หนึ่งในเรื่องราวสุดแปลกประหลาดที่สุดในโลกลูกหนังคือการที่ผู้เล่นตำแหน่งเอ้าท์ฟิลด์ต้องรับบทบาทนายทวารจำเป็นอย่างช่วยไม่ได้
โดยเหตุผลที่อาจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจเป็นเพราะประตูคนก่อนหน้านี้ถูกไล่ออก, ได้รับบาดเจ็บ แต่บางครั้งก็มีเหตุผลประหลาดๆ อะไรก็ตามที่กุนซือจะนึกขึ้นมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเช่นกัน
และ UFA ARENA จะพาไปพบ 10 เรื่องราวที่ยอดเยี่ยมและชวนหัวเราะที่สุดของนักเตะที่ไม่ได้ต้องการสวมถุงมือนายประตูตั้งแต่แรก
คอสมิน โมติ (ลูโดโกเรต์ส รัซกราด พบ สเตอัว บูคาเรสต์, 2014)
ปราการหลังอย่าง โมติ ทำประตูในนัดนั้นไป 1 ลูก พร้อมกับเซฟจุดโทษอีก 2 ลูก ช่วยให้ม้ามืดจากประเทศบัลแกเรีย เอาชนะสเตอัว บูคาเรสต์ ทีมจากโรมาเนีย และผ่านเข้าไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในรอบแบ่งกลุ่มของปีนั้นได้สำเร็จ
กองหลังแดนผีดิบได้รับบทนายทวารจำเป็น เมื่อผู้รักษาประตูของทีมอย่าง วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ โดนไล่ออกก่อนหมดช่วงต่อเวลาพิเศษแค่ 2 นาทีเท่านั้น หลังไปรวบ เฟร์นานโด วาเรล่า นักเตะคู่แข่งล้มลง
แน่นอนว่า โมติ ได้รับการสรรเสริญยกย่องอยู่แล้ว แต่มันกลับมากกว่าที่เจ้าตัวคิด เพราะ คิริล โดมูเชฟ เจ้าของทีม ลูโดโกเรต์ส สัญญาว่าจะตั้งชื่อเขาให้กับสแตนด์ฝั่งนึงในสนามใหม่ ขณะที่ร้านอาหารท้องถิ่นในเมืองก็เริ่มตั้งชื่ออาหารตามชื่อของ โมติ ด้วย
ลูคัส ราเดเบ้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลีดส์ 1996)
เจ้าของฉายา ‘เดอะ เชฟ’ หรือหัวหน้าในเมืองบ้านเกิด โยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนจะพัฒนาตัวเองจนได้มาอยู่กับ ลีดส์ ในปี 1994 และค้าแข้งกับ นกยูงทอง มานานนับ 10 ปีตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปี 2005 แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนบอล พรีเมียร์ลีก น่าจะจำเขาได้ดีคือนัดที่ปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 1996
มาร์ค บีนี่ย์ โดนไล่ออกตั้งแต่นาที่ 17 หลังใช้มือนอกกรอบเขตโทษ ทำให้ ราเดเบ้ ต้องทำหน้าที่เฝ้าประตูเอง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องรับบทบาทจำเป็นแบบนี้ เพราะหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำมาแล้วในเกมที่กับ มิดเดิลสโบรห์
แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือเขาโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งดูไม่ต่างอะไรกับนายทวารมืออาชีพเลย รวมทั้งเซฟทั้งลูกยิงของ ไบรอัน แม็คแคลร์, แอนดี้ โคล และ ไรอัน กิ๊กส์ ได้ และพลาดท่าเสียประตูให้กับลูกยิงของ รอย คีน เท่านั้น จน ราเดเบ้ ได้รับการปรบมือจากแฟนบอล ‘ปีศาจแดง’ ไม่น้อยเลยในเกมวันนั้น
แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส พบ แอสเตราส ปริโตลี 2014)
สเปอร์ส เปิดไวท์ ฮาร์ท เลน โชว์โหดทุบทีมจากกรีซ ไป 5-1 ในศึกยูโรป้า ลีก โดย แฮร์รี่ เคน ซัดแฮตทริกให้กับทีมในวันนั้น รวมไปถึง เอริค ลาเมร่า ที่ขโมยซีนยิงประตูด้วยลูกไขว์ในเกมนัดนั้นด้วย
