ตลอดหลายวันที่ผ่านมา แฟนบอลเวียดนาม รวมถึงแฟนบอลอาเซียน กำลังสนใจเกี่ยวกับข่าวการย้านทีมของเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเวียดนาม อย่าง เหงียน กวง ไฮ
แข้งวัย 25 ปี มีข่าวกับหลายสโมสรในยุโรป แม้ที่ผ่านมายังไม่เคยมีประสบการณ์ค้าแข้งต่างแดนมาก่อนก็ตาม นับเป็นความท้าทายที่ก้าวกระโดดไม่น้อย ก่อนที่ล่าสุดสื่อฝรั่งเศส รายงานว่า เขากำลังจะได้เป็นนักเจะใหม่ของ ปัว เอฟซี สโมสรระดับ ลีก เดอซ์
นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับวงกาลฟุตบอลเวียดนาม กับการมีนักเตะของพวกเขาไปเล่นในลีกระดับสูงของยุโรป แต่หากมองย้อนกลับในอดีต นักเตะของเขาหลายคนเคยล้มเหลวกับการไปเล่นต่างแดนมาแล้วไม่น้อยเช่นกัน แม้กระทั่งกองหน้าระตำนานของทัพ “ดาวทอง” ก็ไม่รอดชะตากรรมนั้นเช่นกัน
วันนี้ UFAARENA จะขอพาไปย้อนดูว่าที่ผ่านมามีนักเตะเวียดนาม คนไหนบ้างที่ย้ายไปค้าแข้งต่างแดน และไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้
เหงียน ตวน อันห์ | โยโกฮาม่า เอฟซี
อีกหนึ่งนักเตะที่เติบโตขึ้นมากับระบบ เจเอ็มจี อคาเดมี ของ ฮอง อันห์ ยาลาย และเคยถูกยกให้เป็นอนาคตของวงกาลฟุตบอลเวียดนาม ทว่าเขากลับต้องเจอช่วงเวลาอันน่าผิดหวัง เมื่อตัดสินใจมุ่งหน้าออกไปหาความท้าทายยังลีกต่างแดน
เหงียน ตวน อันห์ ถูกดันจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ของ ฮอง อันห์ ยาลาย เมื่อปี 2015 ก่อนแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วในตำแหน่งกองกลางตัวทำเกม นั่นทำให้เขาถูกจับตามองอย่างมากว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับท็อปของทีมชาติเวียดนาม
กระทั่งช่วงปลายปี 2015 โยโกฮาม่า เอฟซี ทีมในระดับ เจ ลีก 2 ณ เวลานั้น ตัดสินใจคว้าตัว เหงียน ตวน อันห์ ไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ปี ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลเวียดนาม ที่จะได้เห็นนักเตะของพวกเขาประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในลีกฟุตบอลอาชีพแดนปลาดิบ
ทว่าความเป็นจริงกลับไปเป็นเช่นนั้น เพราะตลอดเวลาหนึ่งฤดูกาลที่ เหงียน ตวน อันห์ ย้ายไปอยู่กับ โยโกฮาม่า เอฟซี เขาไม่เคยได้ลงเล่นในลีกแม้แต่นัดเดียว แต่มีชื่อลงสนามเกมบอลถ้วย เอ็มเพอเรอร์ คัพ 2 นัด ซึ่งพบกับ มาชิดา เซลเวีย และ เอซี นากาโนะ ปาร์เซียโร่ พร้อมกับยิงประตูให้กับทีมได้ด้วย ก่อนท้ายที่สุดเมื่อจบฤดูกาล 2016 เจ้าตัวไม่ได้รับการเซ็นสัญญาถาวรกับสโมสร และถูกปล่อยกลับมาอยู่กับ ฮอง อันห์ ยาลาย จนตอนนี้
เลือง ซวน เชือง | อินชอน ยูไนเต็ด และ กังวอน เอฟซี
แม้เคยมีช่วงเวลาสั้นๆ อันน่าจดจำกับการมาค้าแข้งที่เมืองไทย ในสีเสื้อของ บุรีรัยมย์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2019 ทว่ามิดฟิลด์ทัพ “ดาวทอง” ชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 เคยผิดหวังกับการไปเล่นยังลีกฟุตบอลอาชีพแดนโสมขาวมาแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 เลือง ซวน เชือง ในวัย 20 ปี ที่กำลังทำผลงานยอดเยี่ยมกับ ฮอง อันห์ ยาลาย จนถูกทีมจาก เค ลีก 2 อย่าง อินชอน ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทีม ซึ่งถือเป็นดีลที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีนักเตะเวียดนาม ไปเล่นที่เกาหลีใต้ มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ความฝันของ ซวน เชือง กลับไม่สวนหรูอย่างที่เขาคาดหวังไว้ หลังตลอดระยะเวลาที่อยู่กับ อินชอน หนึ่งฤดูกาล เขาถูกส่งลงสนามแค่เพียง 4 นัด เท่านั้น และไม่เคยอยู่จนครบ 90 นาที แม้แต่เกมเดียว
