ยังเป็นคนหน้าใหม่และยังไม่มีประกบการณ์ในวงการนี้ เขาพาทีมชนะไปแค่ 10 จาก 48 นัด และทำหน้าที่ได้แค่ปีนิดๆเท่านั้น
หลังจากนั้นเขาได้ไปหาประสบการณ์กับทีมเยาวชนของ เฟเยนูร์ด และไปเป็นแมวมองให้ ‘ปืนใหญ่’ ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้ช่วยโค้ชของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ใน พอร์ทสมัธ และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพในปี 2008
ต่อมาอดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษได้หวนกลับไปงานกุนซืออีกครั้งกับ ปอมบี่ย์ ในเดือนตุลาคมปี 2008 แต่ทว่าฝีมือการคุมทีมก็ยังไม่ได้พัฒนาไปมากนัก และถูกปลดในเวลาต่อมา จากนั้นก็ย้ายไปคุมทีม เอฟซี กาบาล่า ในลีกอาเซอร์ไบจาน ช่วงปีพฤษภาคมปี 2010 ถึง เดือนพฤศจิกายนปี 2011 และทีมล่าสุดที่คุมอย่างกรานาด้าก็เข้าขั้นย่ำแย่ที่สุดที่เขาเคยคุมมา โดยพาทีมแพ้ไป 7 นัดรวดจากทั้งหมดจาก 7 เกมที่ทำหน้าที่ข้างสนาม
สตีฟ คล้าร์ก
งานผู้ช่วยฯ : นิวคาสเซิล, เชลซี, เวสต์แฮม, ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า
งานกุนซือ : นิวคาสเซิล, เวสต์บรอม, เร้ดดิ่ง, คิลมาร์น็อค, สกอตแลนด์
แม้ว่าตัว สตีฟ คล้าร์ก จะเริ่มงานโค้ชด้วยการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมในสโมสร นิวคาสเซิล แต่หลายคนจดจำเขาได้ในตอนที่รั้งตำแหน่งมือขวาของ โชเซ่ มูรินโญ่ในสมัยแรกที่เขาคุมเชลซีและพาทีมก้าวขึ้นไปยอดสโมสรในเกาะอังกฤษ
ต่อมา คล้าร์ก ลา ‘สิงห์บลูส์’ในปี 2008 เพื่อย้ายไปร่วมงานกับเพื่อนเก่าอย่าง จานฟลังโก้ โซล่า ที่ เวสต์แฮม ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับ เคนนี่ ดัลกริช, รอย ฮอจ์ดสัน และ ราฟเอล เบนิเตซที่ลิเวอร์พูล
อดีตแข้งชาวสก็อต ได้รับงานกุนซือครั้งแรกกับเวสต์บรอม และพาทีมจบอันดับ 8 ได้ในตารางพรีเมียร์ลีก แม้จะเริ่มต้นได้ดีในปีแรก แต่ต่อมาคล้ากกลับพาทีมวนเวียนอยู่ท้ายตารางจนต้องถูกเด้งออกทีมไป และกับทีมใหม่อย่างเร้ดดิ่งแต่ก็อยู่ได้ปีกว่าๆก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกับตอนอยู่เวสต์บรอม
หลังคุม คิลมาร์น็อค ได้ 2 ปี คล้าร์ก ก็ได้รับงานใหญ่ด้วยการคุมทีมชาติสกอตแลนด์ ตั้งแต่ปี 2019 และดูไปได้สวยไม่น้อยหลังอยู่ในตำแหน่งนี้แบบยาวๆจนถึงปัจจุบัน
ไมค์ ฟีแลน
งานผู้ช่วยฯ : นอริช ซิตี้, แบล็คพูล, สตอร์คพอร์ท เค้าทตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นอริช ซิตี้, ฮัลล์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
งานกุนซือ : ฮัลล์ ซิตี้
ไมค์ ฟีแลนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ช่วยกุนซือที่ดีที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังอังกฤษ ซึ่งหลายคนจดจำเขาได้ดีจากการเป็นมือขวาของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึง 5 ปี และมีส่วนให้ทีมประสบความสำเร็จมากมายในช่วงนั้น
ทันที่ เฟอร์กี้ วางมือจากการคุมทีม เขาก็ลา ‘ทีมปีศาจแดง’ ตาม และเข้าไปเป็นผู้ช่วยให้ทีมนอริช ซิตี้ และ ฮัลล์ ซิตี้ ในเวลาต่อมา ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นกุนซือเต็มตัวของ ‘เดอะ ไทเกอร์’ ในปี 2016
ฟีแลน เริ่มต้นได้สวยหลังพาทีมเอาชนะได้ 2 เกมแรกในลีก จนคว้ารางวัลผู้จัดการยอดเยี่ยมประจำเดือนจากพรีเมียร์ลีกไปครอง แต่ผลงานก็ค่อยตกลงเรื่อยๆจนร่วงไปอยู่โซนตกชั้นและทำให้เขาถูกปลดในเดือนมกราคมปี 2017
ต่อมาในเดือนธันวาคมปี 2018 ฟีแลนกลับมาอยู่กับบ้านหลังเก่าที่คุ้นเคยอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง และช่วยโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในการกุมบังเหียน ‘ปีศาจแดง’ แต่ทำได้ราวๆเกือบ 3 ปี อดีตหอกชาวนอร์เวย์ ก็โดนเด้งพ้นตำแหน่ง และคาดว่า ฟีแลน ก็คงไม่ได้ไปต่อกับ ยูไนเต็ด เช่นกัน กับทีมยุคใหม่ในมือของ เอริค เทน ฮาก