ยืมจมูกหายใจ : 7 เกมใช้คู่แค้นช่วยสงเคราะห์ให้สมหวัง

ยืมจมูกหายใจ :  7 เกมต้องใช้คู่แค้นช่วยสงเคราะห์ให้สมหวัง

ในวงการฟุตบอล การทำตามเป้าหมายในแต่ละฤดูกาล ทั้งคว้าแชมป์ลีก หรือหนีรอดตกชั้น บางครั้งก็จำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่นเช่นกัน ต่อให้เป็นทีมคู่อริที่มีประวัติอย่างยาวนาน

เชื่อว่า อาร์เซน่อล ก็คงทำแบบนั้นอยู่เช่นกัน เมื่อหวังให้ เชลซี ทีมคู่แข่งจากลอนดอน หยุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาไว้ให้ได้ในเกมนัดต่อไป เพื่อให้ความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยังอยู่ในทางทฤษฎี แม้ในทางปฏิบัติจะยากสุดๆก็ตาม

อีกทั้งเหตุการณ์ที่กระอักกระอ่วนในลักษณะนี้มีให้เห็บ่อยๆ และมีอยู่หลายครั้งที่ทีมบนโลกนี้ต้องพึ่งพาผลการแข่งขันของอีกทีมเพื่อจุดประสงค์ของตนเอง แม้ทีมที่พวกเขาหวังพึ่งพานั้นจะเป็นทีมคู่แค้น

และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 7 เกมที่ต้องพึ่งคู่แค้นช่วยสงเคราะห์ แต่ว่าผลลัพธ์ก็ไม่ได้ออกมาสมหวังเสมอไปหรอกนะ

 

แมนฯยูไนเต็ด  2-1 สเปอร์ส, 1999

ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 1998-99 อาร์เซน่อล ต้องหวังให้คู่แค้นทีมอริร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเป็นทีมกลางตารางอยู่ในขณะนั้น บุกไปตัดแต้ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่กำลังเดินหน้าคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นดังกล่าว เพื่อช่วยสงเคราะห์ให้พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 2 ด้วย

สถานการณ์ในสนามของเกมดูมีสีสันขึ้นมาพอสมควร เมื่อจอร์จ เกรแฮม อดีตกองหน้า ‘ปืนใหญ่’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกุนซือ ‘ไก่เดือยทอง’ ดันส่งปีกร่างเล็กอย่าง โฆเซ่ โดมิงเกซ ลงเล่นเป็นหัวหอก แทนที่ ดาวิด ชิโนาล่า ี่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปตั้งแต่นาทีที่ 7 รวมถึงเหล่ายิดอาร์มี่ในรังเหย้าของ ‘ปีศาจแดง’ ต่างชูป้ายว่า “ปล่อยให้พวกเขาชนะซะ”

ผลลัพธ์ช่วงแรกดูเหมือนจะเป็นใจให้ เวนเกอร์ หลัง เลส เฟอร์ดินานด์ ยิงประตูให้ สเปอร์ส ออกนำ ยูไนเต็ด ก่อนในครึ่งแรก แต่ทว่าในครึ่งหลังความฝันของเหล่ากูนเนอร์ส ต้องพังทลายลง เมื่อ เร้ด เดวิลล์ ยิงแซง 2 ประตูรวดจาก เดวิด เบ็คแฮม และ แอนดี้ โคล ก่อนที่ทีมของเฟอร์กี้ จะกรุยทางสู่ ทริปเปิ้ลแชมป์ ในท้ายที่สุด

 

อังกฤษ 4-1 ฮอลแลนด์, ยูโร 96

หลังจากที่โดน พอล แก็สคอยน์ และทีมชาติอังกฤษ สอนเชิงบอลไป 2-0, สก็อตแลนด์ ก็สุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกยูโรปี 1996 และพวกเขาก็ต้องกลับบ้านพร้อมกับสวิตเซอร์แลนด์ทันทีหลังจากจบนัดสุดท้าย แม้ทีมของ เทอร์รี่ เวนาเบิลส์ จะช่วยเอาชนะ ฮอลแลนด์ ได้ถึง 4-1 ก็ตาม

ทัพนักเตะแดนวิสกี้ กดดัน ‘อัศวินสีส้ม’ ไปก่อนด้วยการเอาชนะทีมแดน ‘นาฬิกา’ ไป 1-0 ซึ่งต่อจากนั้นพวกเขาต้องพึ่ง อังกฤษ ให้เก็บคลีนชีทให้ได้เพื่อจะได้ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อไป และทุกอย่างก็เข้าทาง สก็อตแลนด์ เต็มๆ เมื่อทัพ ‘สิงโตคำราม’ ออกนำไปถึง 4-0 แต่ทว่า แพทริค ไคลเวิร์ต ก็มายิงประตูตีไข่แตกให้ ฮอลแลนด์ ไปในช่วงท้าย และส่งผลให้ สก็อตแลนด์ตกรอบด้วยประตูได้เสียที่แย่กว่าทีมแดนกังหันลม

 

ลิเวอร์พูล 2-1 แบล็คเบิร์น, 1995

‘หงส์แดง’ ต้อนรับการมาเยือนของว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งหลายคนทราบดีว่าถ้าเจ้าบ้านแพ้จะส่งผลให้ทีม ‘กุหลาบไฟ’ ได้ชูถ้วยเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก่อนเกมก็มีข่าวลือว่า ลิเวอร์พูล จะยอมให้ อลัน เชียเรอร์ และเพื่อนร่วมทีมคว้าชัยไปได้แบบสบายๆ เพื่อกันไม่ให้ทีมคู่รักคู่แค้นคว้าแชมป์ลีกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้ามกับข่าวลือเหล่ามาก เพราะทีมของรอย อีแวนส์ เอาชนะ แบล็คเบิร์น ไปได้ 2-1 จากฟรีคิกประตูชัยของ เจมี่ เรดแน็ปป์ ในช่วงต่อเวลา แต่เหล่า “เดอะ ค็อป” ก็ส่งเสียงดังลั่นในสนามแอนฟิลด์ เมื่อรู้ข่าวว่า ‘ปีศาจแดง’ พลาดท่าเสมอให้กับ เวสต์แฮม ส่งผลให้ทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช คว้าแชมป์ลีกไปครองในปีดังกล่าว

 

ลิเวอร์พูล 0-2 เชลซี, 2010

สถานการณ์ในปี 2010 คล้ายกับปี 1995 อยู่ไม่น้อย เมื่อ ลิเวอร์พูล เผชิญหน้ากับ เชลซี ในบ้านของตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์ในเกมนั้นส่งผลต่อการคว้าแชมป์ของ เชลซี และคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (และที่สำคัญพวกเขาจะถูกทีมคู่แค้น แซงหน้าคว้าแชมป์ลีกมากที่สุดในประเทศด้วย) แต่อีกแง่หนึ่งผลลัพธ์เกม ก็ส่งผลต่อโอกาสคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าของพวกเขาเองอีกเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ‘สิงห์บลูส์’ เป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ 2-0 จากความอนุเคราะห์ของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ส่งบอลคืนหลังพลาดจนโดน ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ฉกบอลได้ยิงประตู ก่อนที่ลูกของ คาร์โล อันเชล็อตติ จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองด้วยการเปิดบ้านถล่ม วีแกน ไปเละเทะ 8-0 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ส่วน ‘หงส์แดง’ ก็ได้ไปเล่นบอลยุโรปอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เป็นถ้วยเล็กอย่าง ยูโรป้า ลีก เท่านั้นเอง

 

เวสต์บรอม 2-0 พอร์ทสมัธ, 2005

ในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2004-05 เวสต์บรอม, เซาแธมป์ตัน, นอริช ซิตี้ และ คริสตัล พาเลซ ต้องทุ่มเทเกินร้อยเพื่อโอกาสอยู่รอดในลีกสูงสุดแดนผู้ดี โดย ‘เดอะ แบ็กกี้ส์’ ต้องเจอกับ  พอร์ทสมัธ ที่รอดตกชั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถ้า ‘ปอมปีย์’ บุกมาเอาชนะ เวสต์บรอม ที่ เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ได้ ก็จะส่งผลให้ ‘นักบุญ’ อยู่รอดต่อไปในลีก และถ้าแพ้ทีมที่เหลือ 3 ทีมข้างต้นต้องร่วงไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ทั้งหมด (ทั้งนี้ขึ้นอยู่ผลลัพธ์ของพวกเขาเองด้วย)

ผลที่ออกมา เวสต์บรอม เป็นฝ่ายเอาชนะไปตามคาด 2-0 และทำให้ ทีมแดนใต้ ที่เพิ่งพ่ายแก่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตกชั้นไป แต่สิ่งที่ช่วยให้ทีมของ ไบรอัน ร็อบสัน อยู่รอดได้อย่างปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์  คือผลเสมอ 2-2 ของ พาเลซ กับ ชาร์ลตัน ส่วน นอริช ไม่ต้องพูดถึงหลังโดน ฟูแล่ม อัดยับ 6-0

 

อาร์เซน่อล 2-3 ลีดส์, 2003

ช่วงท้ายฤดูกาล 2002-03 ถือเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ เฟอร์กี้ มีความสุขทุกครั้งยามนึกถึง โดยในวันนั้น ทีมที่เสี่ยงตกชั้นอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องออกไปเยือน ไฮบิวรี่ ของ อาร์เซน่อล ที่กำลังฟอร์มแรงลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่

ด้วยช่องว่างที่ห่างกันถึง 5 แต้ม เป็นเรื่องยากที่ อาร์เซน่อล จะทำแต้มตามยูไนเต็ดทัน หากแพ้ต่อ “ยูงทอง” ในนัดนี้ แม้ว่าในทางทฏษฏี เวนเกอร์ จะมีโอกาสทำได้ก็ตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าว เต็มไปด้วยความบันเทิงระดับดราม่า เมื่อทีมบุกไปนำเจ้าบ้านถึงสองครั้งสองครา ก่อนที่ มาร์ค วิดูก้า จะยิงประตูชัยให้ ลีดส์ ในช่วง 2 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา ทำให้ทีม ‘ปีศาจแดง’ ของ เฟอร์กี้ ไร้ความกังวลใดๆ ในเกมลีก 2 นัดสุดท้ายและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 8 ไปนอนกอดแบบสบายๆ

 

ลาซิโอ 0-2 อินเตอร์, 2010

โรม่า และ อินเตอร์ กำลังไล่ขับเคี่ยวแย่งแชมป์เซเรีย อาอย่างสนุกสุดมันส์ในฤดูกาล 2009-10 แต่ตัวแปรสำคัญในการคว้าแชมป์คือ ลาซิโอ อริร่วมเมืองของ โรม่า โดยทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องออกไปเยือนสตาดิโอ้ โอลิมปิโก้ โดยมีเป้าหมายเดียวคือคว้าชัยชนะเท่านั้น ซึ่งลูกทีมของเขาก็เอาชนะไปได้ 2-0 ตามเป้า

เรื่องตลกในเกมนัดดังกล่าว ก็เป็นที่กล่าวขานอยู่ไม่น้อย เนื่องจาก ‘อินทรีฟ้าขาว’ ควรทำแต้มให้ได้เพื่อหนีจากโซนตกชั้น แต่ป้ายแบนเนอร์ของกองเชียร์กลับสั่งให้นักเตะในทีมว่า ‘อย่าไปขวางทางพวกเขา’ และทันทีที่ อินเตอร์ ทำประตูขึ้นนำไปได้ พวกเขาก็โชว์ป้ายพร้อมด้วยคำว่า ‘โอ้ ไม่นะ’ เสมือนเป็นการประชดประชันว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ซักหน่อย

หลังเกม โรเซลล่า เซนซี่ บอสใหญ่ของ ‘หมาป่ากรุงโรม’ ได้ออกมาประนามการกระทำของแฟนบอลทีมคู่แค้นอริร่วมเมือง รวมถึงเหน็บทีม ‘งูใหญ่’ ว่าควรละอายใจกับชัยชนะในครั้งนี้ด้วย แต่คงไม่มีแฟน ‘เนรัซซูรี่’ คนไหนสนใจเรื่องนี้หรอก จริงมั้ยล่ะ?

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหลือจะเชื่อ : เมื่อเวสต์แฮมเคยตกชั้นทั้งที่เก็บทะลุ 40 แต้ม
เหลือจะเชื่อ : เมื่อเวสต์แฮมเคยตกชั้นทั้งที่เก็บทะลุ 40 แต้ม