หลังจากนั้นฤดูกาลถัดมา 2017 ซวน เชือง ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองกับการเล่นในลีกรองเกาหลีใต้ อีกครั้ง หลังถูก กังวอน เอฟซี ดึงไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น แต่ด้วยปัญหาเรื่องการปรับตัวทำให้เขาไม่สามารถสอดแทรกเป็นตัวจริงของทีมได้สำเร็จ และมีชื่อลงสนามแค่เพียง 3 นัด เท่านั้น ก่อนถูกส่งกลับต้นสังกัดเดิมทันทีหลังสัญญายืมตัวหมดลง
ดัง วาน ลัม | เซเรโซ่ โอซาก้า
นายด่านลูกครึ่งเวียดนาม-รัสเซีย คือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของทีมชาติเวียดนาม เลยก็ว่าได้ เขาแจ้งเกิดแบบเต็มตัวหลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นในศึก เอเอฟซี เอเชียน คัพ ซึ่งเขามีส่วนสำคัญพาทัพ “ดาวทอง” ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และมีจังหวะเซฟสวยๆ หลายครั้ง
นอกจากนั้น ดัง วาน ลัม ยังเคยมีเล่นในเมืองไทย กับสโมสรระดับชั้นนำอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด มาแล้ว และสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล “กิเลนผยอง” ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดา แม้ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวของเขากับสโมสรจะจบลงไม่สวยเท่าไหร่นัก
ช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 ภายหลังมีปัญหาเกี่ยวกับการขอยกเลิกสัญญากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึงขั้นฟ้องร้องไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ท้ายที่สุด ดัง วาน ลัม ได้เซ็นสัญญาย้ายไปอยู่กับต้นสังกัดใหม่ใน เจ ลีก อย่าง เซเรโซ่ โอซาก้า
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาบนลีกแดนปลาดิบไม่ได้สดใสอย่างที่เขาคาดหวังไว้ เพราะนับตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับ เซเรโซ่ เขาถูกส่งลงเฝ้าเสาให้กับทีมแค่เพียง 2 เกม เท่านั้น เมื่อฤดูกาล 2021 คือแมตช์พบกับ ไกนาเร่ ต็อตโตริ ฟุตบอลถ้วย เอ็มเพอเรอร์ คัพ และ กวางโจ เอฟซี ใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
ดวน วาน เฮา | เอสซี ฮีเรนวีน
แบ็คซ้ายอนาคตไกลวัย 23 ปี นักเตะอีกหนึ่งที่ถูกตั้งความหวังไว้สูงมากสำหรับแฟนบอลและวงกาลฟุตบอลเวียดนาม หลังเขาประสบความสำเร็จสุดๆ กับทีมชาติ ด้วยการคว้ารองแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปี 2018 รวมถึงคว้าแชมป์ ซีเกมส์ 2019 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
จากความสำเร็จทั้งหมด มีส่วนสำคัญทำให้เขาถูกทีมดัง เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ อย่าง เอสซี ฮีเรนวีน ดึงไปร่วมทีมเมื่อด้วยสัญญายืมตัวเมื่อซีซั่น 2019/2020 ซึ่งเขาเป็นนักเตะเวียดนาม คนแรกที่มีโอกาสได้ไปค้าแข้งกับสโมสรแดนกังหันลม
ทว่าการไปเล่นฟุตบอลอาชีพที่ ฮีเรนวีน กลับเป็นเหมือนฝันร้ายของ ดวน วาน เฮา เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยปัญหาด้านภาษา และการปรับตัว ส่งผลให้เขามีโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรแค่เพียง 1 นาที เท่านั้น ด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงทดเวลาบาดเจ็บในเกมฟุตบอลถ้วย เคเอ็นวีบี คัพ ที่พบกับ โรด้า เจซี
