ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ 2 แข้งดังตกเป็นเป้าโจมตีกลุ่มแฟนบอลอุลตร้าของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังผลงานที่น่าผิดหวังกับสโมสรในฤดูกาลนี้
แม้ทั้งคู่เริ่มต้นได้ดีช่วงต้นซีซั่น แต่การเหลือแค่ลีกเอิงให้ลุ้นแค่รายการเดียวในตอนนั้น สร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ เปแอสเช ไม่น้อย อีกทั้งพฤติกรรมของ ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็ทำให้ออกมาโจมตี หลังบินไปซาอุดิอาระเบีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสโมสร จนมีข่าวว่าเตรียมแยกทางในถิ่น ปาร์ค เดส์ แพรงส์ หลังหมดสัญญาแน่นอน แม้ล่าสุดเจ้าตัวจะออกมาขอโทษแฟนๆและสโมสรแล้วก็ตาม
ขณะที่ แข้งดังชาวบราซิลเลี่ยน ถูกคาดหวังอย่างมาก นับตั้งแต่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาค้าแข้งให้ทีมเมืองหลวงแดนน้ำหอม ในปี 2017 ทว่าผลงานโดยรวมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็ขาดความสม่ำเสมอ และเจ็บบ่อยๆ ทำให้ช่วงที่ผ่านมา แฟนๆได้บุกไปถึงบ้านของเขา พร้อมตะโกนขับไล่ให้พ้นทีม
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ใช่ 2 นักเตะคนแรกๆที่โดนแฟนบอลของสโมสรตัวเอง แสดงความเกรี้ยวกราดใส่แบบนี้ และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 แข้งดังโดนแฟนสโมสรตัวเองเกลียด ตั้งแต่ระดับพอประมาณจนไปถึงไม่เผาผีเลย
เดวิด เบ็คแฮม
เดวิด เบ็คแฮม ได้รับความรักจากแฟนบอลมาตลอด โดยเฉพาะตอนที่ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แฟน ‘ปีศาจแดง’ ออกมาปกป้องเขา หลังโดนคนอื่นๆในอังกฤษ ตีตราให้เป็นแพะรับบาป ที่เป็นต้นเหตุทำให้บ้านเกิดตกรอบ หลังโดนใบแดง กับเกมที่พบกับ อาร์เจนติน่า ในศึกฟุตบอลโลก 1998
แต่อีกหลายปีต่อมา ดาวเตะหน้าหยก ก็ต้องพบกับความโกรธแค้นจากแฟนบอลในสโมสรตัวเอง ในตอนที่อำลา แอลเอ กาแล็คซี่ ไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน แบบยืมตัว ในปี 2009 เนื่องจากหลายคนคาดหวังว่าเขาควรจะเป็นคนที่พาฟุตบอลในอเมริกา เข้าสู่ยุคใหม่ หลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด
เบ็คแฮม พลาดลงสนามไปทั้งหมด 17 เกมในช่วงที่ย้ายไปเล่นใน ซาน ซีโร่ ไม่แปลกที่เมื่อเขากลับมายังแอลเอ อีกครั้ง จะเจอการต้อนรับที่เย็นชาจากแฟนๆสโมสร ซ้ำร้ายยังถูกโห่ในสนาม พร้อมติดแบนเนอร์ด่าแบบหนักๆใจความว่า ‘กลับบ้านไปซะ ไอ้ตอแหล’
อย่างไรก็ตาม แข้งดังเลือดผู้ดี น่าจะเป็นแค่คนเดียวในลิสต์นี้ ที่สามารถเรียกศรัทธาและความเชื่อใจจากแฟนบอลกลับมาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกครั้ง โดยเขาอยู่กับทีมจนถึงปี 2012 พร้อมคว้าแชมป์ เอ็มแอลเอส คัพ ในปีนั้นด้วย
ชาร์ลส์ อีตันเย่
ชาร์ลส์ อีตันเย่ เคยใช้เวลาอยู่กับ 3 ปีกับ ลิเวอร์พูล ระหว่างปี 2007-2010 ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในฐานะผู้รักษาประตูตัวสำรอง และไม่เคยลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกเลย แต่การอยู่ในแอนฟิลด์ คงเป็นที่ลืมเลือนไปง่ายๆ หากเขาไม่แสดงพฤติกรรมแย่ๆออกมาในระหว่างพิธีรำลึกโศกนาฎกรรมที่ฮิลส์โบโรห์
นายด่านชาวแคเมอรูน ถูกจับภาพได้ว่าหัวเราะ และเอาแต่สะกิดเพื่อนๆ ราวกับเป็นวัยรุ่นขี้เบื่อ ในช่วงพิธี นั่นทำให้เขาโดนพักงาน 14 วัน พร้อมปรับเงินอีก 2 สัปดาห์ แต่เขาก็ทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นไปอีก เมื่อบอกว่าเหล่า เดอะ ค็อป ทำตัวโอเวอร์มากเกินไป
“มันเป็นคลิปความยาว 30 วินาทีที่ผู้คนโวยวายกันเกินไป คุณต้องดูวิดีโอ 1 ชั่วโมงนะ ถ้าต้องการจะตัดสินพฤติกรรมของผม แต่คุณรู้ว่าพวกสื่อทั้งหลาย (ในอังกฤษ) พวกเขาชอบทำให้เรื่องมันใหญ่โต” เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์ Aujourd’hui Sport ของฝรั่งเศส
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ อีตันเย่ จะย้ายออกจาก ‘หงส์แดง’ ในช่วงเวลาสั้นๆ ในเวลาต่อมา โดยครั้งแรกถูกยืมตัวไปให้ คาวาล่า ทีมจากมาซิโดเนีย และแยกทางกับทีมหลังหมดสัญญา
แกเร็ธ เบล
คงไม่ผิดนัก หากจะบอกว่า แกเร็ธ เบล น่าจะเป็นนักเตะจากสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในต่างแดนมากที่สุดแล้ว กับตลอดเวลา 9 ปีใน เรอัล มาดริด เพราะมีนักเตะไม่กี่คนหรอกที่ได้ชูถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย พร้อมประตูสุดท้ายทั้งในนัดชิง โกปา เดล เรย์ กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2014 หรือกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิง UCL ปี 2018
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของ อดีตแข้งดังทีมชาติเวลส์ กับ มาดริดนิสต้า เข้าขั้นย่ำแย่ โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีสุดท้ายกับสโมสร โดยเฉพาะช่วงที่เขาถือธงที่มีข้อความว่า ‘เวลส์, กอล์ฟ, มาดริด’ ซึ่งเป็นหมือนกันเรียงลำดับว่าเขาให้ความสำคัญกับ ทีมชาติและการตีกอล์ฟ มากกว่าในสโมสร
ไม่เพียงแต่แฟนบอล ‘โลส บลังโกส’ จะไม่เอาแล้ว เบล ยังโดนสื่อในสเปน รุมวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่นับตั้งแต่นั้น จนกระทั่งลาทีมในปี 2022
โจลีออน เลสคอตต์
หลายคนอาจไม่เคนรู้ว่า โจลีออน เลสคอตต์ เป็นแฟนบอลของ แอสตัน วิลล่า มาตั้งแต่เด็ก ทว่าช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับ ‘สิงห์ผงาด’ เพียงปีเดียว กลับเต็มไปด้วยความทรงทำที่ไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะแฟนๆของสโมสร
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะอดีตกองหลัง เอฟเวอร์ตัน ดันไปทวีตรูปภาพรถเบนซ์คันใหญ่มูลค่า 120,000 ปอนด์ ในช่วงที่ วิลล่า กำลังหนีตกชั้น แถมดันไปบอกว่า ‘โล่งออก’ หลังทีมการันตีตกชั้นไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ชิพอีกต่างหาก
โรมัน โซซุลย่า
โรมัน โซซุลย่า มักใช้โซเชียลมีเดียแสดงความเห็นตรงไปตรงมาในการสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของยูเครน ประเทศบ้านเกิด ท่ามกลางความขัดแย้งกับ รัสเซีย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดยหัวหอกวัย 33 ปี ที่ติดทีมชาติไปแล้ว 33 นัด เคยย้ายไปเล่นกับ ราโย บาเยกาโน่ แบบยืมตัวในเดือนมกราคมปี 2017 แต่ก็ถูกบีบให้ย้ายออกจากทีม โดยที่ลงสนามแค่เกมเดียว เนื่องจากแฟนบอลมองว่าเขาเป็นพวกขวาจัดที่อวยกองทัพยูเครน โดยยกเลิกสัญญา และกลับไปยัง เรอัล เบติส ในเวลาต่อมา
ในเดือนธันวาคมปี 2019 โซซุลย่า ได้ย้ายมาเล่นให้ทีมจากเมืองบัลเยกาสอีกครั้ง แต่หนนี้เป็น อัลบาเซเต้ สโมสรในเซกุนด้า แต่ในเกมที่ออกไปเยือน ลูโก้ เขาถูกแฟนบอลเจ้าถิ่น ตะโกนว่า “โซซุลย่า แกมันไอ้นาซี” จนทำให้เกมต้องเลี่ยนไปในช่วงพักครึ่ง
