ประเด็นเยอะไม่แพ้บอลนอก! ย้อนดราม่า VAR วงการฟุตบอลไทย

VAR

นับเป็นฤดูกาลที่ 3 แล้ว สำหรับศึก รีโว่ ไทยลีก ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีช่วยตัดสินอย่าง VAR มาใช้งาน ซึ่งที่ผ่านมานับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก มีส่วนช่วยตัดสินในจังหวะสำคัญหลายเกม อย่างไรก็ตามมีบางครั้งเช่นกันที่ผลการตัดสินยังดูคลุมเครืออยู่บ้าง

เช่นเดียวกันในวงการฟุตบอลต่างประเทศ เราได้เห็นดราม่าที่เกิดขึ้นจาก VAR มาตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ นั่นคือจังหวะที่ผู้ตัดสิน VAR ลืมตีเส้นเช็คล้ำหน้าประตูตีเสมอของ เบรนท์ฟอร์ด ในเกมบุกเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 และนั่นนำมาซึ่งการตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตราฐานการใช้งานเทคโนโนยีนี้

ย้อนกลับมาที่วงการฟุตบอลไทย ที่ผ่านมาเคยมีหลายประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นจากการใช้  VAR ให้เห็นเช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาไปย้อนดูกันว่ามันมีเหตุการณ์ไหนกันบ้าง

 

สุพรรณบุรี พลาดจุดโทษจังหวะบอลโดนแขน ดิเกา

ย้อนกลับไปในเกม รีโว่ ไทยลีก ซีซั่น 2021/2022 เลกแรก ที่ สุพรรณบุรี เอฟซี บุกไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้นัดดังกล่าวจะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ทว่าช่วงท้ายเกมทีมเยือนพลาดโอกาสที่น่าจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่บอลเหมือนจะโดนแขนกองหลังชาวบราซิล อย่าง ดิเกา ในกรอบเขตโทษ

แม้จังหวะดังกล่าวผู้ตัดสินนัดนั้นอย่าง วรินทร สัสดี ได้มีการเช็ค VAR ย้อนหลังแล้ว แต่เขายังตัดสินว่าไม่เป็นลูกจุดโทษของทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ค้านสายตาแฟนบอลทีมเยือนไม่น้อย

อย่างไรก็ตามภายหลังสมาคมกีฬาฟุตบอล ได้ออกมายอมรับว่า จังหวะดังกล่าวเป็นการตัดสินที่ผิดพลาด ซึ่งหัวหน้าผู้ตัดสิน อย่าง อ.ปรีชา กางรัมย์ มองว่า จังหวะนั้นควรเป็นลูกแฮนด์บอลของ ดิเกา และเป็นจุดโทษของ สุพรรณบุรี แบบชัดเจน

 

ชลบุรี เสียจุดโทษค้านสายตาท้ายเกมนัดเสมอ เมืองทอง

จังหวะต่อมาเกิดขึ้นในเกม เอลกลาซิโก้ เมืองไทย นัดที่ ชลบุรี เอฟซี บุกไปเสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แบบสุดมันส์ 3-3 ทั้งที่ทีมเยือนยิงนำก่อนถึง 3-0

ช็อต VAR ปัญหาเกมนี้เกิดขึ้นช่วงท้าย เมื่อ จูเนียร์ เอลด์สต มีจังหวะปะทะกับ กรวิชญ์ ทะสา ล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินอย่าง อนุสรณ์ หนูแก้ว มีการฟังสัญญานเช็คกับผู้ตัดสินที่คุมห้อง VAR และเป่าเป็นจุดโทษให้กับ “กิเลนผยอง” นำมาซึ่งประตูตีเสมอของเจ้าบ้าน 3-3

ระหว่างเกมบรรดาผู้เล่น “ฉลามชล” รวมถึง “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ไม่เห็นด้วยกับการเป้าจุดโทษลูกนี้ เพราะจากจังหวะสกัดของ จูเนียร์ เอลด์สต เหมือนจะโดนที่บอลก่อน

