เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ถูกยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล และมีผู้เล่นระดับโลกให้เลือกใช้งานตลอด ไม่ว่าเขาจะย้ายไปคุมที่ไหน
แต่ไม่ใช่ดาวเตะทุกคนที่เหมาะสมในทีมของ กวาร์ดิโอล่า และตัวกุนซือชาวสแปนิชเองก็ไม่เคยเกรงกลัวที่จะขายแข้งดังออกไปในขณะที่เขาคว้าแชมป์ครั้งแล้วครั้งเล่ากับ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อย่างเช่นกรณีล่าสุดกับ เชา คันเซโล่ ฟูลแบ็คตัวเก่ง ที่ถือเป็นแข้งคนสำคัญของ เรือใบสีฟ้า นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ยูเวนตุส ในปี 2019 แต่ในฤดูกาลนี้ แข้งทีมชาติโปรตุเกส ได้รับรายงานว่ามีปากเสียงรุนแรงกับ กุนซือ ซิตี้ ในสนามซ้อม หลังกลายเป็นตัวสำรองหลังศึกฟุตบอลโลก
มีรายงานเพิ่มเติมว่า คันเซโล่ ขู่ย้ายทีม หากไม่ได้ลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ ที่พบ อาร์เซน่อล ทว่า เป๊ป ก็สันทันควันว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน ก่อนดีลเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น เมื่อ ดาวเตะวัย 28 ปีตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ บาเยิร์น มิวนิค แบบยืมตัวพ่วงซื้อขาด และน่าเปิดตัวก่อนตลาดหน้าหนาวปี 2023 ปิดในเร็วๆนี้
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบ 11 แข้งดังที่ต่อให้ทำผลงานยอดเยี่ยมมาก่อนแค่ไหนหรือเคยเป็นนักเคะสำคัญในสโมสร ก็โดน กวาร์ดิโอล่า เขี่ยพ้นทีมอยู่ดี
เปเป้ เรน่า
หลังจากใช้เวลาเฝ้าเสาให้กับ ลิเวอร์พูล นานถึง 9 ปี เปเป้ เรน่า ก็ย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2014 และรับบทบาทเป็นตัวอะไหล่สำรองให้กับ มานูเอล นอยเออร์
อย่างไรก็ตาม นายทวารชาวสแปนิชได้ลงเล่นให้เสือใต้เพียง 3 นัดเท่านั้น ในยุคที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุมบังเหียน ก่อนจะย้ายไปซบ นาโปลี เป็นครั้งที่ 2 ในปี 2015
ปาโบล ซาบาเลต้า
แบ็คขวาชาวอาร์เจนไตน์คว้าแชมป์มาแล้วเกือบทุกรายการในช่วงเวลา 9 ปีที่ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้รับการยกย่องจากแฟน ‘เรือใบ’ ว่าเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรเลย
แต่ กวาร์ดิโอล่า ที่เข้ามาคุมทีมได้ปีเดียว ก็ทำการยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ในซัมเมอร์ปี 2017 และซาบาเลต้า ก็เป็นอีกคนที่ถูกปล่อยตัว พร้อมกับถูกแทนที่ด้วยแบ็คที่อายุน้อยกว่าอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์
ดันเต้
ในช่วงที่ บาเยิร์น มิวนิต คว้าทริบเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2012-13 ดันเต้ ถือเป็นแนวรับคนสำคัญของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส แต่ทันทีที่ทีมเปลี่ยนกุนซือเป็น กวาร์ดิโอล่า โอกาสลงสนามของเขาก็ค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆ
กองหลังชาวบราซิลเลี่ยน ใช้เวลา 2 ปีในการร่วมงานกับนายใหญ่เลือดกระทิง ก่อนจะย้ายไปซบ โวล์ฟบวร์ก ทีมร่วมลีกบุนเดสลีก้าในปี 2015
ราฟาเอล มาร์เกซ
ราฟาเอล มาร์เกซ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการค้าแข้งในบาร์เซโลน่า หลังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ลาลีก้า 4 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย แต่ช่วงเวลาของเขาในคัมป์ นู ก็สิ้นสุดลงในปี 2010 แม้ว่าเพิ่งต่อสัญญาใหม่ 3 ปี กับสโมสรเมื่อปีก่อนก็ตาม
แข้งชาวเม็กซิกัน ถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังเสร็จภารกิจฟุตบอลกับทีมชาติเม็กซิโก แต่ไร้สังกัดได้ไม่นาน เขาก็ย้ายไปร่วมทีม นิวยอร์ค เร้ด บลูล์ ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน
แม็กซ์เวลล์
ณ ปี 2009 เป๊ป ทำการคว้าตัว แม็กซ์เวลล์ จาก อินเตอร์ มิลาน ในปี 2009 และลงเล่นกว่า 89 นัด ตลอด 2 ปีครึ่งในถิ่น คัมป์ นู
แบ็คซ้ายแดนแซมบ้า กลายเป็นตัวสำรองของ เอริค อบิดัล ในทีม ‘อาซูลกราน่า’ บ่อยครั้ง ทำให้ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในเดือนมกราคมปี 2012 และกลายเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์มาครองมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆในวงการลูกหนังโลก
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
