ลอริส คาริอุส ผู้รักษาประตูที่เคยกลายเป็นเป้าล้อเลียน และคำวิจารณ์มากมายจากความผิดพลาดสมัยเฝ้าเสาให้กับ ลิเวอร์พูล ได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งกับผลงานยอดเยี่ยมในเกมนัดชิง คาราบาวคัพ กับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นการกลับมาลงสนามอีกครั้งในรอบ 2 ปีเต็มที่หายหน้าหายตาไป
วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูว่าเส้นทางของนายด่านชาวเยอรมันรายนี้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง หลังฝันร้ายในเกมกับราชันชุดขาว มาจนถึงผลงานกู้หน้าอีกครั้งกับ สาลิกาดง
จุดเริ่มต้นฝันร้าย
นายด่านชาวเยอรมันถือเป็นการเสริมทัพคนแรกๆของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นับตั้งแต่มาคุมลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 ก่อนจะกลายมาเป็นมือหนึ่งได้สำเร็จในปีถัดมา หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเรื่อยมา แม้จะมีผิดพลาดบ้าง แต่โดยรวมก็จัดว่าแจ่ม จนกระทั่งในฤดูกาล 2017/18 ความผิดพลาดดังกล่าวก็เริ่มมากขึ้น แต่ก็ยังได้รับความเชื่อใจจากกุนซือหงส์แดง ลากยาวไปจนถึงการพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับ เรอัล มาดริด และนี่คือจุดเริ่มต้นของฝันร้าย
ในเกมดังกล่าวทัพหงส์แดงแพ้ไปถึง 3-1 แต่ที่ถูกโฟกัสมากที่สุดคือ 2 จาก 3 ประตูเป็นความผิดพลาดของ คาริอุส รวมกับสิ่งที่ต้องเจอหลังจากนั้น ทั้งถูกล้อเลียน ขู่ฆ่า หรือการประณามความผิดพลาดนั้นก็ทำให้ความมั่นใจของเจ้าตัวพังทลายไปจนหมดสิ้น ส่วนทาง เจเค ก็หันไปคว้าตัว อลิสซอนเข้ามาแทนที่ทันทีในซัมเมอร์นั้น และเจ้าตัวก็กลายเป็นนายด่านที่ถูกลืมไปในทันที
ต่อให้หนีก็ยังโดนตามล้อ
เมื่อไม่มีที่ยืนในถิ่นแอนฟิลด์อีกต่อไป หงส์แดงก็ตัดสินใจปล่อย คาริอุส ออกไปให้กับ เบซิคตัส ในลีกตุรกียืมตัว แต่ก็ยังไม่วายโดนตามไปจับผิดต่อ เมื่อมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้น สื่อต่างๆก็พร้อมจะนำ คาริอุส มาแขวนเป็นมีมหัวเราะขำขันกันไปอีก จนแม้แต่กับทีมในลีกแดนไก่งวง นายทวารชาวเยอรมันก็ยังไม่สามารถยืนระยะเป็นมือหนึ่งได้
ผ่านไปทั้งหมด 2 ปีที่อยู่กับเบซิคตัส คาริอุสได้ลงเฝ้าเสาไปเพียง 67 นัดรวมทุกรายการ และแม้จะออปชั่นซื้อขาดด้วยราคา 7 ล้านปอนด์ แต่ก็ถูกส่งกลับมาที่ ลิเวอร์พูลอยู่ดี แต่สถานการณ์ปัจจุบัน คาริอุส ยิ่งไม่มีที่ยืนกว่าเดิม เนื่องจาก อลิสซอนที่มาแทนที่พาทีมคว้าทั้งแชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีกมาครองเรียบร้อยแล้ว
ไร้ที่ยืนแม้กลับบ้านเกิด
ในซัมเมอร์ 2020 ก็ยังคงไม่มีใครมาขอซื้อตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งหงส์แดงก็ใช้วิธีการปล่อยยืมเช่นเดิม รอบนี้ได้กลับไปที่บ้านเกิดอีกครั้งกับ ยูนิโอน เบอร์ลิน แน่นอนว่าการกลับมาที่บ้านเกิดเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักเตะที่ต้องการฟื้นฟูความมั่นใจกลับมมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนในกรณีของ คาริอุส จะตรงกันข้าม 1ฤดูกาลที่อยู่กับเบอร์ลินเจ้าตัวได้ลงสนามไปเพียง 5 นัดเท่านั้นจากทุกรายการ สุดท้ายก็จบลงอีหรอบเดิมด้วยการโดนส่งตัวกลับหงส์
และเหมือนกับเดจาวูการกลับมาที่ แอนฟิลด์ จากการกลายเป็นนักเตะที่ถูกลืม เพียงแต่รอบนนี้มันหนักกว่าตรงที่ตอนนี้ ผู้รักษาประตูของทีมมีอยู่ถึง 4 คน รวมเจ้าตัวไปก็ 5 คนเข้าไปแล้ว แน่นอนว่าในฤดูกาล 2021/22 คาริอุสไม่ได้ลงสนามเลยสักวินาทีเดียวจนกระทั่งหมดสัญญากับทีมไปในซัมเมอร์ 2022 เป็นการจบเส้นทางกับ ลิเวอร์พูลอย่างสมบูรณ์
โอกาสจากสาลิกา
หลังออกจากหงส์แดง นายด่านวัย 29 ปีกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ราวๆ 2 เดือน ก่อนที่จะเป็น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เข้ามาติดต่อดึงเขาไปเป็นอะไหล่สำรองแทนที่ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารมือ 2 ซึ่งย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่แน่นอนว่าโอกาสการลงเฝ้าเสาก็แทบเป็น 0 เช่นเดิมเพราะ มือหนึ่งของสาลิกาดงคือ นิค โป๊ป ที่มีดีกรีทีมชาติอังกฤษ แถมผลงานก็สม่ำเสมอไม่มีผิดพลาด
อย่างไรก็ตามเหมือนฟ้าจะยังคงให้โอกาส คาริอุส กลับตัวเมื่อถึงเกมนัดชิงคาราบาวคัพ โป๊ป ที่เป็นตัวหลักมาตลอดดันโดนใบแดงไปในเกมก่อนหน้า แถม ดูบราฟก้า ที่ถูกส่งกลับมาก็ติดคัพไทท์ ไม่สามารถลงสนามเจอกับปีศาจแดงได้ ทำให้หน้าที่เฝ้าเสาตกมาที่อดีตมือกาวหงส์แดงรายนี้
การลงสนามนัดนี้นับเป็นการลงสนามครั้งแรกในรอบ 2 ปี และแม้จะเป็นฝ่ายแพ้ไป แต่คาริอุสก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเซฟไปถึง 8 ครั้งในเกมเดียว ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ ในรอบ 11 ปี เทียบเท่า ทอม ฮีตัน ที่เคยทำไว้ 8 ครั้งเมื่อปี 2011/12 จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากแฟนบอล นับเป็นการกลับมาแก้ตัว และหวังว่าความมั่นใจจากเกมนัดนี้จะช่วยให้ คาริอุส ในวัย 29 ปี กลับมาโลดแล่นกับทีมชั้นนำได้อีกครั้งในฐานะมือหนึ่ง