การคว้าแชมป์ระดับทวีปทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติถือเป็นสิ่งที่นักเตะหลายคนน่าจะเฝ้าฝันถึงไม่น้อย แต่ก็มีบางคนเช่นกันที่สามารถทำเช่นนั้นได้ในอาชีพค้าแข้ง
ก่อนหน้านี้มีนักเตะเพียง 9 คนที่เคยคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโร ได้ในฤดูกาลเดียว แต่หลังชัยชนะของ อิตาลี เหนือ อังกฤษ ช่วงดวลจุดโทษ ทำให้พลพรรค ‘อัซซูรี่’ คว้าแชมป์ยูโร 2020 ไปครอง และเป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ของชาติ นั่นทำให้มีนักเตะเข้ามาเพิ่มในลิสต์สุดพิเศษอีก 2 คน รวมเป็น 11 คนแล้วในตอนนี้
ว่าแต่ 11 คนนั้นเป็นใครกันบ้าง UFA ARENA จึงขออาสาพาไปพบกับนักเตะผู้คว้าแชมป์ยุโรปทั้งระดับสโมสรและทีมชาติภายในปีเดียวกัน
จอร์จินโญ่ | เชลซี-อิตาลี (2021)
จอร์จินโญ่ เป็นกองกลางหัวใจสำคัญในทีมชาติอิตาลี นับตั้งแต่ โรแบร์โต้ มันชินี่ เข้ามาคุมทีมเมื่อ 3 ปี และหลังจาก โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุม เชลซี เขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ จนกลายเป็นตัวหลักใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา
มิดฟิลด์วัย 29 ปี ได้ลงเล่นในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกที่ปอรโต้ ซึ่งช่วยให้ ‘สิงห์บลู’ คว้าแชมป์ยุโรปมาครองเป็นสมัยที่ 2 เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากนั้นอีกราว 1 เดือนต่อมาก็คว้าแชมป์ยูโร 2020 ไปครอง จากการยิงจุดโทษช่วงชี้ขาดกับ อังกฤษ
เอเมอร์สัน | เชลซี-อิตาลี (2021)
เอเมอร์สัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 2 เกมกับ เชลซี ในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา แต่อย่างน้อยลูกยิงของเขาในเกมดวล แอตเลติโก้ มาดริด ก็มีส่วนช่วยให้ทีมเข้าไปชูถ้วยบิ๊กเอียร์ได้เช่นกัน
การบาดเจ็บของ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายทำให้ แบ็คจาก สิงห์บลู ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ ทีมชาติอิตาลี ในรายการระดับทวีป พร้อมลงเล่นในเกมสำคัญที่ดวลกับ สเปน ในรอยตัดเชือก และ อังกฤษ ในรอบชิงด้วย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | เรอัล มาดริด-โปรตุเกส (2016)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหนึ่งในนักเตะของ เรอัล มาดริด ชุดคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติด ระหว่างปี 2016-2018 และในปี 2016 นี้เองที่ CR7 ได้ลิ้มรสความสำเร็จในทีมชาติเป็นครั้งแรก
หลังยิงจุดโทษช่วยให้ ‘ราชันชุดขาว’ เอาชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ที่ ซาน ซีโร่ อีก 2 เดือนต่อมา ดาวยิงจอมสับ พาทีมชาติโปรตุเกส ทะลุเข้าชิงยูโร กับ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ ก่อนได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงแรกของเกม
อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ที่บาดเจ็บที่พยายามกระตุ้นเพื่อนอยู่ข้างสนามราวกับเป็นกุนซือของทีม ก่อนที่ประตูโทนของ เอแดร์ ช่วงต่อเวลาพิเศษจะทำให้ ‘ฝอยทอง’ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกมาครอง
เปเป้ | เรอัล มาดริด-โปรตุเกส (2016)
อีกหนึ่งแข้งคนสำคัญทั้งใน เรอัล มาดริด และ ทีมชาติโปรตุเกสปี 2016 โดย เปเป้ ลงเล่นทั้งหมด 120 นาที ในทั้งนัดชิงชนะเลิศทั้ง 2 รายการ แม้ว่าต้องพลาดเกมรอบตัดเชือกเนื่องจากอาการบาดเจ็บก็ตาม
ที่เหลือเชื่อสุดๆก็คือ กองหลังจอมโหดแดนฝอยทอง ได้รับใบเหลืองเพียง 3 ใบเท่านั้นตลอดการลงเล่นให้ 2 ทัวร์นาเม้นต์ระดับทวีป
เฟร์นานโด ตอร์เรส | เชลซี-สเปน (2012)
ปี 2012 เป็นอีกปีหนึ่งที่แปลกประหลาดสำหรับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เขาอาจไม่ใช่ตัวรุกเบอร์แรกๆที่ เชลซี หรือ ทีมชาติสเปนเลือกใช้ แต่ก็มีส่วนกับความสำเร็จของทั้ง 2 ทีมในปีนั้นเช่นกัน
