พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นลีกดังที่ผลิตแข้งระดับโลกมามากมายหลายต่อหลายปี จึงไม่น่าแปลกเช่นกันที่นักเตะเหล่านั้นจะเคยหรือได้โชว์ฝีเท้าในเวทียุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น อลัน เชียเรอร์, เธียร์รี่ อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งนักเตะบางคนที่อาจไม่ได้โดดเด่นมาก เช่น โทนี่ เยโบห์ (สมัยเล่นให้ฮัมบูร์ก), ซิลแวง ดิสแตง (10 เกมกับ เปแอสเช) หรือแม้กระทั่ง ดิออน ดับลิน กับ 18 นาทีให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมพบ กาลาตาซาราย ปี 1993
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเตะชื่อดังจากลีกอังกฤษหลายคน ที่ทำผลงานโดดเด่นในลีกไม่น้อย แต่กลับอดไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ แม้แต่ในเกมรอบคัดเลือกก็ตาม และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 11 นักเตะเหล่านี้กัน
ผู้รักษาประตู : เนวิลล์ เซาท์ธอลล์
ไม่ว่าจะเป็นคนก่ออิฐ, ช่างซ่อม, คนทำความสะอาดพื้น หรือคนเก็บขยะ เนวิลล์ เซาท์ธอลล์ เคยทำมาหมดแล้ว ก่อนสร้างชื่อจนเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดเท่าที่ฟุตบอลของเกาะอังกฤษเคยมีมา
อีกทั้ง บิ๊กเนฟ ยังเป็นนายทวารคนสุดท้ายที่เคยคว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมนักข่าวด้วย ทว่าโชคไม่ดีที่ตำนานมือกาวของ เอฟเวอร์ตัน ดันมาพีกสุดๆ ในช่วงที่สโมสรอังกฤษ โดนแบนจากบอลยุโรป หลังโศกนาฏกรรมเฮย์เซลในปี 1985
แบ็คขวา : สตีเฟ่น คาร์
แฟนบอลพรีเมียร์ลีกยุค 90 น่าจะจดจำชื่อของ สตีเฟ่น คาร์ ได้อย่างดีในฐานะแบ็คขวาจอมบุกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับประตูสุดสวยที่ยิงไกลนอกกรอบใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1999
อย่างไรก็ดี ‘ไก่เดือยทอง’ ในเวลานั้นยังไม่สโมสรระดับท็อป หรือลุ้นไปเล่นถ้วยยุโรปเหมือนในปัจจุบัน จึงน่าเสียดายไม่น้อยที่ไม่เห็น แบ็คขวาชาวไอริช โลดแล่นโชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ลีก
เซ็นเตอร์แบ็ค : แกเร็ธ เซาธ์เกต
กุนซือทีมชาติอังกฤษ คนปัจจุบันอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ดูเป็นมิตรเหลือเชื่อ ตั้งแต่สมัยที่เขาค้าแข้งแล้ว ซึ่งเคยเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ, แอสตัน วิลล่า หรือ มิดเดิ้ลสโบรห์
ถึงไม่ได้โชว์ฝีเท้าใน แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ กุนซือวัย 46 ปี ก็ยังได้โอกาสลงเล่นในศึกยูฟ่า คัพ มาแล้ว ถึง 32 นัด แม้สุดท้ายจะจบด้วยการเป็นรองแชมป์กับ โบโร่ หลังพ่าย เซบีย่า ในฤดูกาล 2005-06 ก็ตาม
เซ็นเตอร์แบ็ค : พอล แม็คกรัธ
พอล แม็คกรัธ คือนักเตะพรีเมียร์ลีกคนแรกที่คว้าแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในฤดูกาล 1992-93 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ด้วยปัญหาเข่าเรื้อรัง ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยื่นข้อเสนอให้ แนวรับทีมชาติไอร์แลนด์ แขวนสตั๊ดก่อนกำหนด พร้อมด้วยเงิน 100,000 ปอนด์ ในปี 1989
ทว่า แม็คกรัธ เลือกย้ายไปเล่นกับ แอสตัน วิลล่า และลดพฤติกรรมการดื่มหนักให้ลดลง จนสามารถค้าแข้งได้นานกว่าที่หลายคนคาดคิด แถมช่วยให้ ‘สิงห์ผงาด’ จบรองแชมป์ถึง 2 หนด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีโอกาสได่เล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่เช่นกัน หลังลา ‘ปีศาจแดง’
แบ็คซ้าย : เลห์ตัน เบนส์
น่าเสียดายไม่น้อยที่ เลห์ตัน เบนส์ ตำนานแบ็คซ้ายของ เอฟเวอร์ตัน ไม่เคยมีโอกาสเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก แม้กระทั่งในรอบคัดเลือกก็ตาม
นี่ถือเป็นหนึ่งในตำนานของพรีเมียร์ลีก ที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอมากที่สุด ทั้งในแง่เกมรุกหรือเกมรับ แถมมีโอกาสย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามนายเก่า เดวิด มอยส์ ซึ่งหมายความว่าจะได้เล่นในบอลยุโรปแน่นๆ ทว่าเขาก็เลือกปฏิเสธ และอยู่ยาวๆ กับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2020
กองกลาง : แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์
ถึงจะเล่นให้ทีมระดับกลางๆ ค่อนไปทางหนีตกชั้นบ่อยๆ อย่าง เซาแธมป์ตัน แต่ความยอดเยี่ยมของ แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ก็ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะมองข้ามได้ตลอด 16 ปีในอาชีพค้าแข้ง ที่แม้แต่ ชาบี ตำนานกองกลาง บาร์เซโลน่า ก็ยังหลงใหล
“ทั้งบ้านของเรา หลงใหลในตัวเขา ทุกๆ สัปดาห์ไม่มีพลาด เราดูไฮไลท์พรีเมียร์ลีก และ เลอ ทิสซิเอร์ ก็จะยิงประตูสวยๆ ออกมาให้เห็น” ชาบี กล่าวกับ FourFourTwo ในปี 2016
ถึงไม่ได้เล่นใน UCL แต่แค่คำชมของ ชาบี ก็น่าจะบอกถึงความยอดเยี่ยมของ ตำนานแข้ง นักบุญ ได้เป็นอย่างดี
กองกลาง : ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน
อีกหนึ่งแข้งขวัญใจแฟนบอลยุค 90 รวมไปถึงแฟนบอล ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อย่าง ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน ที่ผ่านการค้าแข้งกับทีมนี้ รวมไปถึง พอร์ธสมัธ และ ทีมชาติอังกฤษ มากกว่า 600 นัด ตลอด 18 ปีในอาชีพ
บางที อดีตกองกลางวัย 51 ปี อาจประสบความสำเร็จยิ่งกว่านี้ หากเขาตอบรับข้อเสนอของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 1995 ซึ่งหมายความว่าเขาจะได้เล่นในบอลยุโรปอย่างแน่นอน
กองกลาง : คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์
คงไม่ผิดนัก หากจะบอกว่า คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ เป็นนักเตะชาวอเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังยิงไป 72 ประตู จาก 275 เกมให้กับ ฟูแล่ม และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
หนึ่งในจุดพีกที่สุดของ ดาวเตะเลือดมะกัน คือการพา เจ้าสัว ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ทว่าการย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ก็ไม่สามารถเติมเต็มให้เขาได้โชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ดี
กองหน้า : เปาโล ดิ คานิโอ
การเล่นให้กับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, เวสต์แฮม หรือ ชาร์ลตัน คงไม่มีทางทำให้ เปาโล ดิ คานิโอ ได้โชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ลีก ทว่านั่นก็ไม่ได้ลดความยอดเยี่ยมที่เขาแสดงให้เห็นในพรีเมียร์ลีกแต่อย่างใด
อีกทั้ง แข้งจอมติสแตกชาวอิตาเลี่ยน ก็ยังได้เล่นฟุตบอลรายการยุโรป มาแล้ว ทั้งในสมัยที่ค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ซึ่งคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ในปี 1993 รวมไปถึงถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ เอซี มิลาน ในปี 1995 ด้วย
กองหน้า : เอียน ไรท์
หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1997-98 กับ อาร์เซน่อล เอียน ไรท์ ก็ถูกขายให้กับ เวสต์แฮม ซึ่งถ้าเขายังอยู่กับ ปืนใหญ่ อีกสักปี ก็น่าจะได้โอกาสลงเล่นใน UCL หลังเคยผ่านการเล่นในฟุตบอลทวีปรายการอื่นมาหมดแล้ว ทั้ง ยูฟ่า คัพ, ซูเปอร์ คัพ หรือ คัพ วินเนอร์ส คัพ
อย่างไรก็ตาม ไรท์ ก็ยังเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดยุคพรีเมียร์ลีก หลังซัดไปถึง 113 ประตูจาก 213 นัด
กองหน้า : เลส เฟอร์ดินานด์
ตลอดเวลาที่ เลส เฟอรดินานด์ ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก เขาเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำมากมาย ทั้งสมัยที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงกับ คิวพีอาร์, กลายเป็นหอกเบอร์ต้นๆ ของลีกกับ นิวคาสเซิ่ล, ช่วงย้ายมาเล่นกับ สเปอร์ส หรือตอนกลายเป็นหอกตัวเก๋า ทั้งกับ เวสต์แฮม, เลสเตอร์ และ โบลตัน
ยูฟ่า คัพ เป็นรายการเดียวในฟุตบอลยุโรป ที่อดีตหัวหอกวัย 56 ปี เคยมีส่วนร่วม ในสมัยเล่นให้ สาลิกาดง แต่สุดท้ายก็ไปไกลแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เหล่าตัวสำรอง
เดวิด เจมส์ มีสถิติลงเล่นให้พรีเมียร์ลีกมากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 4 แต่ก็เคยลงเล่นแค่ถ้วย ยูฟ่า คัพ กับ คัพ วินเนอร์ คัพ ให้กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น เช่นเดียวกับอดีตเพื่อนร่วมทีมรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง สแตน คอลลิมอร์
เทรเวอร์ ซินแคลร์ ที่เคยยิงประตูโอเวอร์เฮด คิก สุดสวยในระยะ 25 หลากับ คิวพีอาร์ ก็เคยเล่นในบอลยุโรปแค่รายการยูฟ่า คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม
และที่น่าเสียสุดคือ รอรี่ ดีแล็ป ตำนานแข้งสโต๊ค ซิตี้ เจ้าของอาวุธลับท่าทุ่มไกล ที่อันตรายไม่ต่างจากลูกฟรีคิก หรือการเปิดจากลูกเตะมุมเลย ซึ่งหากได้เห็นเขาทำแบบนั้นใน UCL คงจะน่าจดจำไม่น้อย