หลังจบเกมเป็นอีกหนึ่งเคสที่สมาคม ออกมายอมรับว่า เป็นการตัดสินที่ผิดพลาด เนื่องจากภาพช้าค่อนข้างชัดเจนว่าปราการหลังทีมชาติมาเลเซีย ของ ชลบุรี เอฟซี เข้าสกัลโดนบอลก่อนที่จะฟอลโล่ทรูไปโดน กรวิชญ์ ทะสา ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งจากความเห็นของหัวหน้าผู้ตัดสินมองว่าลูกนี้ไม่ควรเป็นจุดโทษแน่นอน

 

2 VAR ช่วงท้ายเกม ทรู แบงค็อก พบ ขอนแก่น

อีกเกมที่ดราม่าไม่แพ้กันและมีการเรียกใช้งาน VAR ถึงสองครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คือนัดที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจอ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้นัดนี้ต้องทดเวลาครึ่งหลังนานถึง 26 นาที

เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเริ่มต้นทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังซึ่งเดิมทีผู้ตัดสินข้างสนามชูป้ายทดเวลาแค่เพียง 4 นาที และเกมยังคงเสมอกัน 0-0 ทว่านาที 90+1 ทริสตอง โด ไปโดน จักรกริช พาละพล ยกเท้าเตะสูงในกรอบเขตโทษ ซึ่งผู้ตัดสิน ฑีธิชัย นวลจันทร์ มีการเช็ค VAR ก่อนให้กับลูกจุดโทษกับทีมเยือน อย่างไรก็ตามบรรดานักเตะเจ้าบ้านกลับไม่พอใจการตัดนี้ เนื่องจากมองว่า ทริสตอง โด เหมือนจะพยายามใช้แขนเล่นบอลและควรเป็นแฮนด์บอลไปก่อนแล้ว ถึงขั้นพากันวอร์คเอ้าท์ออกสนาม ทำให้ต้องมีการเจรจากันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะกลับลงสนามอีกครั้ง และเป็น วานเดอร์ หลุยส์ รับหน้าที่สังหารลูกโทษเข้าไปไม่พลาด

เกมทำท่าว่าจะจบลงเท่านั้น อย่างไรก็ตามนาที 90+26 ผู้ตัดสินต้องเช็ค VAR อีกครั้งจากจังหวะที่กองหลัง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อย่าง  เอเวอร์ตัน เทกตัวขึ้นโหม่งบอลพร้อมไปกระแทก อภิศร ภูมิชาติ ในกรอบเขตโทษ ซึ่งผู้ตัดสินมีการเช็ค VAR และเป่าเป็นจุดโทษให้กับเจ้าบ้าน แต่ อิบสัน เมโล่ ดันยิงหลุดกรอบไปเอง ทำให้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกไปเก็บชัยชนะได้สำเร็จ

หลังเกมทางฝั่ง “จงอางผยอง” ได้ยืนหนังสือร้องเรียนการตัดสินของผู้ตัดสินเกมนั้นอย่าง ฑีธิชัย นวลจันทร์ กรณีเป่าให้จุดโทษให้กับ “แข้งเทพ” อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องเสียค่าปรับ 30,000 บาท ด้วยเช่นกันจากกรณีประท้วงคำตัดสินด้วยการวอร์คเอ้าท์ออกจากสนาม

 