แต่แล้วเรื่องประหลาดชวนหัวก็เกิดขึ้น เมื่อ อูโก้ โยริส มือกาวของทีมบาดเจ็บในนาทีที่ 87 และทีมดันไม่เหลือโควต้าเปลี่ยนตัวผู้เล่นแล้ว ซึ่งกองหน้าชาวอังกฤษ ก็อาสามารับหน้าที่นี้เฉย และจริงๆ แล้วเขาไม่ควรจะเข้ามายุ่มย่ามกับตำแหน่งนี้เลย เพราะแค่จังหวะแรกในการทำหน้าที่นี้ของ เคน ก็รับลูกยิงของ เจโรมิโน่ บาร์ราเรส พลาดจนเสียประตูไปซะอย่างนั้น
แบร์รี่ ริชาร์ดสัน (วีคอมบ์ พบ พลีมัธ 2016)
คุณคงไม่คิดว่าจะได้สวมถุงมือลงเฝ้าหน้าปากประตูให้ทีมในเกมฟุตบอลอาชีพด้วยวัย 46 ปีหรอกใช่มั้ย? แน่นอนว่าตัว แบร์รี่ ริชาร์ดสัน ก็ไม่เคยคาดคิดอะไรเช่นนั้นเหมือนกัน
เขาจำเป็นต้องลงไปเป็นประตูแทน อเล็กซ์ ลินช์ นายทวารเบอร์หนึ่งที่บาดเจ็บก่อนหมดเวลา 15 นาที และโชคดีที่ วีคอมบ์ ของ ริชาร์ดสัน เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 แม้ทีมจะนำอยู่ตั้งแต่ก่อนเขาลงสนามก็ตาม และนี่ยังช่วยให้เขากลับมาลงเล่นในฟุตบอลอาชีพอีกครั้งในรอบ 10 ปีอีกด้วย
อลัน กิลเรสซ์ (บอร์กโดซ์ พบ น็องต์ 1982)
ปี 1982 ประธานสโมสร บอร์กโดช์ เคล้าด์ เบซ โกรธแค้นสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส มากที่ลงโทษแบน ดราแกน พันเทลิค มือกาวของทีมถึง 1 ปีเต็มข้อหาไล่หวดไลน์แมนข้างสนาม ซึ่งในเกมสุดท้ายของลีก เบซ ปฏิเสธที่จะส่งโกลลงในรายชื่อ 11 ตัวจริงที่พบกับ น็องต์ส โดยที่ทีมคว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่า คัพ ฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว
ภาะทั้งหมดจึงตกมาอยู่ กิลเรสซ์ กองกลางตัวเก่งของทีมที่ติดทีมชาติฝรั่งเศสไป 47 นัด ที่ท่านประธานบังคับให้ไปเล่นเป็นประตู เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็คือเพราะเขาเป็นกัปตันทีมนั่นเอง
แต่คราวเคราะห์ยังไม่หมดแค่นั้น เนื่องจากทีมไม่ส่งนายทวารลงในรายชื่อตัวจริง ส่งผลให้ กิลเรสซ์ ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูแต่เขาก็ไม่สามารถใช้มือได้เลย ก่อนที่ทีมจะเสียประตูไปถึง 5 ลูกภายในเวลาแค่ชั่วโมงเท่านั้น
ฟิล จากีลก้า (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล 2006)
“นีล วอร์น็อค คุ้นเคยกับการฝึกซ้อมแบบสุดโต่งในบางครั้งเมื่อเขาตัดสินใจปล่อยให้ผู้รักษาประตูไปเล่นเป็นผู้เล่นเอ้าฟิลด์ วันหนึ่งผมได้ลองไปเล่นตรงนั้นและทำได้ดี ผู้จัดการทีมก็เลยตัดสินใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีโกลสำรองข้างสนามอีกต่อไป” ฟิล จากีลก้า กล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
นั่นทำให้เขามีหน้าที่พิเศษเพิ่มขึ้นอีกตำแแหน่ง เขาลงเฝ้าเสาให้ทีม ‘ดาบคู่’ ถึง 4 ครั้ง ซึ่งเป็นเวลาที่ แพ็ดดี้ เคนนี่ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งบาดเจ็บหรือถูกไล่ออก และหนึ่งในเกมแห่งความทรงจำของกองหลัง เอฟเวอร์ตัน ก็คือเกมที่เขาปัดลูกยิงของ โรบิน ฟาน เฟอร์ซี่ ได้แค่ปลายนิ้ว ในปี 2006 ซึ่งเป็นช็อตสำคัญช่วยพวกเขาเอาชนะ ‘ปืนใหญ่’ ในเกมนั้นด้วย
จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี พบ เรดดิ้ง 2006)
เกมในวันนั้น ปีเตอร์ เช็ก นายทวารตัวหลักโชคร้ายหลังศรีษะเข้าไปปะทะกับหัวเข่าของ สตีเฟ่น ฮันท์ นักเตะของ เรดดิ้ง เข้าอย่างจัง ทำให้ต้องถูกปฐมพยาบาลโดยด่วนและถูกเปลี่ยนออกทันที แต่ทว่าโกลอีกคนที่ลงแทนเช็กอย่าง คาร์โล คาดูชินี่ ก็ดันมีอาการบาดเจ็บในเกมนั้นอีก
ภาระทั้งหมดจึงตกมาที่กัปตันทีมคนเก่งอย่าง จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ไปยืมเสื้อผู้รักษาประตูของ ฮิลาริโอ มาสวมใส่ แต่ก็โชคดีที่นั่นเป็นช่วงเวลาท้ายเกม ไม่อย่างอย่างนั้นแฟนบอลทั่วโลกอาจจะได้เห็นการเซฟอันยอดเยี่ยมของเทอร์รี่ก็เป็นได้
แยน โคลเลอร์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบ บาเยิร์น มิวนิค 2002)
ทันทีที่ เยนส์ เลห์มันน์ ถูกเชิ้ตดำไล่ออกจากสนามในเกมที่พบกับเสือใต้ นาทีที่ 67 มัทธีอัส ซามเมอร์ กุนซือ ‘เสือเหลือง’ ก็ผุดไอเดียสุดยอดขึ้น ด้วยการจับกองหน้าร่างโย่งอย่าง แยน โคลเลอร์ ที่มีความสูงถึง 202 เซนติเมตรมาประจำการที่หน้าปากประตูของทีมซะเลย
ความคิดนี้ดูเหมือนจะได้ผล กองหน้าชาวเช็ก โชว์ฟอร์มในฐานะผู้รักษาประตูจำเป็นอย่างได้ยอดเยี่ยมแบบที่ไม่มีคาดคิด แถมยังเซฟลูกยิงของ มิชาเอล บัลลัค ได้ด้วย ทำให้ ทำให้ โคลเลอร์ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ในฐานะผู้รักษาประตู
จอห์น โอเช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ สเปอร์ 2002)
จอห์น โอเช เป็นที่รู้จักของแฟน ‘ปีศาจแดง’ เป็นอย่างดีในฐานะนักเตะอเนกประสงค์ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ลงเล่นทุกตำแหน่งในเกมรับมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรับ, กองหลังตัวกลาง, แบ็คซ้าย-ขวา รวมไปถึงผู้รักษาประตูเช่นกัน
แข้งชาวไอร์แเลนด์ได้กลายร่างเป็นนายด่านจำเป็น เมื่อ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มือกาววัยเก๋าของทีมได้รับอาการบาดเจ็บจมูกแตกและไม่สามารถเล่นต่อไปได้ ซึ่ง โอเช ก็โชว์ฟอร์มดีจนน่าประหลาดใจ ช็อตสำคัญในเกมนั้นคือ การสกัดลูกหลุดเดี่ยวของ ร็อบบี้ คีน จน เฟอร์กี้ ออกปากชื่นชม โอเช หลังเกมเลยทีเดียว
มิชาเอล ทาร์นาท (ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบ บาเยิร์น มิวนิค 1999)
โชคดูจะไม่เข้าข้าง ‘เสือใต้’ ในวันนั้นแล้ว หลัง โอลิเวอร์ คาห์น ประตูเบอร์หนึ่งของทีมโดนอัดจนวูบไปชั่วขณะและต้องส่ง แบรนด์ ดรีเออร์ มือกาวเบอร์สองลงมาเฝ้าเสาแทน แต่ก็ดันมาบาดเจ็บจากอาการเอ็นฉีก แถมทีมยังต้องมาตามหลังอีก 1 ประตู
อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัว มิชาเอล ทาร์นาท กองกลังของทีมไปเป็นนายทวารยามฉุกเฉินแทน และดูเหมือนว่าโชคจะกลับมาเข้าข้าง บาเยิร์น พร้อมๆกับการลงสนามของ ทาร์นาท พวกเขาได้ 2 ประตูรวดใน 14 นาทีต่อมา แถม ทาร์นาท ยังช่วยเซฟลูกสำคัญให้ทีมคว้า 3 แต้มออกมาจากบ้านของ ‘อินทรีแดงดำ’ ได้สำเร็จ
บทความที่เกี่ยวข้อง