ประตูตอกฝาโล่งใส่ บาร์เซโลน่า ส่งให้ สิงห์บลู ลุยนัดชิง UCL ยังติดตาแฟนบอลได้ไม่รู้ลืม และยังทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศศึกยูโร 2012 ที่เล่นงาน อิตาลี แบบหมดสภาพ
ถึงแม้ยิงเพียงแค่ 3 ประตูในทัวร์นาเม้นต์ระดับทวีปที่ โปแลนด์ กับ ยูเครน เป็นเจ้าภาพร่วม แต่การแอสซิสต์ให้ ฆวน มาต้า ในนัดชิง และจำนวนนาทีลงเล่นที่น้อยกว่า มาริโอ โกเมซ ก็ทำให้ ‘เอล นินโญ่’ คว้ารองเท้าทองคำในยูโรปีนั้นแบบงงๆ
ฆวน มาต้า | เชลซี-สเปน (2012)
มาต้า แตกต่างจาก ตอร์เรส พอสมควร แม้ไม่ได้เป็นตัวหลักในทีมชาติสเปน แต่เขาก็เป็นผู้เล่นตัวรุกคนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ เชลซี คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก เหนือ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2012 จากลูกเปิดมุมให้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา โขกประตูตีเสมอ
อีกทั้งการทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศในยูโร ก็ทำให้ปี 2012 เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของ อดีตเพลย์เมกเกอร์จากบาเลนเซีย เลยก็ว่าได้
โรนัลด์ คูมัน | พีเอสวี-เนเธอร์แลนด์ (1988)
ก่อนคว้าถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ กับ บาร์เซโลน่า โรนัลด์ คูมัน เคยสัมผัสถ้วยนี้มาก่อนแล้วกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 1998 และในปีเดียวกันนั้นเอง เขาก็พา เนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์ยูโร มาครอง ซึ่งเป็นเมเจอร์รายการเดียวที่ ‘อัศวินสีส้ม’ ทำได้จนถึงปัจจุบัน
กุนซือคนปัจจุบันของ บาร์ซ่า เป็นคนยิงจุดโทษให้ทีมตามตีเสมอ เยอรมัน ในรอบตัดเชือก ก่อนที่ มาร์โก ฟาน บาสเท่น จะกดประตูให้ ‘ออรันเย่’ ผ่านเข้าไปดวลกับ สหภาพโซเวียตในรอบชิงที่ มิวนิค
ฮันส์ ฟาน โบรเกเล่น | พีเอสวี-เนเธอร์แลนด์ (1988)
ฮันส์ ฟาน โบรเกเล่น เป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นครบทุกนาทีให้ทั้ง เนเธอร์แลนด์ ที่คว้าแชมป์ยูโร 88 และ พีเอสวี ที่คว้าแชมป์ยุโรปมาครอง
นอกจากนี้ อดีตนายด่านวัย 64 ปี ยังเป็นฮีโร่ของ พีเอสวี ในนัดชิงดวล เบนฟิก้า ด้วย หลังเซฟลูกยิงจุดโทษของ อันโตนิโอ เวโลโซ่ ช่วงตัดสินชี้ขาด จนส่งให้ พีเอสวี คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกและสมัยเดียวของสโมสร
แบร์รี่ ฟาน แอร์เล่ | พีเอสวี-เนเธอร์แลนด์ (1988)
นักเตะคนที่ 3 ของ พีเอสวี ที่คว้าแชมป์ยุโรปกับสโมสรและทีมชาติในปีเดียวกัน
ถึงประจำการเป็นหลักในตำแหน่งแบ็คขวา แต่ แบร์รี่ ฟาน แอร์เล่ ก็สามารถโยกไปเล่นเป็นกองกลางได้เช่นกันในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ที่เยอรมัน และเป็นนักเตะอีกคนที่ลงเล่นครบทุกนาทีในทั้ง 2 รายการด้วย
เจอรัลด์ ฟาเนนเบิร์ก | พีเอสวี-เนเธอร์แลนด์ (1988)
นักเตะจาก พีเอสวี ที่คว้าแชมป์ยุโรปกับทีมชาติในปี 1988 ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะ เจอรัลด์ ฟาเนนเบิร์ก โผล่มาเป็นคนสุดท้าย
ปีกชาวดัตช์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาค้าแข้งในถิ่น ฟิลลิปส์ สตาดิโอน ในปี 1986 พร้อมทำผลงานได้โดดเด่นตลอด 7 ปีในสโมสร รวมถึง ‘อัศวินสีส้ม’ ชุดคว้าแชมป์ยุโรปด้วยเช่นกัน
หลุยส์ ซัวเรซ | อินเตอร์ มิลาน-สเปน (1964)
แน่นอนว่าคนที่เราหมายถึงไม่ใช่ หลุยส์ ซัวเรซ จอมกัดแน่นอน แต่เป็นกองกลางระดับตำนานของทีมชาติสเปนต่างหาก ซึ่งพา ‘กระทิงดุ’ คว้าแชมป์ยูโรมาครองหนแรกในปี 1964 และเป็นปีเดียวกับที่เขาพา อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ มาครองเป็นครั้งแรกด้วย ก่อนป้องกันแชมป์ได้ในปีถัดมา
น่าเสียดายที่ ซัวเรซ พลาดโอกาสคว้า บัลลงดอร์ สมัยที่ 2 ของตัวเอง หลังทำได้แค่อันดับ 2 เป็นรองจาก เดนนิส ลอว์ ดาวยิงตำนานจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด