สโมสรระดับท็อปทั่วโลกย่อมเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีเสมอ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพวกเขาก็ไม่ลืมปลุกปั้นเหล่าดาวรุ่งในทีมและเฝ้ามองแข้งเหล่านั้นเติบโตเช่นกัน
ท่ามกลางแข้งบิ๊กเนมในทีมชุดใหญ่อาจเป็นเรื่องยากที่นักเตะหนุ่มน้อยประสบการณ์จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงได้สม่ำเสมอ แต่ถ้าพวกเขาเหล่านั้นทำผลงานได้เข้าตา เหล่ากุนซือและสโมสรก็พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนให้ก้าวหน้าในอาชีพค้าแข้งต่อไปอย่างมั่นคง
UFA ARENA จึงขอเสนอ 10 ดาวรุ่งที่ทีมใหญ่ปลุกปั้นกับมือและผลักดัน เฝ้าดูพวกเขาเติบโตไปเรื่อยๆจนก้าวขึ้นไปเป็นดาวในอนาคต
มาร์คัส แรชฟอร์ด | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด มีชื่อในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายเลกสองที่พบกับ มิดทิลแลนด์ ในฤดูกาล 2015-16 เนื่องจากแข้ง 13 คนในชุดใหญ่มีอาการบาดเจ็บ และถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงแบบกะทันหัน แทนที่ อองโทนี่ มาร์กซิยาล ที่เจ็บตอนวอร์มร่างกาย
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายคนจดจำชื่อของ แรชชี่ หลังกดไป 2 ประตูช่วยให้ ‘ปีศาจแดง’ ชนะไป 5-1 จากนั้นอีก 3 วันต่อมาก็เหมา 2 ประตูให้ทีมเฉือนชนะ อาร์เซน่อล 3-2
ในฤดูกาล 2016-17 เป็นต้นมา กองหน้าลูกหม้อของ ยูไนเต็ด ถูกดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่เต็มตัวในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และกลายเป็นตัวหลักของทีมเรื่อยมานับตั้งแต่นั้นจนถึงยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในปัจจุบัน
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ | ลิเวอร์พูล
หลังคุม ลิเวอร์พูล ได้ราวๆ 1 ปี เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ให้โอกาส เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ประเดิมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมลีกคัพที่เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 แต่ก็ไม่ได้มีส่วนกับทีมมากนักในฤดูกาลนั้น
จนกระทั่ง นาธาเนี่ยล ไคลน์ แบ็คขวาตัวหลักมีอาการบาดเจ็บช่วงต้นฤดูกาล 2017-18 ทำให้ TAA ได้ลงสนามมากขึ้นร่วมกับ โจ โกเมซ เพื่อนร่วมรุ่น ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆยกระดับฝีเท้าจนยึดตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงได้ในเวลาต่อมา ชนิดที่ ไคลน์ หมดโอกาสทวงตำแหน่งนี้คืนไปโดยปริยาย
แม้ฟอร์มตกไปบ้างในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ อาร์โนลด์ ก็มีส่วนสำคัญในการพา ‘หงส์แดง’ คว้าแชมป์ นับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ แชมป์สโมสรโลกปี 2019 และ แชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2020
เมสัน กรีนวู้ด | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลายคนเริ่มให้ความสนใจในตัวของ เมสัน กรีนวู้ด ตั้งแต่เห็นนชื่อบนทีมชุดใหญ่ครั้งแรก ในฐานะแข้งอายุน้อยสุดอันดับที่ลงเล่นในเกมยุโรป นัดพบ เปแอสเช เมื่อปี 2019 ก่อนได้ประเดิมเกมลีกครั้งแรกในฐานะตัวสำรองเกมพ่าย อาร์เซน่อล 2-0
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมเกินวัยในทีมเยาวชน บวกกับมีแววในทีมชุดใหญ่ ทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ดันหอกดาวรุ่งขึ้นมาเล่นในทีมของเขาเต็มตัว ในฤดูกาล 2019-20 และตอบแทนความไว้ใจด้วยผลงาน 17 ประตูจาก 49 นัด