เมาโร อิคาร์ดี้
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เมาโร่ อิคาร์ดี้ น่าจะเป็นตอนที่เขาเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน หลังซัดไป 124 ประตูจาก 219 นัดในทุกรายการ และครั้งหนึ่งเขายังเป็นที่รักของแฟนๆ ‘งูใหญ่’ อีกด้วย
ในตอนนั้นไม่มีใครข้องใจเรื่องผลงานในสนามของหอกชาวอาร์เจนไตน์ แต่ทว่าเรื่องนอกสนาม ก็ทำให้ฟอร์มของเขาค่อยๆตกลง อีกทั้งความสัมพันธ์กับแฟนบอล ‘เนรัซซูรี่’ ก็แย่ลงจนไปถึงจุดที่แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เดือนตุลาคมปี 2016 แข้งดังแดนฟ้าขาว ปล่อยหนังสืออัตชีวประวัติ ที่ในนั้นวิพากษ์วิจารณ์เหล่าอุลตร้าของอินเตอร์ และขู่ถึงขั้นว่าจะตามมาเฟียจากบ้านเกิดมาเพื่อจัดการคนเหล่านี้ จึงไม่แปลกเช่นกันที่แฟนบอลของสโมสร จะเกลียดขี้หน้าของ อิคาร์ดี้ ทันทีหลังจากเหตุการณ์นั้น
เอ็มมานูเอล เอบูเอ้
เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ไม่ได้ถูกแฟนๆ อาร์เซนอลเกลียดจนออกนอกหน้า และเขาก็ถือเป็นแข้ง ‘ปืนใหญ่’ อีกคนที่ได้รับสถานะคัลต์ ฮีโร่ เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ดีก็ดีใจหาย ถ้าแย่ก็หนักเอาการเหมือนกัน
แต่เรื่องที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในเกมกับ วีแกน เดือนธันวาคม 2008 เมื่อทุกสัมผัสบอลของฟูลแบ็คชาวไอวอรี่โคสต์ ถูกแฟนบอลในเอมิเรตส์โห่ใส่ และเขาแสดงความไม่พอใจออกมา ก่อนที่อาร์แซน เวนเกอร์จะเปลี่ยนตัวออก
อย่างไรก็ตาม เอบูเอ้ ก็ยังอยู่ในสโมสรต่อไปหลังเจอเหตุการณ์นั้น และค่อยๆกอบกู้ความเชื่อใจจากแฟนๆได้อีกครั้ง แม้ไม่ได้มากเท่าที่ กรานิต ชาก้า ทำได้ก็ตาม แต่ช่วงที่แฟนมองว่าเป็นแพะในเกมที่ทำผลงานไม่ดี หรือเป็นสาเหตุให้ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ ตกต่ำลง ก็ทำให้เขาเสียใจไม่น้อยเหมือนกัน
“เมื่อคุณเป็นนักฟุตบอล และถูกแฟนตัวเองโห่ใส่ มันแย่มากๆต่อความมั่นใจ หลังจากนั้นเหตุการณ์นั้น ผมบอกกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่าผมไม่อยากมาซ้อมแล้ว เพราะผมรู้สึกไม่ดีเลย” อดีตแข้งวัย 39 ปี กล่าวกับ The Telegraph ในปี 2016
“ผมกลับบ้านไป ผมร้องไห้ แต่ในสัปดาห์เดียวกัน แฟนๆบางกลุ่ม ก็เข้ามาสโมสรเพื่อขอโทษผมกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันดีมากๆ มันมีความหมายจริงๆ พวกเขาบอกว่า ‘เอบูเอ้ อย่าไปสนใจ นายรู้ดีว่าพวกเรารักนาย’ ”
ไมเคิ่ล โอเว่น
ไมเคิ่ล โอเว่น ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ในเดือนสิงหาคม ปี 2005 ด้วยสถิติสโมสร ทว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ทำให้เขาไม่ใช่ยอดกองหน้าคนเดิม หรือแข้งดังเจ้าของ บัลลงดอร์ เหมือนสมัยที่ฉายแสงกับ ลิเวอร์พูล อีกต่อไปแล้ว
และยิ่งเขานั่งอยู่ข้างสนามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ความเชื่อใจของเหล่า ทูน อาร์มี่ ลดน้อยถอยลง โดยเจ้าของฉายา เบบี้ โกล ลงเล่นเพียง 79 นัด ตลอด 4 ปีในสโมสร และยิงเพียง 30 ลูกเท่านั้น
โอเว่น ไม่ได้รับความนิยมจากแฟนๆ ‘สาลิกาดง’ อีกเลยในตอนนั้น และยังตกต่ำติดลบเข้าไปอีก ในช่วงที่เขาออกจากทีมไปแล้วหลังตกชั้น และการพูดถึงสโมสรหลังแขวนสตั๊ด หรือการทะเลาะกับ อลัน เชียเรอร์ อดีตดาวยิงขวัญใจชาวจอร์ดี้ ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น