ชไวน์นี่ คือลูกหม้อแท้ๆของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ไต่เต้าจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้สำเร็จ พร้อมพาสโมสรคว้าแชมป์ บุนเดสลีก้า 8 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย
แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่เริ่มรบกวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นส่วนเกินในทีมของ กวาร์ดิโอล่า ทำให้ แข้งชาวเยอรมันถูกขายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2015
ยาย่า ตูเร่
ตูเร่ ทำหน้าที่เป็นอะไหล่พร้อมกับค่อยเรียนรู้การเล่นของ เซร์คิโอ้ บุสเก็สต์ ในทีมบาร์เซโลน่า ยุคของกวาร์ดิโอล่า และถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2011
แข้งชาวไอวอรี่โคสต์เคยเปิดใจกับ ONA FM สื่อวิทยุในสเปนว่าจริงๆแล้ว เขาอยากเล่นกับ ‘อาซูลกราน่า’ ต่อไป แต่ไม่รับการใส่ใจจากเป๊ปเท่าไหร่นักจึงทำให้เขาเลือกย้ายออกมาดีกว่า
“ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมถามเขาบางอย่าง เขาจะให้คำตอบแปลกกับผมเสมอ เขาไม่สนใจผมเลย จนกระทั่งมีข้อเสนอจาก ซิตี้ เข้ามา นั่นเป็นเหตุผลทำไมผมถึงเลือกย้ายออกมา ผมไม่ได้คุยกับ กวารดิโอล่า เป็นปี ถ้าเขาคุยกับผมหน่อย ผมคงอยู่ที่บาร์เซโลน่าต่อไป”
ทั้งคู่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2016 แต่ตูเร่ คนน้องก็ยังไม่ใช่คนที่กุนซือชาวสแปนิชต้องการอยู่ดี ก่อนจะแยกทางกันอีกรอบในปี 2018
โทนี่ โครส
กองกลางชาวเยอรมัน พาบาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ บุนเดสลีก้า 3 สมัย และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยในฤดูกาล 2012-13 แต่ไม่สามารถตกลงสัญญาหใม่กับทีม ‘เสือใต้’ ในยุคของกวาร์ดิโอล่าได้
โครสพาทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ คว้าแชมป์โลกในปี 2014 และจากนั้นเขาก็ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
โรนัลดินโญ่
ไม่มีใครปฏิเสธว่า โรนัลดินโญ่ คือนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกในสมัยที่เขาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า แต่ด้วยแนวทางการเล่นในสนาม รวมถึงชีวิตนอกสนามที่ชื่นชอบการสังสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะอยู่ในทีมของ กวาร์ดิโอล่า ได้นาน
หลังจากเลื่อนขั้นขึ้นมาคุมชุดใหญ่อาซูลกราน่าในปี 2008 กวาร์ดิโอล่า ก็แสดงความเด็ดขาดในทีมทันทีด้วยการขายแข้งชาวบราซิลเลี่ยนให้กับ เอซี มิลาน โดยไม่สนว่าเขาจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหนก็ตาม และดัน ลิโอเนล เมสซี่ จนกลายเป็นแข้งระดับโลกอย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบัน
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ด้วยผลงาน 66 ประตูจากการลงเล่น 117 นัดกับ อินเตอร์ มิลาน ทำให้ บาร์เซโลน่า คว้าตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาร่วมทีมในปี 2009
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของหอกชาวสวีดิช และ กุนซือชาวสแปนิช ก็แตกหักกันอย่างสมบูรณ์แบบ และ ซลาตัน ก็กลับไปเล่นในอิตาลีกับ เอซี มิลาน ทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาในสเปนได้ปีเดียว
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หัวหอกแดนไวกิ้งก็ออกมาโจมตี กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านหน้าสื่ออยู่เป็นประจำเมื่อมีโอกาส
ซามูเอล เอโต้
เอโต้ เป็นกองหน้าคนสำคัญของบาร์เซโลน่า ทั้งในยุคของ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่คว้าแชมป์ลาลีก้า 3 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ตลอด 5 ปีในถิ่นคัมป์ นู
แต่หอกชาวแคเมอรูนที่ร่วมงานกับ กุนซือชาวสแปนิช แค่ปีเดียวกับย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลานในปี 2009 และประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการคว้าทริบเบิ้ลแชมป์กับทีม ‘งูใหญ่’
อีกหลายปีต่อมา เอโต้ ได้เปิดใตถึงความสัมพันธ์ของเขากับ กวาร์ดิโอล่า ในบาร์ซ่า ไม่ได้ดีอย่างที่ใครๆคิด แถมยังถูกกุนซือเลือดกระทิงดูถูกสารพัด และไม่เคยให้เกียรติตนด้วย
“เขาดูถูกผมตลอด เขาบอกให้ผมย้ายไปเล่นในลีกอุซเบกิซสถานและวางเสื้อหมายเลข 9 ลงซะ เขาไม่เคยพูดจาให้กำลังใจต่อหน้าผมเลย ชาบีบอกว่าพวกเขาต้องการให้ผมอยู่กับทีมต่อ แต่เมื่อผมได้คุยกับเป๊ปแล้ว ผมบอกเลยว่าไม่มีทาง ถ้าเขาไม่ให้เกียรติผม ผมก็จะไม่ให้เกียรติเขา” เอโต้ เผยกับ เบอิน สปอร์ต ในปี 2014