ผู้ตัดสิน VAR ดีใจจังหวะให้จุดโทษ บุรีรัมย์

นี่คือเคสที่แตกต่างจากเหตุการณ์ซึ่งเกิดในสนาม แต่ดราม่านี้เกิดขึ้นภายในห้องควบคุมผู้ตัดสิน VAR ซึ่งถือเป็นข่าวฉาวของวงกาลฟุตบอลไทย อยู่พักใหญ่เลยทีเดียว จากกรณีที่ผู้ตัดสินซึ่งทำหน้าที่ควบคุม VAR แสดงอาการดีใจจังหวะตัดสินจุดโทษ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เหตุการณ์เกิดขึ้นในเกมคู่บิ๊กแมตช์ที่ ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเป็นจังหวะที่ผู้ตัดสิน ศิวกร ภูอุดม เช็ค VAR จังหวะ ศศลักษณ์ ไหประโคน ใช้มือดึง ยู บย็อง-ซู ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งลูกดังกล่าวเป็นการฟาวล์ชัดเจน ทำให้เจ้าบ้านได้จุดโทษและ ศศลักษณ์ ไหประโคน ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ ดานิโล่ อัลเวส จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด โดยเกมนัดนั้นจบลงด้วยชัยชนะของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 3-2

ทว่าดราม่าเกิดขึ้นหลังจบเกมไปแล้ว เนื่องจากมีการนำเอาคลิปวีดีโอภายในห้องควบคุม VAR ระหว่างเกมนัดดังกล่าวมาเผยแพร่ลงบนสื่อโซเชียล ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ช่วยผู้ตัดสินสองคนในห้อง VAR แสดงอาการดีใจในจังหวะที่ตัดสินให้ ชลบุรี เอฟซี ได้จุดโทษ แม้ว่าหลังจากนั้นไม่นานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมายืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจของทั้งสองคน ทว่าเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับมาตรฐานของผู้ตัดสินไทย

 

ผู้ตัดสินไม่ตีเส้นล้ำหน้าเกม บุรีรัมย์ พบ ชลบุรี

อีกหนึ่งดราม่าวงการฟุตบอลไทย ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ คือเหตุการณ์ที่ผู้ตัดสินไม่ตีเส้นจังหวะเช็ค VAR ล้ำหน้าในเกมระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี

เหตุการณ์เกิดขึ้นจากจังหวะประตูขึ้นนำของเจ้าบ้าน “ปราสาทสายฟ้า” ช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่งเป็นจังหวะที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พาบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนยิงไปติดเซฟ ชนินทร์ แซ่เอียะ มาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด ซ้ำเข้าไป ซึ่งในตอนแรกไลน์แมนข้างสนามยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า แต่หลังจากนั้นมีการเช็ค VAR และมีการส่งสัญญานมายังผู้ตัดสินในสนามอย่าง ศิวกร ภูอุดม ว่าลูกนี้ได้ประตู

ประเด็นมีอยู่ว่าหากเราดูจากภาพช้าจังหวะยืนของ ศุภชัย ใจเด็ด ดูจะยังอยู่เหนือแนวรับ “ฉลามชล” แต่จากการเช็ค VAR ของผู้ตัดสินกลับไปมีการตีเส้นชัดเจนว่าลูกนี้ไม่ล้ำหน้าอย่างไร ซึ่งประตูนี้ถือเป็นสกอร์ปลดล็อคที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0 ในเกมนั้นด้วย

หลังจบเกมทางฝั่งฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้ พร้อมยืนยันว่า จังหวะได้ประตูของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เป็นลูกล้ำหน้า เพราะยังมีเท้าของผู้เล่นแนวรับของ ชลบุรี เอฟซี อยู่ต่ำกว่าไลน์ของ ศุภชัย ใจเด็ด อย่างไรก็ตามจากมุมกล้องที่ไกลเกินไป ทำให้ผู้ตัดสินใจที่ทำหน้าที่ควบคุม VAR ไม่สามารถตีเส้นได้ในตอนแรก อย่างไรก็ตามแม้จะมีการออกมาชี้แจงเรียบร้อยแล้ว แต่นี่คือประเด็นที่แฟนบอลต่างหยิบยกมาพูดถึงกันอย่างมาก และนั้นอาจทำหให้หลังจากนี้การใช้ VAR ของฟุตบอลไทย คงต้องการพัฒนาและถูกจับตามองมากขึ้นแน่นอน

 

แรชฟอร์ดนำเทรนด์? : เหตุใดชี้นิ้วที่ขมับเป็นท่าฉลองประตูสุดฮิต?