เหงียน คอง เฟือง | แซงต์-ทรุยด็อง
นี่คือหนึ่งในนักเตะเวียดนาม ที่ถูกตั้งความหวังและจับตามองมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ สำหรับ เหงียน คอง เฟือง แนวรุกวัย 27 ปี ซึ่งเคยผ่านการค้าแข้งมาแล้วทั้งในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และ เบลเยียม
กองหน้าทีมชาติเวียดนาม คือหนึ่งในขุนพลทัพ “ดาวทอง” ชุดสร้างประวัติศาสตร์รองแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปี 2018 โดยการย้ายออกไปค้าแข้งยังต่างแดนของเจ้าตัวคือการไปเล่นกับ มิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค ใน เจ ลีก 2 เมื่อปี 2016
หลังจากนั้นช่วงต้นปี 2019 อดีตเด็กปั้น เจเอ็มจี อคาเดมี ของ ฮอง อันห์ ยาลาย ถูกดึงไปอยู่กับ อินชอน ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งเขามีโอกาสได้ลงสัมผัสเกม เค ลีก ถึง 8 เกม
กระทั่งกลางปีเดียวกัน เอเยนต์ของแข้งรายดังกล่าว สร้างเรื่องเซอร์ไพรส์ด้วยการพานักเตะในการดูแลขอเขาไปอยู่กับทีมบนลีกสูงสุดของเบลเยียม อย่าง แซงต์-ทรุยด็อง นับเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลเวียดนาม ตั้งตารอมานานกับการได้เห็นแข้งเจ้าฉายา “เมสซี่ เวียดนาม” ย้ายไปเล่นยังลีกระดับสูงของยุโรป
ทว่าการย้ายไปเล่นที่เบลเยียม ของ เหงียน คอง เฟือง กลับการเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังมากที่สุดบนเส้นทางการเล่นฟุตบอลขอเขา เพราะนอกจะปรับตัวกับการใช้ชีวิตที่เบลเยียม รวมถึงเพื่อนร่วมทีมไม่ได้แล้ว ตลอดสัญญายืมตัวระยเวลา 6 เดือน ได้รับโอกาสส่งลงสนามแค่เพียงเกมเดียว
นั่นคือเกมลีกที่ แซงต์-ทรุยด็อง พบกับทีมแกร่งอย่าง คลับ บรูช ซึ่งดาวเตะเวียดนาม ถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรอง และอยู่ในสนามแค่เพียง 20 นาที เท่านั้น
เล คอง วินห์ | เลชอยส์
สุดยอดกอหน้าระดับตำนานของวงกาลฟุตบอลเวียดนาม อย่าง เล คอง วินห์ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เคยผ่านการค้าแข้งยังลีกต่างแดนมาแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามเส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายแบบที่ใครหลายคนคาดหวังไว้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 หลังประสบความสำเร็จทั้งระกับสโมสรกับ ฮานอย ทีแอนด์ที และทีมชาติเวียดนาม พร้อมถูกยกให้เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดของอาเซียน เคียงคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา ณ เวลานั้น เล คอง วินห์ ได้รับโอกาสครั้งสำคัญถูกดึงไปอยู่กับ เลชอยส์ ทีมบนลีกสูงสุดของโปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นริเก้ คาลิสโต้ อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติเวียดนาม ชุดใหญ่
โดยอดีตกองหน้าขวัญใจแฟนบอล “ดาวทอง” ย้ายอยู่กับ เลชอยส์ ด้วยสัญญายืมตัว 3 เดือน ทว่าตลอดช่วงเวลาการค้าแข้งแดนฝอยทอง ปัญหาเรื่องการปรับตัวและภาษาทำให้เขาไม่สามารถแสดศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่
เล คอง วินห์ มีชื่อลงเล่นกับ เลชอยส์ แค่เพียง 2 นัด เท่านั้น ก่อนถูกส่งกลับบ้านพร้อมกับความผิดหวัง หลังจากนั้นในปี 2013 เขาได้ไปเล่นต่างแดนอีกครั้งกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ใน เจ ลีก 2 เมื่อปี 2013 แม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่เขาก็มีโอกาสลงสนามกับทีมถึง 9 นัด พร้อมกับยิง 2 ประตู