ผลงานอาจตกลงไปในฤดูกาลต่อมาที่ 12 ประตูจาก 52 เกม และไม่ใช่ตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ แต่ ‘ไอ้ไม้เขียว’ ก็ยังมีเวลาพัฒนาฝีเท้าอีกยาวไกล และมีสิทธิ์ก้าวไปเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ ยูไนเต็ด ในอนาคตได้แน่นอน
ฟิล โฟเด้น | แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจเป็นทีมที่เน้นทุ่มซื้อมากกว่าสร้างก็จริง โดยเฉพาะในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่อย่างน้อยพวกเขาก็คนลุกปั้นเพชรเม็ดงามขึ้นประดับวงการลูกหนังอยู่บ้าง และหนึ่งในนั้น ฟิล โฟเด้น ลูกหม้อที่เติบโตกับทีมตั้งแต่ปี 2009
เพลย์เมกเกอร์ชาวอังกฤษ ถูกดันขึ้นมาชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวัยเพียง 16 ปีเศษๆ เมื่อปี 2016 แต่ได้ลงเล่นครั้งแรกจริงๆในฤดูกาล 2017-18 แต่ก็ยังไม่รับโอกาสมากพอในปีต่อมา เนื่องจาก ณ ตอนนั้น ‘เรือใบสีฟ้า’ เต็มไปด้วยตัวสร้างสรรค์เกมชั้นดีมากมาย
อย่างไรก็ตาม หลัง ดาบิด ซิลบา ลาทีมไป โฟเด้น ก็เข้ามาแทนที่ตำแหน่งตัวทำเกมได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ ซิตี้ กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 3 ในยุดของ เป๊ป
อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ | บาเยิร์น มิวนิค
บรรดานักเตะในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ ไม่ใช่ตลาดที่ทีมใหญ่ในยุโรปจับตามองอยู่แล้ว แต่ฝีเท้าของ อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ ที่โดดเด่นสุดๆกับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค มือไวคว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2018 เหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่มีข่าวให้ความสนใจ
แน่นอนว่าปีแรกใน ‘เสือใต้’ แข้งชาวแคนาดา ถูกจัดอยู่ในแข้งดาวรุ่งที่ยังไม่สุกงอมเต็มที่ จึงได้ลงสนามเพียง 6 นัดเท่านั้น แต่คราวฉายแสงของ เดวี่ส์ ก็มาถึงในฤดูกาล 2019-20 เมื่อถูก นิโก้ โควัช โยกไปเล่นแบ็คซ้าย แทนที่ ดาบิด อลาบา ที่ขยับมาเล่นเซ็นเดอร์แบ็ค ซึ่งทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเกินคาด
แม้เปลี่ยนกุนซือกลางทาง แบ็คจรวดวัย 20 ปีก็ยังรักษามาตรฐานที่ยอดเยี่ยมในยุคของ ฮานซี่ ฟลิก แถมมีส่วนสำคัญช่วยให้ บาเยิร์น คว้าทริปเบิ้ลแชมป์มาครองอย่างยิ่งใหญ่ด้วย
เมสัน เม้าท์ | เชลซี
เชลซี เป็นทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมาย แต่พวกเขามักปล่อยให้ทีมอื่นๆยืมไปใช้งานบ่อยๆ จนบางครั้งก็พลาดของดีโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ใช่กับ เมสัน เม้าท์ ลูกหม้อที่พวกเขาปลุกปั้นมาตั้งแต่ปี 2005
หลังถูกปล่อยให้ ดาร์บี้ ยืมไปใช้งาน 1 ฤดูกาล ปีกชาวอังกฤษ ก็ได้โอกาสเล่นกับ สิงห์บลู ในทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในฤดูกาล 2019-20 ภายใต้การดูแลของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เคยร่วมงานกันแล้วสมัยเล่นกับ ‘แกะเขาเหล็ก’
แม้หลายคนมองว่า เม้าท์ อาจหมดอนาคตใน เดอะ บริดจ์ หลัง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาแทนที่ แลมพ์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าตัวก็พิสูจน์ว่าฝีเท้าของเขาคู่ควรในทีม พร้อมมีส่วนพาสโมสรคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในปี 2021 ด้วย
บูคาโย่ ซาก้า | อาร์เซน่อล
กรณีของ บูคาโย่ ซาก้า ต้องบอกว่าคล้ายคลึงกับ อาร์โนลด์ ในลิเวอร์พูล ไม่น้อย เนื่องจากได้โอกาสลงเล่นในชุดใหญ่มากขึ้น เพราะตัวหลักอย่าง เซอัด โคลาซินัช และ คีแรน เทียร์นี่ย์ บาดเจ็บช่วต้นปี 2020
ปีกชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย จึงถูกขยับลงไปเล่นแบ็คซ้ายในทีม และกลายเป็นตัวหลักของ อาร์เซน่อล ทันที พร้อมทำไป 11 แอสซิสต์ จาก 38 นัดในทุกรายการ พร้อมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ไปปีนั้นเหนือ เชลซี ด้วย แม้เป็นแค่ตัวสำรองในนัดชิงก็ตาม
หลัง เทียร์นี่ย์ กลับมาทวงตำแหน่งแบ็คซ้าย ซาก้า ก็ยังเป็น 1 ใน 11 ตัวจริงที่ มิเกล อาร์เตต้า ไว้วางใจ และท่ามกลางผลงานที่ย่ำแย่ในฤดูกาล 2020-21 เขาก็เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอมากที่สุด กับ 7 ประตู และ 10 แอสซิสต์ ใน 46 นัด ก่อนถูกโหวตจาก ‘กูนเนอร์ส’ ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร
จู้ด เบลลิ่งแฮม | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
จู้ด เบลลิ่งแฮม โดนค่อนขอดจากแฟนบอลไม่น้อย หลังย้ายซบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในปี 2020 ด้วยค่าตัวราวๆ 25 ล้านปอนด์ ทั้งๆที่เพิ่งเล่นชุดใหญ่ของ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ได้เพียงปีเดียว และมีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น
แต่ กองกลางชาวอังกฤษ ก็สยบเสียงวิจารณ์เหล่านั้นให้เงียบสนิท หลังปรับตัวกับการเล่นในบุนเดสลีก้าอย่างรวดเร็ว พร้อมก้าวขึ้นไปตัวหลักแดนกลางของ ‘เสือเหลือง’ โดยลงเล่นไปทั้งหมด 46 นัดในทุกรายการ พร้อมช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาล 2020-21 มาครอง
อันซู ฟาติ | บาร์เซโลน่า
อันซู ฟาติ ได้รับการคาดหวังว่าจะกลายเป็น ลิโอเนล เมสซี่ คนต่อไป ซึ่งหากดูจากสถิติที่เขาสร้างไว้หลังลงเล่นชุดใหญ่เป็นครั้งแรกก็ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะคิดเช่นนั้น
ไม่ว่าจะเป็น สถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นใน ลาลีก้า, นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้กับ บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่, นักเตะอายุน้อยสุดที่ยิงประตู และแอสซิสต์ ในเกมเดียวกันได้ในลา ลีกา รวมถึงติดทีมชาติสเปนอายุน้อยสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์
น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บเล่นงานจนเขาพลาดโอกาสฉายแสงตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา และเชื่อว่าเมื่อ ฟาติ หายกลับ เขาจะได้รับโอกาสนี้ใน ‘อาซูลกราน่า’ อย่างแน่นอน
เปดรี้ | บาร์เซโลน่า
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เปดรี้ ถูก โรนัลด์ คูมัน ดันจนกลายเป็นตัวหลักของ บาร์เซโลน่า ด้วยลีลาการเล่นที่เด่นเกินวัย และคล้ายคลึงกับ อันเดรส อิเนียสต้า ตำนานของสโมสรไม่น้อย โดยลงเล่นไปแล้ว 52 นัดในทุกรายการ แบ่งเป็น ลา ลีกา 37 เกม, โกปา เดล เรย์ 6 เกม, ซูเปอร์โกปา 2 เกม และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 7 นัด
แต่นี่ไม่ใช่จำนวนเกมทั้งหมดที่ กองกลางวัย 18 ปี ลงสนามตลอดฤดูกาล 2020-21 เพราะหากนับรวมในทีมชาติสเปน เขาลงเล่นไปอีก 21 เกมทั้งในรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี, ยูโร 2020 และมาถึงในกีฬาโอลิมปิกเกมส์
ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้ เปดรี้ กลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นมากสุดในซีซั่นเดียว แซงหน้า บรูโน่ แฟร์นานเดส จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวน 73 นัด